ตอนที่ 8 งานเลี้ยง
ภายในห้องจัดเลี้ยงวันเกิดของ นิรุจ เพื่อนซี้ของ คิระ
บรรยากาศในงานจัดเลี้ยงถูกตกแต่งในแนวกึ่งพับออกแบบไฟให้ดูสลั่วๆ เหมาะแก่การนั่งดริ้งเป็นที่สุด เพราะเจ้าของงานวันเกิดเป็นคนที่ชอบท่องราตรีอยู่แล้ว
ดังนั้น ภายในงานที่เขาเป็นเจ้าของ ก็เลยออกมาในแบบฉบับที่เน้นดนตรีและเสียงเพลงมันๆ เพื่อให้ทุกคนภายในงานได้โยกย้ายส่ายสะโพกกัน
ลักษณะของโต๊ะที่จัดเลี้ยงก็เป็นแบบโต๊ะยาวต่อกันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีช่องว่างตรงกลาง เพื่อจัดเป็นมุมค็อกเทล โดยมีบาร์เทนเดอร์มืออาชีพไว้คอยให้บริการด้วย
ส่วนที่นั่งก็เป็นเก้าอี้หัวโล้นขาเหล็กยาว ที่เอาไว้ให้เพื่อนๆ ของเขาได้นั่งดูบาร์เทนเดอร์จัดการเครื่องดื่มให้พวกเขา รวมถึงนั่งคุยกัน
แขกที่มาในงานเลี้ยงของนิรุจ มีประมาณเกือบจะ 50 คน ได้ จริงๆ 50 คนนี้เป็นคนที่เขาสนิท และยังเกี่ยวกับธุรกิจของเขาด้วย แต่หากเชิญคนที่เขารู้จักก็หน้าจะมากกว่า 100 ได้ มันจะดูใหญ่โตมากเกินไป นี้แค่เลี้ยงวันเกิดเอง เขาจึงเชิญเฉพาะคนที่สนิททั้งเพื่อนที่เรียนด้วยกัน และเพื่อนในแวดวงธุรกิจ รวมถึงญาติๆ ของเขา แต่พ่อกับแม่และญาติผู้ใหญ่ไม่ได้มาด้วย เพราะด้วยการจัดเลี้ยงในแบบนี้ ผู้ใหญ่ที่ชอบความสงบจึงขอบายเขากันทั้งหมด เหลือแต่กลุ่มที่มีรสนิยมในแนวเดียวกันมาเท่านั้น
และนั้น สาวๆ ก็มากกว่าหนุ่มๆ ด้วยซิ
นิรุจที่กำลังเดินทักทายเพื่อนๆ ภายในงานของเขา เขาทันสังเกตเห็นเพื่อนซี้ของตนที่กำลังนั่งเหม่อเลยอยู่ที่โต๊ะหน้าบาร์คนเดียว ถึงแม้ว่าจะมีสาวๆ คอยแวะเวียนมาทักทายเขา แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมทักทายสาวๆ กลับเลย
“เอ๋ ... เจ้าคิระเป็นอะไรไป ดูผิดปกติ”
เมื่อเขาสังเกตเห็นความผิดปกติก็เดินเข้าไปหาเพื่อนซี้คนนี้ทันที
“เป็นอะไรไปเพื่อน ... คิดมากเรื่องไรวะ” นิรุจเอามือตบไหล่เพื่อนซี้เบาๆ และถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขาไม่เคยเห็นเพื่อนซี้คนนี้เป็นอย่างนี้มาก่อน จากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆ คิระ
คิระที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่กลับคิดถึงใครก็ไม่รู้ได้ เขาก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเช่นกัน นี้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกับหญิงสาวปริศนาที่เขาเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก
“อะ! … เจ้ารุจ ... เปล่าๆ ไม่มีอะไรเพื่อน แค่คิดอะไรเพลินๆ นะ” คิระแก้ตัว
“แฮปปีเบิร์ดเดย์นะเพื่อน ฉันขอให้นายมีความสุข และประสบความสำเร็จกับธุรกิจโรงแรมของนายด้วยนะเพื่อน” คิระยกแก้วไวน์ขึ้นชนเบาๆ กับแก้วไวน์ของนิรุจเพื่อกล่าวอวยพรวันเกิดนิรุจเพื่อนซี้ของเขา
“ขอบใจเพื่อน” นิรุจยิ้มให้กับเพื่อนซี้คนนี้ของเขา
นิรุจ หรือ นิรุจ ตั้งวาณิชภิรมย์ กับ คิระ เป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่ปริญญาตรีด้วยกัน ทั้งคู่เรียนสาขาวิศวกรรมโครงสร้าง นิรุจไม่ถึงขั้นหล่อ แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ เข้าขั้นจัดว่าเป็นคนดูดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยหน้าตาสไตล์ลูกคนจีน เขาจึงเหมือนหนุ่มตี๋ ผิวขาว ตาชั้นเดียว ทั่วไปที่พบเจอได้ง่าย
ที่บ้านของเขามีธุรกิจโรงแรมหลายแห่ง แต่เป็นโรงแรมขนาดกลาง ที่ตั้งอยู่ตามแหล่งเศรษฐกิจหลักของเขตเมืองหลวง ในประเทศไทย รวมทั้งโรงแรมแห่งนี้ ก็เป็นธุรกิจในเครือของครอบครัวของเขาเช่นกัน
เมื่อนิรุจเรียนจบปริญญาโททางด้านการบริหารจากต่างประเทศ ทางครอบครัวก็ยกโรงแรมนี้ให้เขาบริหารจัดการ ซึ่งเขาก็ทำมันออกมาได้ดี ตอนนี้นิรุจก็กลายมาเป็นประธานของโรงแรมเดอะแลนด์หลักสี่ อย่างเต็มตัว
สำหรับความเจ้าชู้ของ นิรุจ หากเทียบกับ คิระ แล้วนั้น เขาก็พอตัว แถมเล่ห์เหลี่ยมในการจีบสาวของเขาก็แพรวพราวกว่าเยอะ
“นี่ คิระ เราเห็นนายนั่งเหม่อตั้งนาน น้องๆ ฉันที่มาในงานวันนี้ต่างก็พยายามทักทายนายหลายครั้งก็ไม่เห็นนายจะสนใจ มีเรื่องอะไรมารบกวนนายหรือเปล่าวะ”
“ไม่มีอะไรเพื่อน แค่คิดอะไรเพลินๆ เกี่ยวกับพรอจ์เจคท์ที่บริษัทนะ” คิระแก้ตัวอีกครั้งเมื่อเห็นเพื่อนถามเกี่ยวกับอาการใจลอยของเขา
“งั้นก็ดี เดี๋ยวเราแนะนำน้องเดียร์ ให้นายรู้จัก น้องเขาสนใจนายเอามากๆ เลยรู้ไหม เรารับรองน้องเขาน่ารักจริงๆ ... ช่วงนี้นายก็ไม่มีสาวๆ ด้วยใช่ไหมล่ะ” นิรุจเพื่อนซี้ได้ที ก็เสนอสาวๆ ให้เพื่อนซะเลย
“อือ ได้สิ” คิระ ที่ต้องการเอาเรื่องหญิงสาวปริศนาคนนั้นออกจากหัว จึงรับปาก นิรุจเพื่อนซี้ไป
“งั้นเดี๋ยวเราไปตามน้องเขามาแป๊บๆๆๆ ... นะเพื่อน”
ที่จริงนิรุจถูกสาวสวยเดียร์นา ที่มีสักเป็นลูกพี่ลูกน้องของนิรุจฝั่งทางพ่อของเขา รบเร้าให้พาเธอมาทำความรู้จักกับเพื่อนคนนี้ของพี่ชาย ตั้งแต่ที่เธอเห็นเขาเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง เธอก็ถูกใจเขาเอามากๆ
“คนอะไรจะหล่อได้ขนาดนี้” ขณะที่เธอกำลังจ้องมองมาทางคิระ และนิรุจที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกตัว เธอพยายามยิ้มให้เขาแต่เขาก็ไม่ยิ้มตอบกลับเธอเลย เขาถือเป็นผู้ชายคนแรกที่เมินเธอด้วยซ้ำ
จนเธอต้องพึ่งใบบุญของนิรุจที่สักเป็นญาติของเธอให้ช่วยเหลือเรื่องนี้
