บท
ตั้งค่า

ลูกติดแม่ ไม่ติดนิสัย

เด็กสาววัยสองขวบกำลังยืนถือตุ๊กตาด้วยมือซ้าย แววตากลมใสสีน้ำตาล เหม่อมองพ่อกับแม่ กำลังทะเลาะเสียงดัง เสียงตบตีดังฉากใหญ่จากมือหนาของพ่อ ลงมือหนักกับใบหน้าของแม่นับครั้งไม่ถ้วน

พ่อซึ่งใส่ชุดทหารสีขาว กำลังนับเงินที่แม่หามาได้ และจากไปพร้อมกับเหล้าขวดใหญ่ เดินซัดเซไม่ตรงทางออกบ้าน อีกมือถือกระเป๋าสีดำ เพราะอาจจะไปทำงานและหลายวันนับเดือน กว่าจะกลับมาถึงบ้าน...

แทนที่จะเหมือนพ่อคนอื่นๆ ที่มากอดลูกสาว และอยู่กับเมียตามปกติสุข เด็กสาวพบภาพแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง แม้จะสองขวบก็เถอะ เธอจำมันติดตา ไม่เคยลืมเลยว่าจะต้องเจอกับเสียงทะเลาะ และตบตีเป็นประจำทุกครั้งไป

“กูจะไม่ทนมึงอีกแล้ว!!!” รมตี (รม – มะ – ตี) ส่งเสียงตะโกนลั่นบ้าน อย่างหมดความอดทน กับสามีต่างชาติ เขาเป็นชาวฝรั่งเศสที่เมื่อเหล้าเข้าปาก นิสัยก็เปลี่ยน

เขากลับมาถึงบ้าน มาเอาแต่เงินและนำไปดื่มเหล้า เพราะติดหนัก ทำงานล่องเรือหายไปประจำการนับเดือน มาถึงก็ข่มขู่และเอาเงินไป ไม่คิดจะทำตัวเป็นพ่อที่ดี รมตีตัดสินใจที่จะย้ายบ้านหนี หาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า แทนที่จะมานั่งรอสามีเลวๆ กลับบ้าน

หญิงสาววัยใกล้สามสิบ กำลังร้องไห้เก็บเสื้อผ้า ข้าวของ พร้อมจะย้ายไปอยู่ห้องเช่าที่อื่น เธอจะต้องทำอะไรสักอย่าง ในเมื่อสามีคนปัจจุบันไม่อาจพึ่งพาได้ บ้านสักหลังยังไม่มี...

เธอหอบลูกสาว พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า ข้าวของบางส่วนเอามาไม่ได้ก็ทิ้งไว้ แล้วเดินก้าวเท้าออกจากบ้านเก่าๆ ทิ้งอดีตเอาไว้เบื้องหลัง และเดินหน้าเพื่อเลี้ยงลูกด้วยวิถี ซิงเกิ้ลมัม

******

 

วันเวลาผ่านไปสามปี... เด็กสาวชื่อ ธันยพร เติบโตอายุห้าขวบ ผ่านเวลาแห่งความเลวร้าย ชีวิตเริ่มดีขึ้นเมื่อ แม่ของเธอทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ธันยพรไม่เคยจะถามสักครั้ง มีเงินส่งค่าเรียนหนังสือ ค่าเสื้อผ้า และกลับมาอยู่บ้าน ทำงานบ้านตามปกติ โดยไม่ต้องเผชิญกับเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ธันยพรรู้สึกพอใจเพียงเท่านี้

วันหนึ่ง... มันแปลกไปกว่าทุกวัน เมื่อแม่เธอกลับมาพร้อมกับชาวต่างชาติคนหนึ่ง เป็นชายสูงอายุผมทอง ดวงตาใจดี และเรือนหน้าที่เมตตา ยิ้มแย้มแจ่มใส รมตีบอกกับธันยพรน้ำเสียงอารมณ์ดี

“ลูกจ๋า... เราจะย้ายบ้านกันจ้า สวัสดีพ่อใหม่สิจ๊ะ” รมตีบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และเสื้อผ้าหรูหรา แต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนคนชนชั้นสูง... แววตาเด็กสาวหันมามองแม่ด้วยความสงสัย แล้วพ่อคนเก่าล่ะ? ...

