บท
ตั้งค่า

ณภัทร & ณาราทิพย์

“พ่อขา หนูหิวจังเลยค่ะ” เด็กสาวตัวน้อยแทบกระโดดกอดคอชายผู้เป็นบิดา มารับกลับไปด้วยกัน สีหน้าเขายิ้มแย้มเมื่อได้พบกับนางฟ้าตัวน้อย ออดอ้อนเบิกบาน หลังเลิกเรียนวันนี้

“ขึ้นราชรถมาเลย แม่นางฟ้าตัวน้อยของพ่อ วันนี้เราจะไปหาอะไรอร่อยๆ กินด้วยกันนะ” เตชินท์โอบอุ้มรองรับร่างน้อยซึ่งมีเพียงน้ำหนักแค่ยี่สิบกว่ากิโล ไว้ในอ้อมกอด พลางอุ้มเจ้าตัวเล็กเท้าลอย เดินไปด้วยกันกับเขา

 

 

“บาย ณภัทร...” เด็กสาวตัวน้อยหันหน้ามาทางเพื่อนอนุบาลด้วยกันพลางโบกมือยิ้มแย้ม พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันและอยู่ห้องเดียวกัน

“บาย ณาราทิพย์” ณภัทรยืนส่งเพื่อนเด็กสาวตัวน้อย หลังจากพ่อของเธอเดินทางมารับที่ร.ร. เขายังต้องรอแม่ที่แสนดี มารับกลับบ้าน และเขาก็เริ่มหิวเสียแล้วสิ

เด็กชายตัวน้อยนั่งรออีกสักสิบนาที เริ่มได้ยินเสียงรองเท้าส้นหนา เดินหนักเข้ามาเรื่อยๆ จังหวะวันนี้มันเร็วกว่าทุกๆ วันที่เด็กน้อยอย่างเขาเคยได้ยิน

“ว่าไงจ๊ะ พ่อคนเก่ง หิวข้าวหรือยังลูก?”

“มากๆ เลยครับ วันนี้ผมอยากกินอาหารอร่อยๆ ฝีมือแม่นะครับ” ณภัทรเริ่มยิ้มออกเมื่อพบหน้าญาณินมารับเหมือนกับทุกๆ วัน เขามีความสุขมากเสมอพลางจูงมือขวาของเธอ แล้วเดินกลับไปที่รถด้วยกัน

“ถ้าเช่นนั้นถึงบ้านแล้วก็ควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำการบ้านรอแม่เสกอาหารอร่อยๆ นะ ไปกันเถอะ” ญาณินพยายามบังคับตัวเองให้พูดน้ำเสียงร่าเริงกับลูกตามปกติ ทั้งๆ ที่จิตใจของเธอขุ่นมัวเพราะเรื่องสามีไปมีหญิงอื่น

ตัวรถของเตชินท์ขับผ่านรถโตโยต้าแสนธรรมดาของญาณิน ในขณะเดียวกันหญิงสาวกำลังยืนหันหลังปิดประตูรถให้ณภัทรขึ้นนั่ง พวกเขาสองคนหันมายิ้มและโบกมืออีกครั้ง สายตาของเตชินท์มองกระจกหลังโดยไม่ได้เหลียวมองลูกสาวด้านข้าง

******

 

 

เตชินท์ขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าใหญ่ เพื่อพาลูกสาวคนโปรดเพียงคนเดียว ไปทานอาหารเย็น หวังว่าคงจะไม่เลือกอาหารประเภททอดอีก แต่แล้วเขาต้องเริ่มกุมขมับจนได้...

