ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
ความมีน้ำใจของเสี่ยอินทร์หายวับไปกับตา เมื่อสุภาที่รู้สึกแน่นหน้าอกไปเมื่อครู่เอ่ยปากบอกว่าตอนนี้ตนรู้สึกดีขึ้นแล้ว มุกธิดาจึงประคองมารดาให้ลุกขึ้นแล้วพาเข้าไปพักในห้องนอน แล้วอยู่พูดคุยกับมารดา ถามไถ่เรื่องที่เสี่ยอินทร์มาถึงบ้าน ทั้งที่ทุกครั้งจะส่งลูกน้องมาทวง
“แม่เดาว่าเสี่ยอินทร์คงอยากได้มุกไปเป็นเมีย...น้อย”
“มุกไม่มีวันไปเป็นเมียน้อยใคร” แค่ได้รู้จุดประสงค์ของเจ้าหนี้ มุกธิดาก็ยิ่งเกลียดเสี่ยเจ้าของผับเพิ่มอีกเป็นร้อยเป็นพันเท่า
“แม่ก็ไม่มีวันยอมให้มุกไปเป็นเมียของเสี่ยแน่ๆ แต่…” คนเป็นแม่อึกอัก เพราะกลัวใจสามีเหลือเกิน แล้วก็ไม่รู้ว่าป่านนี้กำลังต่อรองขอผ่อนผันหนี้ได้หรือเปล่า หากไม่ได้ตนก็กลัวเหลือเกินว่าสามีจะมีความคิดยกลูกสาวใช้หนี้
“แต่อะไรเหรอแม่” มุกธิดาถามกลับตาแป๋ว
“ไม่มี…” คนเป็นแม่ยังพูดไม่ทันจบ มนัสชนน์ก็เดินเข้ามาตามน้องสาวบอกว่าเสี่ยอินทร์อยากคุยด้วย ให้รีบออกไปคุยกับเสี่ย
“ฉันไม่มีธุระอะไรจะคุยด้วย ฉันไม่ออกไปหรอก พี่ชนน์ไปบอกเสี่ยตามนี่แหละ”
“แกไม่มี แต่เสี่ยเขามี เพราะงั้นแกก็รีบออกไปเลยนังมุก อย่าให้ฉันต้องมาตามอีกรอบ เดี๋ยวพ่อจะตบกะโหลกให้!” มนัสชนน์ตอบกลับด้วยอารมณ์โมโห เพราะตนนั้นอยากจะออกไปหาสาวๆ แล้ว แต่ติดที่บิดาบอกให้อยู่ช่วยกันพูดเพื่อให้เสี่ยอินทร์ยอมผ่อนผันหนี้ให้ก่อน
“ชนน์! ทำไมพูดกับน้องแบบนี้ แล้วอย่าให้แม่รู้นะว่าชนน์จะทำร้ายน้อง” สุภาดุลูกชายเสียงเข้ม อีกทั้งก็อ่อนอกอ่อนใจเหลือเกิน ที่ลูกชายโตจนอายุสามสิบห้าแล้ว แต่กลับไม่คิดจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
“ฉันก็แค่ขู่นังมุกไปงั้นแหละ แม่ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะทำร้ายนังมุกจริงๆ เพราะนังมุกมันเป็นน้องคนเดียวของฉัน แต่จะว่าไปแกนี่ก็สวยใช้ได้เลยนะ” และก็วันนี้แหละที่เขาสังเกตน้องสาวอย่างจริงจัง หากส่งเข้าประกวดคงไม่แคล้วได้ที่หนึ่ง แต่หากเสี่ยอินทร์รับไปเมียคงดีกว่าไปเดินสายประกวด
“พี่ชนน์! หยุดความคิดชั่วๆ ของพี่ไว้เลยนะ”
“ฉันคิดชั่วอะไร”
“ยังจะให้พูดอีกเหรอ”
“แกอย่ามาใส่ความฉันนังตัวดี แล้วก็รีบๆ ออกไปคุยกับเสี่ยอินทร์ซะ”
“แค่ฉันเห็นสายตาพี่ ฉันก็รู้แล้วว่าพี่คิดอะไร ไม่ต้องมาทำหน้าตาดุๆ ข่มฉันหรอก”
“พูดมาก! รีบออกไปหาเสี่ย”
“หึ!” มุกธิดาทำเสียงในลำคอ ก่อนจะหันมาบอกมารดาว่าเธอจะออกไปคุยกับเสี่ยอินทร์ดู เพื่อฝ่ายนั้นจะยอมให้ผ่อนผันหนี้ไปอีกเดือนหรือสักสองเดือนก็ยังดี แต่คนหน้าเลือดอย่างนั้นคงจะยอมให้ผ่อนผันหรอก อีกอย่างบิดาก็ขอผ่อนผันมาหลายงวดแล้ว
“แม่ไปด้วย” คนเป็นแม่ขยับจะลงจากเตียง แต่มุกธิดารีบเข้ามาประคองแล้วบอกให้นอนพัก
“อย่าเลยแม่ เดี๋ยวมุกไปคนเดียวได้”
“แต่...”
“ถึงพ่อจะทำอย่างที่แม่คิดจริง มุกก็ไม่มีวันยอม แม่อยู่พักผ่อนที่ห้องนะจ้ะ” จบคำของลูกสาว คนเป็นแม่ก็พยักหน้าเบาๆ แล้วล้มตัวลงนอนพัก ส่วนมนัสชนน์ที่เดินออกไปรอหน้าประตูก็ส่งเสียงเร่งเร้าน้องสาว เพราะเกรงใจเสี่ยอินทร์ที่รอนาน
ด้านมุกธิดาก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนของมารดา ระหว่างเดินไปเธอก็คิดย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ครอบครัวของเธอยังไม่มีหนี้สิน ช่วงนั้นครอบครัวของเธอมีความสุขดี มีรายได้จากการเปิดอู่ซ่อมรถที่คุณตาเป็นคนลงทุนให้ ส่วนเธอก็ทำงานเป็นพนักงานบัญชีอยู่ที่ฟาร์มสุรรัตนพงศ์ เงินเก็บในบัญชีก็พอมี แต่ตอนนี้ก็หมดไปแล้วเพราะต้องเอาไปใช้หนี้แทนบิดา
“นังมุก!”
“อะไรอีกล่ะ” หายจากสะดุ้งแล้วมุกธิดาก็หันไปถามพี่ชายที่นำหน้าไป