“สวัสดีค่ะ เรากำลังจะไปไหนกันคะ?” ธันยพรกล่าวถามน้ำเสียงเล็กใสแบบซื่อๆ ชายหนุ่มต่างชาติบอกกับรมตีเป็นภาษาต่างชาติ ยากต่อเด็กสาวเล็กๆ จะเข้าใจ รมตีหันมาบอกกับลูกสาวน้ำเสียงหวานฉ่ำ ระรื่นกับความสุขบังเกิดแก่ตน

“เรากำลังจะไปบ้านใหม่จ้า ที่อังกฤษ เรากำลังจะเป็นครอบครัวมีความสุขกันไงจ๊ะ” รมตีอุ้มลูกสาวส่งมอบให้ชายสูงวัย รับช่วงอุ้มเด็กสาวตัวน้อย เพื่อรับเธอเป็น “ลูกสาวบุญธรรม”

“ขอบคุณค่ะ” ธันยพรสวมกอดรอบคอชายชาวต่างชาติอย่างปลื้มใจ ต่อไปนี้แม่ของเธอ และตัวเธอจะไม่ลำบากอีกต่อไป เพราะแม่ของเธอจะได้พันทนทุกข์ทรมานเสียที

หลังจากสามปีที่ผ่านมา แววตาและเรือนหน้าของแม่ เคยผ่านความทุกข์และน้ำตา... วันนี้ธันยพรเห็นหน้าตาแม่ มีความสุขอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน... เธอรู้สึกดีเหลือเกินเมื่อชายสูงวัยใจดีคนนี้ รับพวกเธอสองคนแม่ลูก ออกไปจากห้องเช่าโทรมๆ

 

คืนนั้นธันยพรได้ยินเสียงแปลกๆ ภายในห้องนอนของแม่ เพราะชายชาวต่างชาติสูงอายุ ขอนอนค้างที่นี่คืนหนึ่ง ห้องนอนเดียวกับแม่ของเธอ ก่อนจะกลับไปทำธุระเรื่องเอกสารต่างๆ

แววตาเด็กน้อยพยายามขยี้ดวงตา แอบดูสิ่งที่เกิดขึ้นภายในความมืด เหมือนมีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวซ้ำๆ อยู่กับที่ และเสียงกอดจูบลูบไล้กระทบกันบางอย่าง ดังตลอดเวลา เสียงของรมตีเล็ดลอดออกมาแผ่วเบา เผยเรือนหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข

เสียงสนทนาภาษาอังกฤษดังแผ่วเป็นระยะ ธันยพรไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับแม่ แต่ท่าทางแม่มีความสุขมาก เมื่อชายสูงอายุผู้นี้ กอดแม่อยู่เบื้องบน และกำลังขยับช่วงล่างใส่แม่ หน้าตารมตีสดใส ยิ้มกว้างแลเห็นฟันขาวเรียงตัว

เรือนหน้าเหมือนเลื่อนลอย หลับตาพริ้ม กับเสียงครางที่ผิดแปลกไปจากเดิม ธันยพรได้แต่แอบดู ไม่กล้าเข้าไปขัด นอกเสียจาก พยายามสังเกตว่า พวกเขากำลังทำอะไรกัน ตามประสาผู้ใหญ่ ที่เด็กอย่างเธอไม่มีวันเข้าใจ...