“เอาน่องไก่ทอด... และก็เอามันฝรั่งทอด กับโค้กแก้ว...ใหญ่...ใหญ่...” ณาราทิพย์หรือ ทิพย์ แม่เด็กสาวแก่นแก้วของเตชินท์ กำลังเปิดเมนูที่ร้านขายไก่ทอดมีชื่อ เพื่อสั่งอาหารและรอกินอย่างใจจดใจจ่อ

“กินแบบนี้บ่อยๆ มีหวังได้อ้วนตอนโตเป็นสาวกันพอดี แม่นางฟ้าของพ่อคงจะเป็นแม่หมูน้อยเข้าสักวันหนึ่ง” เตชินท์แซวลูกสาวอย่างสนิทสนม พร้อมกับรับเมนูมาอยู่ในมือ หวังว่าจะมีอาหารยอดฮิตสักเมนูดับความหิวเขาได้

“หนูไม่ยอมอ้วนเด็ดขาด สักวันหนูจะต้องเป็นนางฟ้าที่สวยงาม เข้าพิธีแต่งงานกับคนที่ชอบให้จงได้” เตชินท์ถึงกับตะลึงในความคิดของเด็กอนุบาลสอง ที่มีความคิดโตเร็วกว่าร่างกายยามนี้

“แปลว่าลูกสาวคนสวยของพ่อคงมีคนที่ชอบแล้วสินะ หนุ่มน้อยคนไหนนะ ช่างโชคร้าย....เอ่อ...” เตชินท์ลากเสียงพลางเหลือบไปมองแม่นางฟ้าตัวน้อยของเขา ชวนสยองขวัญเมื่อกำลังแซวลูกสาวคนโปรดยามนี้

“โชคดีที่สุดในโลกเลย...” เตชินท์ยิ้มแย้มแล้วเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ ไม่อยากให้ลูกสาวคนโปรดต้องอารมณ์เสีย และงอนใส่เขา

“ก็คนที่หนูโบกมือให้ไง เขามายืนเป็นเพื่อนหนู เวลารอคุณพ่อมาส่งทุกวันเลย รู้ป่าวคะ? เขาเป็นเพื่อนที่นิสัยดีมากๆ” ทิพย์รู้สึกถูกชะตากับเพื่อนคนนี้ และเขาก็นิสัยดีกับเธอมากๆ มันทำให้ทิพย์อยากจะแนะนำให้คุณพ่อของเธอรู้จักเขาบ้าง

“เอาไว้คราวหน้าค่อยแนะนำเพื่อนลูกคนนี้ให้พ่อลูกจักนะ ทิพย์ ทานไก่ทอดร้อนๆ ดีกว่านะ” เตชินท์ยังคงพยายามเอาใจลูกสาว เพราะเธอเป็นเด็กอารมณ์ดี นิสัยร่าเริง อีกทั้งยังเป็นสาวน้อยที่น่ารัก เรียนเก่ง สอบได้อันดับต้นๆ ของชั้นอนุบาลมาตลอด

“ทานข้าวกันเถอะค่ะ หอมเสียหนูอยากจะเอามากอดเลย...” ทิพย์หยิบซอสมาราดและลงมือจิ้มส้อมลงบนไก่ทอดร้อนๆ จานนี้ กับพ่อที่รักของเธอ

พวกเขามีกันแค่สองคนพ่อลูก ตั้งแต่หลังปีใหม่มา... เตชินท์อยากให้เมียของเขายังอยู่ ดูลูกสาวของเขายามนี้ เธอไม่โศกเศร้าอีกเลย ตั้งแต่ภรรยาเขาจากไปเพราะอุบัติเหตุทางเรือ เธอจมน้ำหายสาบสูญไป

แม้จะพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่พนักงานให้ดำน้ำหาศพของเธอ ก็ไม่พบเลย ซึ่งพวกเขาได้สันนิฐานเอาไว้ว่า เธออาจจะถูกฉลามลากไปกินจนไม่เหลือแม้กระดูก... เขาเศร้าเสียใจมากเมื่อสูญเสียเธอไป ตอนเธอไปเที่ยวตจว.กับเพื่อน

