บท
ตั้งค่า

29. จับผิด

“เป็นเกย์น่ะเหรอครับ”

เขาหัวเราะเสียงดัง ฝนทิพย์ ชักจะห่อเหี่ยวเสียแล้วสิ ถ้าเกิดเขาสารภาพว่าเป็นเกย์จริง ๆ เธอจะผิดหวังดีไหมเนี่ย

“ผมก็รู้สึกแปลก ๆ กับนายอาร์ตอยู่เหมือนกันนะครับไม่รู้ว่าเป็นเกย์หรือเปล่า”

คำตอบของเขาทำให้สีหน้าของฝนทิพย์ สลดลงอย่างเห็นได้ชัด เธอแทบจะไม่มีแรงเหยียบคันเร่ง มือที่จับพวงมาลัยรถชักจะสั่นไหว ไม่น่าถามให้ตัวเองต้องเศร้าอย่างนี้เลยฝนทิพย์ เพราะดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของเขาก็น่าจะเดาได้แล้ว ตั้งแต่วันที่เขาขอหลบผู้หญิงไปอยู่ที่ห้องของฝนทิพย์ นั่นก็แสดงว่าเขาไม่อยากจะเข้าใกล้ผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายทั้งแท่งมีหรือจะวิ่งหนีผู้หญิงแบบนั้นมีแต่จะวิ่งเข้าใส่มากกว่า

พอคิดเช่นนี้ฝนทิพย์ก็ยิ่งเศร้าใจ เหมือนอกหักดังเป๊าะ

“คุณฝนครับ...”

ต้นกล้า เรียกสติอีกฝ่ายที่นิ่งเงียบไปนาน ฝนทิพย์หันหน้าไปมองเขาแวบหนึ่งให้รู้ว่าเธอมีสติอยู่

ต้นกล้า หัวเราะก๊ากออกมา แต่ฝนทิพย์ กำลังทำใจ

คนบ้า..ขำอะไรนักหนา ตัวเองเป็นเกย์ยังไม่รู้ตัวอีก

“นี่คุณฝนเชื่อว่าผมเป็นเกย์หรือครับ”

เขาถามเสียงขบขัน ฝนทิพย์ ค้อนเขากึ่งยิ้ม

“โธ่..คุณฝน ผมล้อเล่นครับ ถ้าเป็นเกย์จริงป่านนี้นายอาร์ตเสร็จผมไปตั้งแต่มัธยมแล้วครับ ผมยังชอบผู้หญิงอยู่ครับแต่ที่ไม่มีแฟนก็เพราะยังหาคนที่ถูกใจไม่ได้สักที ความจริงผมก็ลองคบกับผู้หญิงอยู่คนหนึ่งเหมือนกัน เธอเป็นคนไทยที่ไปเรียนอเมริกา แต่คบไม่นานก็ไปกันไม่ได้ ผมก็เลยขี้เกียจเสาะแสวงหา..ก็เลยทุ่มเทให้กับการทำงาน ทำคลิป เอาไว้รอคนที่ใช่ดีกว่าครับ”

โอ้ย..โล่งอกซะไม่มี ฝนทิพย์สูดลมหายใจใบหน้าสดชื่นขึ้นทันตา เรี่ยวแรงฮึดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ อีตาบ้า พูดให้เราใจหายใจคว่ำ ที่แท้ก็ล้อเล่น

แต่คำอธิบายของเขาเมื่อสักครู่นี้ มันหมายความว่าเขายังไม่มีใครเป็นพิเศษ ถ้าเช่นนั้นฝนทิพย์ก็มีโอกาสน่ะสิ..ไชโย้!

“คุณฝนเป็นอะไรครับ”

ต้นกล้า มองกิริยาของฝนทิพย์ด้วยความแปลกใจ เมื่อเขาเห็นเธอเอามือที่จับพวงมาลัยรถทำท่ากำหมัด แล้วก็โยกตัวไปข้างหน้าคล้ายกับคนที่กำลังเชียร์กีฬาด้วยความดีใจในชัยชนะ

“อุ๊ย!..เปล่าค่ะ แค่ฝนอยากจะเปลี่ยนอิริยาบถน่ะค่ะเมื่อยหลังนิดหน่อย”

แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ ที่ได้เผลอแสดงความดีใจเกินเหตุ

“ถ้างั้นให้ผมขับดีกว่าไหมครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณต้นบอกทางที่จะไปร้านอาฉี ดีกว่าค่ะ”

ระหว่างนั้นก็มีเสียงสัญญานมือถือของต้นกล้าดังขึ้น ฝนทิพย์เงี่ยหูฟังด้วยความตั้งใจ ได้ยินเสียงเขาพูดชื่อนิด

“ผมคงจะถึงห้องประมาณสามทุ่ม ครับแล้วเจอกัน” ต้นกล้า พูดจบก็วางสาย

“คุณนิดอยู่ที่ห้องคุณต้นหรือคะ” ฝนทิพย์ ลองถามดู

“เปล่าครับ ตอนนี้อยู่ห้องเธอที่อพาร์ตเม้นท์น่ะครับ พอดีผมมีเพื่อนผู้หญิงมาจากอเมริกามาค้างที่ห้องด้วยก็เลยขอให้นิดมาค้างเป็นเพื่อนอีกคนน่ะครับ”