ความสุขสันต์เมื่อเนื้อบวมนิ่มๆ ยาวๆ กำลังพยายามไหลเข้าไป รมตีรู้สึกจะไม่พอใจกับขนาด แต่หากว่าทำให้เธอร่ำรวย หลุดพ้นจากความลำบาก คงจะต้องอดทนเพื่อให้เขาหลงใหล ทำให้เธอและลูกหลุดพ้นจากความยากจน...

งานแต่งงานของดยุคจึงได้เกิดขึ้นอีกครั้ง และรมตีกลายเป็นดัชเชสแห่งรอธเซย์ ท่ามกลางความสุขและความปิติยินดี ธันยพรกลายเป็นเด็กน้อยผู้โชคดี ที่ได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในลอนดอน...

******

ธันยพรอาศัยอยู่ในลอนดอน ภายในคฤหาสน์หลังงามใหญ่ แม้จะเก่าแก่น่ากลัว เธอไม่กล้าเดินไปไหนคนเดียว เพราะเนื่องด้วยภาษา และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปจากเมืองไทย อากาศหนาวเย็นจนไม่สบายในการปรับตัว รมตีส่งธันยพรไปเรียนภาษาอังกฤษพิเศษ

คราแรกเมื่อถูกเรียกขานชื่อ ครูสอนภาษาพิเศษ ผันเรียกชื่อเธอคำแรกว่า “ธัญญ่า” หากจะคิดว่ามันเป็นชื่อเล่น เธอก็คิดว่ามันก็ไม่เลวสำหรับชื่อใหม่ ชีวิตใหม่...

ผ่านไปสามปีสำหรับไปอยู่ในลอนดอน เข้าเรียนโรงเรียนตามระดับเกรด เธออยู่เกรดหกในวัยแปดขวบ การเรียนรู้ที่ดีกว่าการท่องจำ ใช้ความคิดและเหตุผล เธอโตเร็วกว่าอยู่เมืองไทย จะว่าไปการศึกษาที่นี่ช่างแปลกแยกเหลือเกิน

 

เย็นวันหนึ่ง... เมื่อรถโรงเรียนขับมาส่งเธอหน้าคฤหาสน์ ธันยพรเดินเปิดประตูรั้วเองอย่างเคย แล้วเดินเข้ามาตามทางภายในบ้าน กว่าจะถึงตัวคฤหาสน์ ใช้เวลาชมนกชมไม้ ภายในเขตบ้านอยู่ประมาณสิบนาที

ประตูใหญ่หนากว้าง ถูกเปิดออก พร้อมกับชายคนรับใช้มีอายุ หันมามองธันยพรด้วยแววตาสลด เด็กสาวรู้สึกแปลกๆ ว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติเกิดขึ้น... ทิ้งกระเป๋าส่วนตัว แล้วเดินไปยังห้องต่างๆ หาพ่อบุญธรรมและแม่ของเธอ

มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น...

******

 

เสียงแว่วเล็ดลอดผ่านมาตามทางอันกว้างขวาง เด็กสาวเดินไปตามทางภายในบ้าน พบว่าประตูห้องสมุดแง้มอยู่ เธอไม่คิดจะเปิด เพราะเสียงร้องของแม่ มันแปลกมาก เหมือนเจ็บปวดแต่ไร้การต่อสู้ขัดขืน หรือทะเลาะกับพ่อ?

“แม่ทะเลาะกับพ่อบุญธรรมหรอ?” ธันยพรรู้สึกกลัวเล็กน้อย เลยคิดว่าจะแอบดูมากกว่า...

แววตากลมโตของเด็กน้อยหันมองเมื่อพบว่า แม่กำลังนอนอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือ และมีชายคนหนึ่งกำลังอยู่ ทำอะไรบางอย่างระหว่างกลางตัวแม่ ขยับกายเข้าหาแม่อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

รมตีกรีดร้องคร่ำครวญ เมื่อถูกจู่โจมอย่างเต็มใจ กายแกร่งจากครูสอนภาษา หนุ่มแน่นหน้าตาหล่อเหลาผมดำสนิท กำลังสอนท่วงท่าและมอบความรู้สึกดีๆ ให้เธอตลอดเวลา ลำตัวช่วงล่างเปล่าเปลือย กำลังชนกระแทกซ้ำๆ กับเรือนกายชายแกร่ง แววตาเด็กสาวรู้สึกกลัวเหลือเกิน...