คงเอาผิดกับใครไม่ได้ นอกจากเป็นอุบัติเหตุกะทันหัน จนถึงทุกวันนี้ เขาได้แต่ปลอบใจลูกสาวว่า คุณแม่ไปทำงานต่างประเทศ และทำงานหนักมากจนไม่ว่างกลับมาบ้าน ณาราทิพย์ยังไม่รู้เลยว่าแม่ของเธอเสียชีวิตไปครึ่งปีกว่าแล้ว

“อยากให้คุณเห็นหน้าลูกตอนนี้จริงๆ ว่า ยิ่งแกโตขึ้นยิ่งเหมือนคุณมากๆ” เตชินท์แอบมองลูกสาวตัวน้อย จิ้มไก่กับซอสมะเขือเทศ อ้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อย พลางคิดถึงภรรยาที่จากไป...

******

 

ญาณินตั้งใจทำอาหารอยู่ที่บ้านอย่างดี และมากมายเต็มโต๊ะ อย่างน้อยเธอทำเพื่อลูกชายที่กำลังเติบโต เธอไม่รู้จะพูดกับลูกชายยังไงเสียด้วยซ้ำ

หากพ่อของเขาเกิดไปมีหญิงอื่นนอกครอบครัว ไม่รู้ว่าสักวันจะมีน้องคนละท้องกับแม่เขา มาฝากตัวเป็นน้องชายของณภัทรสักคนด้วยหรือเปล่า?

“ทานข้าวเยอะๆ นะครับแม่ อาหารวันนี้อร่อยทุกอย่างเลย” ณภัทรตักไข่เจียวฟูสวย กำลังร้อนๆ ใส่หน้าข้าวจานของญาณิน เธอแทบจะเม้มปากอมยิ้ม เกือบจะน้ำตาร่วง เมื่อลูกชายของเธอรักและเข้าใจ มากกว่าสามีตัวเองเสียด้วยซ้ำ

“ขอบใจนะ ณภัทร ลูกเป็นเด็กดีเสมอเลย” ญาณินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางตักไข่เจียวครึ่งช้อน และข้าวครึ่งช้อนอย่างบรรจง เพื่อทานอย่างเป็นสุข

“ผมอยากชวนเพื่อนมากินข้าวกับแม่ด้วย เธอเป็นคนเรียนเก่งมาก” ณภัทรพูดประโยคหนึ่งก่อนจะตักกะเพราไก่มาวางในจานข้าวตัวเอง ค่อยๆ ใช้ช้อนเด็กตักอาหารใส่ปากอย่างระวัง ไม่ให้หก

“เดี๋ยวนี้ร้ายนะเรา มีแฟนแต่เด็กเลยหรอ?” ณาณินเริ่มจะตกใจเมื่อณภัทรเริ่มพูดถึงเพื่อนผู้หญิง

“ใครบอกแฟน แม่มาจับคู่ผมกับเพื่อนได้ไง ทิพย์เป็นคนน่ารักดี นิสัยก็ดี ผมแค่อยากชวนมาให้แม่รู้จัก ว่าเพื่อนผมคนนี้นิสัยดีมาก เขายังช่วยผมทำการบ้านเลยนะครับ” ณภัทรค่อยๆ พูดไปอย่างระมัดระวัง มิให้ข้าวหล่นปาก

“สงสัยเพื่อนคนนี้ต้องพิเศษสำหรับลูกแน่ๆ” ญาณินหันไปตักผักต้มซุปน้ำร้อนหวานผัก ขึ้นมาซดพลางมองหน้าลูกชาย ค่อยเติบโตเป็นหนุ่มน้อย รู้สึกแปลกใจว่าทำไมเด็กสมัยนี้โตเร็วจริงๆ

“ผมเดินไปส่งเขากลับบ้านทุกวัน พ่อเขาก็มารับกลับบ้านเหมือนแม่เลยนะครับ” ณภัทรก็ช่างสังเกตเล่าเรื่องวันนี้ให้ญาณินฟังด้วย

“ระวังพ่อเขาหวงลูกสาวจนลูกไม่ได้คบกับเพื่อนคนนี้นะ” ญาณินแซวลูกชาย ซึ่งริอาจจะไปเทียบลูกสาวคนอื่น แถมพ่อมารับกลับบ้านอีกต่างหาก