ฝนทิพย์ ผ่อนลมหายใจแสดงความโล่งใจ อย่างน้อยก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่กับนิษฐาสองต่อสองในห้อง

เฮ้อ!..การแอบรักแอบชอบผู้ชายสักคนมันทำให้จิตใจสับสนคิดมากแบบนี้เองหรือเนี่ย ถ้าย้อนเวลาได้จะไม่ขึ้นไปฉะกับอีตาหน้าหล่อนี่ที่ห้องข้างบนเลยจริง ๆ จะได้ไม่ต้องไปปิ๊งปั๊งให้ต้องกลายเป็นคนขี้ระแวงคิดมากแบบนี้

เสียงมือถือของต้นกล้าดังขึ้นอีกแล้ว คราวนี้เป็นผู้หญิงคนไหนอีกล่ะ ฝนทิพย์ ชักจะเริ่มระแวงไม่สบายใจอีก

“ผมกำลังกลับจากเพชรบุรีครับ ถึงห้องก็คงดึกสักหน่อยคงเที่ยงคืนน่ะครับ”

ฝนทิพย์ ได้ยินเขาบอกใครก็ไม่รู้ สายก่อนหน้านี้บอกนิษฐาไปว่ากลับไม่เกินสามทุ่ม แต่พออีกคนโทรมาบอกว่ากลับดึก เอ๊ะ..หรือว่าเขาจะสับรางรถไฟไม่ให้ชนกัน

โธ่เอ๋ย..ทำไมถึงได้ระแวงไปหมดแบบนี้ด้วยนะ ฝนทิพย์ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย

.....

“พี่พรคะ อรเปลี่ยนใจไปทานข้าวกับพี่พรแล้วค่ะ”

อรอนงค์บอกพี่สาวขณะที่ทั้งคู่กำลังหอบหิ้วข้าวของมาที่ลานจอดรถภายในห้างสรรพสินค้า

“อ้าวเมื่อกี้บอกจะให้พี่ไปส่งที่คอนโดเพื่อนไม่ใช่เหรอ” ธันยพร ถามน้องสาว

“ก็เพื่อนของอรจะถึงห้องเที่ยงคืนโน่นแน่ะ อรขี้เกียจไปรอ เอาไว้สักห้าทุ่มค่อยออกจากบ้านพี่พรก็แล้วกัน”

“ตามใจ”

ธันยพร บอกพร้อมกับเปิดกระโปรงท้ายรถนำข้าวของใส่จนหมด ในขณะที่น้องสาวไปนั่งคอยในรถแล้ว

“เดี๋ยวพี่จะแวะซื้ออาหารที่ร้านประจำไปทานกัน อร อยากทานอะไร”

พี่สาวเอ่ยถามในขณะที่ขับรถออกไป

“อะไรก็ได้ค่ะขอให้อร่อยก็แล้วกัน”

“เจ้านี้อร่อยถูกปากพี่กับกวีอยู่แล้วล่ะ ออ..อร..เพื่อนที่อรไปค้างด้วยน่ะใครเหรอ”

ธันยพร ลองเลียบเคียงถามดู เพราะเธอพอจะรู้มาจากป้าที่โทรมาเล่าให้ฟังถึงเพื่อนชายคนหนึ่งที่อรอนงค์สนใจจนขอที่อยู่กับป้าสดศรี

“เขาชื่อต้นค่ะ” อรอนงค์ บอกด้วยสีหน้าปลื้มใจ

“เธอบอกพี่ว่าเขาไปต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ค่ะ..แต่อรโทรหาเขาเมื่อกี้แล้ว เขาบอกว่าจะถึงกรุงเทพฯประมาณเที่ยงคืนค่ะ”

“พี่ไม่อยากให้อรค้างที่อื่นเลยนะ บ้านเราก็มีทำไมจะต้องไปค้างกับเพื่อนผู้ชายด้วย มันดูไม่เหมาะสมเลยนะ”

ธันยพร ลองเตือนสติน้องสาวแม้จะรู้ว่าคงยาก เพราะป้าสดศรีมักจะโทรมาเล่าถึงพฤติกรรมของน้องสาวตอนที่อยู่อเมริกาให้ฟัง เสมอ ป้าของเธอกลุ้มใจกับน้องสาวคนนี้มาก ซึ่งก็คงไม่ต่างจากเธอที่ไม่สามารถจะว่ากล่าวตักเตือนให้น้องสาวเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ โดยเฉพาะในเรื่องคบผู้ชาย

“แหม..พี่พรอย่าเชยนักเลยค่ะ ต้นกับอร สนิทกันตั้งแต่ที่อเมริกาแล้วล่ะ”

“นั่นมันที่อเมริกาแต่นี่มันเมืองไทยนะยัยอร จะทำอะไรก็อย่าให้มันน่าเกลียดนักเลย”