 

เสียงกระทบกันระหว่างกายเนื้อของรมตี และครูสอนภาษาอังกฤษ ดังต่อเนื่องเป็นจังหวะ รมตีร้องคร่ำครวญในลำคอ พยายามไม่ให้เสียงดัง แต่ก็เผลอออกมาโดยไม่รู้ตัว รู้สึกดีเหลือเกินหลังจากแต่งงานมา อารมณ์เหงาและความต้องการ ทำให้เธอไม่รู้จะหาทางออกยังไง

สามีที่แก่แต่ร่ำรวย มียศถาบรรดาศักดิ์ อาจมอบความมั่งคั่งสุขสบายมาให้ แต่ไม่เคยทำให้เธอมีความสุขในทางเพศ เพราะเขาแก่มาก หากไม่เพราะเธอมีลูกสาว เขาก็คงไม่ชวนเธอมาอยู่ด้วยกัน แต่งงานและส่งธันยพรไปเรียนหนังสือ เพื่อเป็นการดูใจ ให้กลายเป็นทายาทของตระกูลแห่งรอธเซย์...

“อะไรกัน?? !!!” ธันยพรเผลอส่งเสียงทำให้รมตีต้องหยุดกิจกรรมกลางคัน แล้วพบว่าลูกสาวเลิกเรียน กลับมาถึงบ้านแล้ว เธอหอบเสื้อผ้ามาสวมปกปิดเรือนกาย ครูสอนภาษาหยุดสอนพิเศษ พลางหันไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ตามเดิม

“ลูกจ๋า... มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ” แววตาของแม่ลุกลี้ลุกลน รู้ว่าตัวเองกำลังหลงผิด และพลาดไป เด็กสาวร้องไห้น้ำตาไหล รู้สึกรังเกียจกับภาพที่เห็น วิ่งหนีแม่ตัวเองกลับห้องนอนส่วนตัว ลงกลอนปิดล็อค แม้รมตีจะวิ่งตามหลัง เคาะประตูเรียกให้เปิด... เด็กสาวนั่งกอดเข่าอย่างเสียใจ ทำไมแม่ต้องทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น...

******

เรื่องนี้คนรับใช้ภายในบ้านรู้ดีทั้งหมด กล่าวรายงานต่อดยุคแห่งรอธเซย์ อดัม สจวต เขาอยู่ในชุดสูทสุภาพสีดำเต็มยศ อายุก็มาก นกเขาก็ไม่ขัน แต่อารมณ์โกรธของเขายังคงลุกโชกช่วงดั่งเปลวไฟไม่ปาน...

ดั่งเปลวเพลิงเผาผลาญ ความรักของดยุคเคยมอบให้แก่รมตี เป็นอันต้องปิดฉากลง เขาตัดสินใจที่จะส่งรมตีกลับเมืองไทย พร้อมแจ้งเอกสารหย่า พร้อมปลดตำแหน่งดัชเชส และริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ครั้นเมื่อแต่งงานได้รับจาก ควีนอลิซาเบธที่2

“กลับไปเมืองไทยของเธอซะ รมตี” เขากล่าวน้ำเสียงเหนื่อย เศร้าเสียใจ ไม่อยากพบหน้าเธออีก หรือเพราะเขาแก่เกินกว่าจะมีเมียสักคน แต่เพราะเขารักและเอ็นดูธันยพร จึงยอมรับรมตีมาอยู่ด้วย ไม่คิดเลยว่า เธอจะกลายเป็นคนเช่นนี้

“อย่าไล่เราสองแม่ลูกเลยนะคะ ฉันผิดไปแล้ว” รมตีอยากขอโทษ และอยากจะแก้ตัวว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก

“ไปซะ รมตี... ฉันไม่ต้องการเธออยู่ที่นี่” เขาพยายามคงความเป็นสุภาพบุรุษ กล่าวส่งเธอมากกว่าขับไสไล่ส่ง

เด็กสาวยืนมองเหตุการณ์นี้ พยายามข่มใจบอกตัวเองว่า ชีวิตใหม่อาจจบลงเพราะแม่ทำตัวเช่นนี้... เธอยืนมองดยุคผู้มาด้วยอายุวัยชรา แววตาแห่งความเหนื่อยล้า และผ่านวันเวลามากมาย หันมามองธันยพรอย่างเสียดาย...

“ได้โปรดเถอะ เห็นแก่ธัญญ่า...” รมตีถือโอกาสใช้ลูกสาวเป็นเครื่องต่อรอง คนรับใช้หนุ่มทั้งสอง ขนกระเป๋าเสื้อผ้าของรมตี พร้อมจะพาเธอออกไปจากคฤหาสน์ เดินทางไปส่งสนามบินกลับเมืองไทย และห้ามมาที่นี่อีก...

 

“มาหาพ่อ ธัญญ่า!” ดยุควัยชรา กวักมือเรียกลูกสาวบุญธรรม เขารักและอยากจะถนุถนอม ปกป้องเธอให้พ้นจากความอับอาย และอยากปกป้อง ความบริสุทธิ์ของเด็กสาวที่น่ารักคนนี้ไว้

“ค่ะ คุณพ่อ” เด็กสาววิ่งถลาเข้าหาอย่างรวดเร็ว ต้องการท่านให้อภัยแก่แม่ของเธอ แม้จะไม่รู้อะไรมากมาย เธอกอดคอซบอกบิดาบุญธรรม เชิงขอร้อง เรือนหน้าของหญิงสาวผู้ถูกตัดสิน กำลังฉายแววเศร้าเต็มดวงตาของรมตี

“จะอยู่กับพ่อ หรือจะอยู่กับแม่...?” เหมือนเป็นตัวเลือกให้เธอ ตัดสินใจแทนการให้โอกาส... แววตามารดาหันมองเด็กสาวอย่างเจ็บปวดใจ

“ทำอะไรสักอย่างนึกสิ ธันยพรลูกแม่” รมตีร้องไห้เจ็บปวด เธอไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตลำบาก หลังจากเสพสุขอยู่ในคฤหาสน์กับดยุคแห่งรอธเซย์ เธอกำลังสูญเสียทุกอย่าง ความร่ำรวย ยศถาบรรดาศักดิ์ –ดัชเชส- หรือตอนนี้เธอกำลังจะสูญเสียลูกสาวให้แก่ชายอื่น...

“คุณพ่อคะ ให้คุณแม่อยู่ต่อไม่ได้รึคะ?” ธันยพรถามก่อนจะให้คำตอบ... เธอรู้ว่าจะต้องระมัดระวังคำพูดแค่ไหน

“ไม่ได้หรอก แม่ทำผิดต่อพ่อมาก และสิ่งที่พ่อกำลังจะตัดสินใจ ไม่อยากให้ลูกโกรธเคืองพ่อนะ” ดยุคกล่าวอย่างสุภาพต่อเด็กน้อย เป็นที่น่าเคารพจนเด็กน้อยมิอาจปฏิเสธความจริงใจ และความสุภาพนี้ได้

“หนูเข้าใจแล้วค่ะ คุณพ่อ” ราวกับเด็กสาวจะต้องตัดสินใจ ทำให้แววตาชายสูงอายุกลัวว่า เด็กน้อยจะตัดสินใจเดินทางไปกับแม่... หญิงสาวคิดว่าอาจจะได้ลูกคืน แต่คำตอบของธันยพร ทำให้หัวใจมารดาสลาย เผยออกมาจากแววตา...