“พ่อของทิพย์เป็นคนร่าเริงนะครับ ผมยังทักทายกับพ่อของทิพย์เลยนะครับ” ณภัทรยังคงเล่าเรื่องที่โรงเรียนวันนี้ให้ญาณินฟัง อยากให้แม่ของเขาได้รู้จักพ่อของทิพย์บ้าง เผื่อว่าเขาจะได้มีโอกาสสนิทสนมกับทิพย์มากกว่านี้

“จะให้แม่รู้จักทำไมกันรึ? หรือว่าจะให้แม่ไปเสียเงินเสียทอง ไปขอหมั้นลูกสาวเขาให้ลูกรึจ๊ะ?” ญาณินเริ่มเขม็งแววตาสงสัย ว่าทำไมลูกชายเธอรู้สึกต่อเด็กสาวตัวน้อยชื่อทิพย์นักหนา...

“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นหรอกครับ ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนะครับ”

“กลัวพ่อเขาล่ะสิ”

“ผมไม่ได้กลัวหรอกครับ... ผมเขิน พ่อเขาเป็นคนอารมณ์ดี แถมใจดีอีก ยิ้มให้ผมด้วยตอนผมไปส่งทิพย์” ณภัทรยังคงคุยไปเรื่อยเปื่อยระหว่างตักข้าวไปคุยกับไปญาณิน

มันเป็นเวลาที่หญิงสาวมีความสุขที่สุด เมื่อได้ทานอาหารและคุยกับลูก เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง ญาณินยังคิดอยู่ว่าเด็กน้อยชื่อ ทิพย์อาจจะต้องเป็นคนน่ารักมากๆ ถึงทำให้ณภัทรพูดไม่ขาดปากขนาดนี้

“ไปเก็บจานล้างให้สะอาดนะ พ่อคุณ แม่จะเก็บอาหารแบ่งไว้ให้พ่อ” ญาณินยังคงฝึกลูกชายช่วยงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะไล่ให้ไปทำการบ้านต่อให้เสร็จ และเตรียมตัวเข้านอนคืนนี้ เธอยังมีเรื่องต้องคุยกับเขมทัต เรื่องผู้หญิงของเขา

******

“ยังไงๆ คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ณิน... ลูกชายเรายังต้องการครอบครัวที่อบอุ่น” เขมทัตพยายามบังคับให้ญาณินอยู่กับเขาพร้อมกับลูก เขาไม่มีวันให้โอกาสดีๆ แบบนี้หลุดมือไปแน่นอน โดยเฉพาะรอณภัทรครบห้าขวบ เพื่อรับมรดก

“หลักฐานอยู่ในมือฉันแล้วนะคะ เขม... คุณมีหญิงอื่น ในขณะที่ลูกชายเราอายุสี่ขวบ คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ หลังจากฉันมีณภัทร... คุณแทบไม่แตะต้องฉํนอีกเลย...ทำไมคะ? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน?”

 

ญาณินเริ่มเสียงดัง เมื่อพวกเขาสองคนกำลังทะเลาะกันในห้องนอน หรือว่าถึงคราวเตียงหักก็คืนนี้... โชคยังดีที่ณภัทรนอนหลับไปแล้ว เขมทัตกลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน ทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสทะเลาะเสียงดังได้โดยลูกชายไม่รู้

“แค่แชทใครๆ ก็พูดได้... คุณจะมาหย่าผมแบบนี้ไม่ได้นะ ลูกเรายังต้องการผม และต้องการคุณอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน” เชมทัตพยายามยื้อญาณินให้อยู่ในอิทธิพลเขา... หญิงสาวแทบจะกระแทกเสียงสบถกลับ

“พร้อมหน้าพร้อมตา... ถามตัวคุณจะดีกว่า ทุกวันนี้คุณเคยมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับณภัทรหรือเปล่า? ... ตอนเช้าคุณก็ออกไปไม่รอไปส่งณภัทรไปโรงเรียน... กลับมาบ้านคุณเคยเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอนหรือเปล่า? นี่น่ะรึ? พร้อมหน้าพร้อมตา...”

ญาณินเหน็บเขาด้วยความจริง เพียงแค่นี้มันยังไม่สาแก่ใจที่เขาทำกับเธอ เท่าผู้หญิงของเขาแชทมาบอกว่า เป็นแฟนใหม่ มาออกคำสั่งให้เธอควบคุมสามี... นี่เธอกลายเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่...

“ผมมีงานที่ทำงานเยอะ คุณอยู่บ้านสบายกว่าผมตั้งเยอะ คุณไม่ได้มาเหนื่อยอย่างผมนิ” เขมทัตพยายามโต้เถียง ไม่ให้ญาณินถือไพ่เหนือกว่า พอจะถูกไล่ต้อน ก็เปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อหาทางยุติญาณิน...

“คุณอยู่ที่ทำงานยังว่างไปจีบสาวในออฟฟิสได้นิคะ... แต่ฉันอยู่บ้านทำงานทุกชนิด ทำอาหาร ทำความสะอาด ซักเสื้อผ้า ตั้งแต่ถุงเท้ายันกางเกงใน ไปรับส่งลูกที่โรงเรียน เล่านิทานให้ลูกฟัง หรือแม้กระทั่งสอนการบ้าน แล้วคุณล่ะ? ทำอะไรเพื่อลูกบ้าง?”

เธอไม่ยอมลดละที่จะใส่อารมณ์กับเขมทัต มันทำให้เขาหมดความอดทนที่จะโต้วาที อารมณ์ร้อนกับญาณิน ชายหนุ่มเผลอลงมือหนักลงบนแก้มนวลนุ่ม

เรือนแก้มอุ่นนิ่ม ครั้นเมื่อเขาเคยถวิลหา พยายามหอมแก้ม และขอเธอแต่งงาน เพื่ออยู่กับเธอตลอดคืน และมีณภัทรถือกำเนิด ยามนี้เขากลับลงมือทำร้ายเธอไม่เพียงแค่เจ็บใจ แต่มันเจ็บไปหมดทั้งเรือนหน้าภรรยาสาว

ญาณินเริ่มเสียใจจนร้อนอกชา เรือนหน้าร้อนผ่าวจากการถูกตบด้วยฝ่ามือของสามี เธอทำอะไรผิดรึ? เพียงแค่ขอความจริง และขอคำอธิบาย แต่ทำไมเขาต้องลงมือตบหน้าเพื่อหยุดเธอกล่าวหา และขอหย่า... เขาสิผิด...

ผิดตั้งแต่มีหญิงอื่น ผิดที่ละเลยเรื่องลูก ผิดที่ทำร้ายจิตใจเธอ จนกระทั่งลงไม้ลงมือยามนี้ สายหยดน้ำเอ่อท่วมท้นล้นขอบดวงตากลมสวย หยาดน้ำใสไหลลงอาบสองแก้ม เพราะไม่เพียงเจ็บกาย ดวงใจเธอแหลกสลายด้วยมือเขา

“ผม... ขอโทษ... ญาณิน เรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ เพื่อณภัทร...” เขมทัตเพิ่งรู้สึกตัวเมื่อได้ลงมือ ตบลงบนแก้มภรรยาที่ไร้ความผิด มันทำให้เขารู้สึกตัวได้เล็กน้อย พลางเดินเข้าไปสวมกอดภรรยาสาว ซึ่งยืนเงียบอยู่เบื้องหน้า

เสียงร้องไห้ของเธอสะอื้นดัง หลังจากถูกเขาดึงตัวมาสวมกอด เธอจะทำอย่างไรดี... เธอควรจะรักเขาต่อไป หรือจะเกลียดเขา เพื่อหาทางยุติความงี่เง่าของผู้ชายคนนี้...

******

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel