ตอนที่ 5
วันรุ่งขึ้น...ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวเมืองลั่วหยางกันอย่างเพลิดเพลิน คิมคยองซอกมาช่วยถ่ายรูปให้พวกเราด้วย
"มี่มี่...มาเซลฟี่กัน"
คยองซอกเรียกฉันไปถ่ายกับเขา ฉันก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เขาเป็นคนดีที่ไว้ใจได้ พวกเรายืนถ่ายรูปกันสนุกสนาน เราเดินผ่านร้านที่มีชุดโบราณให้เช่าถ่ายรูป ฉันยืนมองอย่างสนใจ
"น่าสนใจนะมี่มี่ เราไปถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกไหม"
คยองซอกพูดชวน
"น่าจะแพงนะ"
ฉันลังเล ทั้งที่อยากลองถ่ายดูสักครั้ง เสื้อผ้าหลากสีสันงดงามมาก ไม่รู้ว่าฉันใส่แล้วจะเป็นยังไง
"ไปเถอะ..."
ยายมะนาวกับซิ่วซิ่วก็อยากถ่าย พวกเขาดึงแขนฉันเบา ๆ
"เราไปถ่ายกันหมดนี่แหละ"
คยองซอกต้อนเพื่อน ๆ เข้าร้าน เจ้าของร้านเป็นอาซิ้มวัยกลางคน หน้าตาใจดี เดินเข้ามาต้อนรับเรา ฉันมองไปรอบ ๆ ร้าน เขาติดรูปที่ลูกค้ามาถ่ายไว้เยอะแยะเลย มีตู้ใส่เสื้อผ้าเป็นตู้กระจกใบใหญ่ ตู้อุปกรณ์ประกอบชุดก็มี เช่นหอก ดาบ
"เชิญค่ะ...ถ่ายรูปใช่ไหมคะ เชิญเลือกชุดได้เลยค่ะ"
"ราคาเท่าไหร่ครับ"
"ค่าเช่าชุดใส่เดินเที่ยว ชั่วโมงละ 100 หยวนค่ะ ถ้าแค่ถ่ายรูป ก็ 50 หยวน จะเลือกแบบไหนดีคะ"
"เอาแค่เช่าถ่ายรูปไหม"
คยอนซอกหันมาถามเรา
"ไม่เอา...ฉันจะเช่าใส่เที่ยว สักชั่วโมงก็น่าจะพอ"
ฉันบอกเพื่อน ๆ พลางสอดส่ายตาหาชุดที่อยากใส่
"ถ้าเช่าเดินเที่ยว เรามีบริการทำผมแต่งหน้าให้ด้วยนะคะ เพิ่มอีกแค่ 30 หยวนค่ะ"
คนอื่น ๆ ตกลงใจจะแค่เช่าถ่ายรูป มีเพียงฉันที่ขอเช่าใส่เดินเที่ยว ฉันได้แต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดที่เลือก
"คุณหนูเข้าใจเลือกนะคะ ชุดนี้เป็นชุดสมัยถังชุดเดียวที่เรามีค่ะ"
พอฉันแต่งตัว แต่งหน้าทำผมเสร็จ ก็เดินออกมาโชว์เพื่อน ๆ ทุกคนต่างตะลึงลานกับความสวยของฉัน ตอนนี้...ฉันกลายเป็นสาวงามในยุคถังไปเสียแล้ว
ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะใส่ชุดโบราณขึ้นขนาดนี้ อย่างกับคนละคนเลยล่ะ ฉันออกมาเดินชมเมืองกับพวกเพื่อน ๆ กลายเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครที่พากันมอง
"มี่มี่...เธอเปลี่ยนชุดออกเถอะ คนมองกันใหญ่เลย"
คยอนซอกขมวดคิ้วบอกฉัน
"ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก สวยมากเลย นาน ๆ มี่มี่จะสวยสักที"
ซิ่วซิ่วกอดแขนยิ้มให้ฉันอย่างภูมิใจ แต่คยองซอกหน้าคว่ำ ไม่รู้เป็นอะไรของเขาสิ
ทุกคนเดินเที่ยวจนทั่ว ก็มานั่งพักกันที่ร้านน้ำชาโบราณ บริกรยกน้ำที่เราสั่งมาเสิร์ฟให้ เรานั่งดื่มน้ำกันอย่างกระหาย ยายมะนาวกับซิ่วซิ่วนั่งเม้าส์กันสองคน คยอนซอกนั่งมองออกไปนอกร้าน...ไม่คุยกับใคร
"คยองซอก...เป็นอะไร ทำไมวันนี้ไม่คุยอะไรเลยล่ะ"
ฉันสะกิดไหล่ถามเขา
"เปล่านี่...แค่เหนื่อยน่ะ"
เขาพูดโดยไม่หันมามอง ฉันจับไหล่เขาให้หันมาและจ้องตาเขา
"พูดอีกทีซิ..."
เขาหลบตา...หันไปทางอื่น แค่นี้ฉันก็จับโหกได้แล้ว เพราะถ้าเขาโกหก เขาจะไม่มองหน้าใคร
"คยองซอก...ไม่พอใจอะไรก็พูดมาตรง ๆ ทำแบบนี้ฉันไม่สบายใจนะ"
เขาก้มหน้าพูดเสียงอ้อมแอ้ม
"ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมองเธอแบบนี้"
ฉันจับไหล่เขา
"ฉันเข้าใจนะ แต่เขาก็แค่มอง ไม่มีอะไรหรอก...อย่าคิดมากสิ"
เขายิ้มพยักหน้า ฉันรู้ว่าเขาคิดอะไร เพราะเขาแสดงท่าทีว่าชอบฉันมานาน แต่ฉันเห็นเขาเป็นเพื่อน ฉันยังไม่อยากมีแฟนตอนนี้ จึงทำเป็นไม่รู้ว่าเขาแอบชอบ
ฉันกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าคืนให้เขา พร้อมชำระเงิน กลับมาเป็นยายเฉิ่มคนเดิม ฉันสะพายกระเป๋าใบเก่งออกมาหาเพื่อน ๆ พวกเราตกลงกันว่าจะนั่งรถไปเที่ยวแม่น้ำลั่วที่อยู่ไม่ไกล เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตก ฝนหยุดตกแล้ว อากาศกำลังดี ริมแม่น้ำลั่วสุ่ยร่มรื่นน่าเดินเที่ยว พวกเรามายืนมองสายน้ำที่ไหลเอื่อย ๆ
"ลำน้ำลั่ว...งดงามสมคำร่ำลือ"
ยายมะนาวเอ่ยขึ้น พวกเราพยักหน้าเห็นด้วย
"เห็นแล้วคิดถึงแม่น้ำฮันจังเลย"
คยอนซอกพูดขึ้นมา สายตาจับจ้องสายน้ำ
"คิดถึงบ้านเหรอ...คยอนซอก"
เขาหันมายิ้มให้
"คิดถึงสิ...ไม่ได้กลับบ้านมาเป็นปีแล้วนี่ ปีนี้ก็ไม่ได้กลับอีก"
ฉันกับมะนาวหันมองเขาพร้อมกัน เราเองก็ไม่ได้กลับมาเป็นปีแล้วเหมือนกัน ฉันจะมองแม่น้ำลั่วให้เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาดีไหมนะ มีคนมายืนดูสายน้ำหลายคน แต่แล้วก็เกิดเหตุประหลาด มีเมฆรูปร่างแปลก ๆ บนท้องฟ้า ดูโดดเด่นกว่าเมฆก้อนอื่น ๆ แล้วฟ้าก็ครึ้มลง เพราะเมฆก้อนนั้นบดบังดวงอาทิตย์