“หนูจะอยู่กับคุณพ่อค่ะ” ธันยพรบอกไปตามตรง เธอคิดว่ามันควรเป็นการตัดสินใจถูกต้อง และไม่อยากกลับไปเจอสภาพแม่ต้องทะเลาะกับพ่อคนที่เท่าไหร่ และเผชิญกับความยากลำบาก เธอเข้าใจจุดนั้นดี

 

แทบทำให้เสียงร่ำร้องไห้ของรมตี ร้องไห้โฮระงมเสียงดัง ความเศร้าโศกเข้าจับจิตเธอ เมื่อจะต้องลาจากทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งลูกสาวคนเดียว ได้อยู่ภายในคฤหาสน์นี้ต่อ และตัวเธอจะต้องเดินทางกับเมืองไทยไป... เพียงลำพัง

นับตั้งแต่นั้นมา... ธันยพรไม่คิดจะติดต่อกับแม่อีกเลย...การกระทำที่เหยียดหยามเกียรติตน และผู้เป็นสามี ทำให้รมตีต้องจบชีวิตอันสวยงาม กลับไปเป็นหญิงหม้าย ไร้ลูก รับจ้างหาเงินเลี้ยงตนเอง เช่าห้องอาศัยไปเพียงลำพัง ไปตามเดิม...

******

ธันยพรจึงเริ่มใช้ชื่อนี้เรียกตัวเองน้อยลง และเธอคือ “ธัญญ่า สจวต แห่งรอธเซย์” แทน ด้วยมาดคุณหนูผู้สูงสง่า ผ่านการศึกษาจบไฮสคูล และเรียนต่อวิทยาลัย... ด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี เธอดูแตกต่างจากคนไทยทั่วไป

แม้จะเจอคนไทยไปเรียนที่เดียวกัน ทำให้ธันยพรทำตัวเป็นคนหยิ่ง ยโส ตัดสินใจไม่คบกับคนไทยด้วยกัน เพราะเรื่องราวในอดีตที่เคยเกิดขึ้น... บุคลิกของธันยพรเปลี่ยนไป กลายเป็นคนชนชั้นอังกฤษ

 

ความตั้งใจของธันยพรฉายแววในการศึกษา พยายามบากบั่นร่ำเรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดแล้ว อยากจะเรียนต่อในสายทหาร อย่างน้อยธันยพรจะมีเชื้อชาติไทย แต่เธอได้รับสัญชาติอังกฤษ ก็ยังมีโอกาสได้ศึกษาเรียนต่อทหารในหน่วยพิเศษแห่งหนึ่ง

เธอมีทักษะ และการทำงานที่ดีเยี่ยม แม้จะเบื่อกับการนั่งโต๊ะเขียนเอกสาร บางครั้งเมื่อได้รับโอกาสออกไปลงภาคสนาม มีรึเธอจะไม่ฉวยโอกาสนี้ไว้... กลายเป็นทหารหญิงฝีมือเยี่ยมคนหนึ่ง โดยไร้ข้อกังขา ของคนเคยเป็นคนไทย...

ธันยพรยอมรับว่าเธอคิดถึงแม่ แต่น้อยครั้งที่จะกล่าวถึง เพราะสถานะลูกสาวบุญธรรมแห่งรอธเซย์ ทำให้เธอต้องวางตัวให้สุภาพสตรีที่งดงาม เป็นคนมีบุคลิกดีตลอดเวลา... ต้องลืมเรื่องราวของรมตีทั้งหมดไปจากใจ...

 

เรื่องราวของ ภัคพลและธันยพร กำลังจะถูกย้อนรอยไป เรื่องมันเกิดขึ้น...เมื่อปีที่แล้ว....

******

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel