ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
“เสี่ยอินทร์ ช่วยผ่อนผันให้อีกสักครั้งเถอะ แล้วฉันจะรีบหาเงินมาใช้หนี้เสี่ย” เฮียชงเอ่ยขอร้องเจ้าของผับชื่อดัง แต่เบื้องหลังเปิดกิจการบางอย่างให้ผู้คนที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชคเข้าไปเล่น จนเป็นเหตุให้หลายครอบครัวมีหนี้สินท่วมหัว เพราะปล่อยทิ้งไว้นาน ดอกเบี้ยก็ยิ่งเพิ่มพูน เช่นเดียวกับครอบครัวจักษณาลักษณ์ที่ตอนนี้เป็นหนี้อยู่หลายแสน จากฝีมือของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว
“นั่นสิเสี่ยอินทร์ ผ่อนผันอีกครั้งสองครั้งเถอะครับ ผมขอร้อง” มนัสชนน์ ลูกชายเฮียชง ที่ร่วมด้วยช่วยกันสร้างหนี้ยกมือไว้ปลกๆ อย่างขอร้อง เพราะไม่อยากโดนทำร้ายและไม่อยากเข้าไปทำงานในบ่อนใช้หนี้ที่ตนและผู้เป็นพ่อก่อเอาไว้
“แต่ฉันผ่อนผันให้หลายรอบแล้วน่าเฮียชง”
“ฉันรู้ แต่ก็ผ่อนผันให้อีกสักเดือนเถอะเสี่ยอินทร์ ตอนนี้ฉันหาเงินไม่ทันจริงๆ” พูดจบก็สะกิดให้ลูกชายช่วยพูด และตามด้วยสะกิดภรรยา ที่ได้แต่นั่งหน้าเครียดจนโรคประจำตัวจะกำเริบอีกรอบ หลังจากเมื่อสามเดือนก่อนได้รับรู้ว่าสามีแอบไปเล่นพนันจนเป็นหนี้เป็นสิ้นหลายแสนทำให้โรคหัวใจของตนกำเริบจนต้องหามส่งโรงพยาบาลและเป็นเหตุให้ลูกสาวต้องไปหยิบยืมเงินทองจากเพื่อนมาจ่ายค่ารักษา และตอนนี้ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานใช้หนี้ตามลำพัง เพราะลูกชายที่หวังจะพึ่งพาก็ไม่เป็นโล่เป็นพาย วันๆ เอาแต่ออกเที่ยว
“แล้วคิดว่าเวลาแค่เดือนเดียวเฮียชงจะหาเงินมาใช้หนี้ฉันทันหรือไง” เสี่ยอินทร์ตอบกลับอย่างเย็นใจ เพราะวันนี้ที่ตนตั้งใจมาทวงหนี้กับเฮียชงด้วยตัวเองนั่นก็เพราะมีเป้าหมาย นั่นคือลูกสาวของเฮียชง เพราะหากถูกตาต้องใจก็จะได้เอาไปเป็นเมียเพิ่มอีกสักคน แล้วหนี้สินจะได้หายกัน
“ทันแน่นอนเสี่ย” เฮียชงรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินเป็นแสนๆ มาจากที่ไหน
“อย่าบอกนะว่าเฮียชงมีเงินแล้ว งั้นก็เอามาจ่ายหนี้ตอนนี้เลยสิ จะทำยึกยักอยู่ทำไม” เสียงเสี่ยอินทร์เริ่มแข็งกร้าวขึ้น เมื่อนึกรู้ว่าลูกหนี้มีเงินแต่ไม่ยอมเอามาใช้หนี้
“ตอนนี้ยังไม่มีหรอกเสี่ยอินทร์ ขอผลัดไปอีกสักเดือนเถอะ”
“บ๊ะ! เดี๋ยวก็พูดเหมือนมีจ่าย เดี๋ยวก็มาขอผลัด ตกลงว่าถ้าฉันให้ผลัดไปอีกเดือน เฮียจะมีเงินมาจ่ายฉันแน่หรือไง บอกไว้ก่อนนะถ้าคราวหน้าไม่มีจ่าย บ้านหลังนี้ฉันจะยึด!” คำว่า ‘จะยึด’ ทำให้ภรรยาของเฮียชงรู้สึกแน่นหน้าอก
“แม่สุภา เป็นอะไรไป” เฮียชงรีบเข้าประคองภรรยา โดยมีลูกชายขยับเข้ามาช่วย จังหวะนั่นเองลูกสาวเจ้าของบ้านที่เลิกงานช้ากว่าทุกวันขึ้นบ้านมาเห็นพอดีเลยรีบเข้าไปประคองมารดาด้วยความเป็นห่วง
“พี่ชนน์! รีบไปหารถพาแม่ส่งโรงพยาบาลสิ” มุกธิดา จักษณาลักษณ์ สาวสวยวัยยี่สิบสี่ร้องบอกพี่ชายที่เอาแต่เรียกแม่ๆ ไม่หยุดปาก
“แกอย่ามาสั่งฉันยัยมุก แล้วก็ต้องเป็นแกนั่นแหละ รีบไปหาหยิบยืมรถคนที่ทำงานของแกไปส่งแม่” มนัสชนน์ตวาดกลับเสียงดัง ขณะที่เสี่ยอินทร์ก็เฝ้ามองลูกสาวของเฮียชงด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะหันไปยิ้มกับคนสนิท
“เฮียชง พาแม่สุภาไปขึ้นรถฉันเลย เดี๋ยวฉันจะให้ไอ้ทรงขับรถไปส่งแม่สุภา แล้วหนูมุกก็นั่งรถไปกับเสี่ยเลย จะได้ไม่เสียเวลาไปหายืมรถคนอื่นขับตามไปโรงพยาบาล”