“พี่พรเลิกเป็นยัยแก่เทศนาอรสักทีได้ไหมคะ อรโตแล้วนะคะ โดนคุณป้าอบรมจนหูชาตั้งแต่ที่อเมริกาแล้ว มาเมืองไทยยังมีแม่คนที่สองอีก”

อรอนงค์ มองค้อนพี่สาวสีหน้ารำคาญ

“ที่พี่บอกก็เพราะรักและหวังดีกับเธอนะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ อีกหน่อยอรก็จะได้แต่งงานกับต้นแล้ว คุณป้ากับพี่พรจะได้เลิกห่วงอรสักที”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่ก็สบายใจ”

“พี่พรคะ อรขอซื้อรถไว้ใช้สักคันได้ไหมคะ” อรอนงค์ เอ่ยปากบอกกับพี่สาว

“เธอจะอยู่เมืองไทยแล้วเหรอ”

“ค่ะ..ต้นเขาจะอยู่เมืองไทย อรก็ต้องปักหลักอยู่ที่นี่กับเขา”

“ถ้าคิดจะอยู่เมืองไทยจริง ๆ พี่จะซื้อให้ก็แล้วกัน แต่ต้องราคาไม่แพงมากนะ”

“อุ๊ย! ขอบคุณค่ะพี่พร”

อรอนงค์ ดีใจเหมือนเด็กที่ได้ของตามที่ขอ

...

ต้นกล้า เดินมาส่งฝนทิพย์ถึงหน้าห้อง เขาอยากจะให้ฝนทิพย์เชิญไปนั่งเล่นที่ห้องด้วย แต่เธอไม่เอ่ยปาก เขาจึงกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วก็เดินออกไป

ฝนทิพย์ มองตามหลังเขาแววตาละห้อยนึกอยากจะชวนให้เขามานั่งเล่นที่ห้องอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ก่อน คงต้องรอให้มีจังหวะดี ๆ รู้จักกันมากกว่านี้สักหน่อย

พอฝนทิพย์ เข้ามาในห้องเสียงสัญญาณมือถือก็ดังขึ้น พอดูหน้าจอก็รีบกดรับสายทันที

“สวัสดีค่ะหญิงแม่” ฝนทิพย์กรอกเสียงล้อเลียน

“ออกไปไหนมายัยฝน” เสียงคุณน้อมจิตถามอย่างจับผิด

“ก็ไปกับแฟนฝนสิคะ เราไปทานข้าวเย็นกัน เขาเพิ่งมาส่งฝนที่ห้องค่ะแม่”

“ตกลงเธอมีแฟนแล้วจริงหรือเนี่ย ยัยฝน”

“ก็จริงน่ะสิคะ”

“ชื่อต้นกล้าอะไรนั่นใช่ไหม เห็นกวีบอกว่าเธอไปเที่ยวเพชรบุรีบ้านเกิดของเขาด้วย”

ฝนทิพย์ ยิ้มด้วยความพอใจ พี่ชายของเธอช่างเป็นผู้สื่อข่าวที่ทำหน้าที่ได้ฉับไวหายห่วง

“แล้วพี่กวีบอกอะไรแม่บ้างล่ะคะ”

“ก็บอกว่าเธอแวะเอาของฝากจากเมืองเพชรไปให้ที่บ้านพร้อมกับพาผู้ชายที่อ้างว่าเป็นแฟนไปให้ดูด้วย”

“ฝนไม่ได้อ้างนะคะแม่..เขาเป็นแฟนฝนจริง ๆ”

เธอย้ำให้มารดาเชื่อให้ได้

“เธอไม่ได้หลอกผู้ชายที่ไหนเอาไปให้ตากวีดูใช่ไหม”

ฝนทิพย์สะดุ้งที่มารดาพูดราวกับรู้จริง แต่ก็รีบหัวเราะกลบเกลื่อน

“แหม..แม่เห็นลูกตัวเองเป็นคนยังไงกันแน่”

“เห็นว่าเป็นคนไม่น่าเชื่อถือยังไงล่ะ ตากวีบอกว่าตอนที่เธอพาผู้ชายไปหาที่บ้านดูลุกลี้ลุกลนชอบกล พอตากวีอยากจะซักถามอะไรก็รีบพาคนที่อุปโหลกเป็นแฟนนั่นออกไปจากบ้านตากวีทันทีอย่างมีพิรุธ แล้วอย่างนี้จะให้เชื่อถือไหมล่ะ”

“โห..นี่พี่กวีพูดอย่างนี้เหรอแม่ หรือว่าแม่เติมข้อความเอง”

“ตากวีพูดหมดย่ะ” มารดายืนยัน

“พี่กวีใส่ร้ายน้องตัวเอง นิสัยทนายติดตัวชอบตั้งข้อสังเกตตั้งข้อกล่าวหา”

“แล้วจริงไหมล่ะ”

“จริง...อุ๊ย! จริงซะที่ไหนล่ะแม่ พี่กวีก็พูดไปเรื่อย” ฝนทิพย์ พูดแก้ได้ทัน

“ถ้าคิดจะมีแฟนต้องเอามาให้พ่อกับแม่ดูด้วย ตกลงจะชวนแฟนเธอมาที่บ้านเมื่อไหร่”

“แม่!.”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel