ตอนที่ 2
ฉันยังนั่งแปลหนังสือต่อไปจนดึกดื่น พอรู้สึกว่าง่วงมาก จึงวางหนังสือแล้วเข้านอน คืนนั้น...ฉันก็ฝันแปลก ฝันเห็นสถานที่แห่งหนึ่ง...งดงามมาก ดูเหมือนจะเป็นพระราชวัง มีสวนดอกไม้สวย ๆ เยอะแยะ มีผู้หญิงแต่งตัวสวยเดินไปเดินมา ฉันเห็นตัวเองในชุดจีนโบราณสวยมากด้วยล่ะ ไม่เฉิ่มเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เลย ฉันยืนเคียงข้างใครคนหนึ่ง แต่มองเห็นไม่ถนัดว่าเป็นใคร
สักพัก....ก็ได้ยินร้องวี๊ดว๊าย พวกสาว ๆ วิ่งกันพล่าน มีมือสังหารกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามา ฆ่าคนเป็นว่าเล่น ทหาร ขันทีและนางกำนัลถูกฆ่าตายไปหลายคน
"อารักขา...อารักขา"
เสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้น ฉันตกใจจนว้าวุ่นไปหมด มองซ้ายมองขวาอย่างงง ๆ และหวังหาทางรอด มีมือสังหารคนหนึ่งเดินเข้าหาฉันอย่างประสงค์ร้าย มันชี้ดาบขาววับมาทางฉัน แล้วมันก็ฟันดาบลงมา ฉันร้องลั่นจนสุดเสียง..
"ว๊ายยยยย..."
"เฮ้ย...ร้องทำไม บ้าเอ๊ย...ตกใจหมดเลย อะไรของแกวะผึ้ง ฝันร้ายเหรอ"
ฉันตกใจตื่นลุกขึ้นนั่ง เหงื่อผุดเต็มหน้าเลย ยังอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย ยายมะนาวมานั่งข้าง ๆ ฉัน
"มีอะไรไอ้ผึ้ง หน้าแกซีดมากเลยว่ะ"
"ฉันฝันว่ากำลังจะถูกฆ่าว่ะ"
ยายมะนาวอึ้ง รีบปลอบโยนฉัน
"เฮ้ย...แค่ฝันเอง อย่าคิดมากเลยนะ"
"ถึงจะแค่ฝัน แต่มันเหมือนจริงมากนะมะนาว เหมือนจน...ฉันกลัวอ่ะ"
ยายมะนาวกอดฉันไว้แน่น
"อย่าคิดมาก ล้างหน้าล้างตาแล้วไปเรียนกันดีกว่านะ เดี๋ยวเราแวะกินอะไรหน้ามอ.ก่อน...ฉันเลี้ยงเอง"
ฉันจำต้องพยักหน้า ยอมลุกไปอาบน้ำ ได้ยินยายมะนาวพึมพำตามหลังว่า
"สงสัยจะอินจนเก็บไปฝัน เฮ้อ...ไอ้ผึ้งเอ๊ย บ้าจนขึ้นสมองละแก"
ฉันอาจเป็นอย่างที่ยายมะนาวพูดก็ได้ อ่านมากไปเลยเก็บไปคิดไปฝันเป็นตุเป็นตะ ไม่น่าเล๊ย...
วันนี้เราไปเรียนด้วยกัน เลิกเรียนตอนบ่ายพร้อมกัน เราเดินคุยกัน...จนจวนจะออกหน้าประตูอยู่แล้ว ก็มีเสียงเรียกตามหลังเรามา
"มี่มี่...เส้าเหมย"
มี่มี่แปลว่าผึ้งตามชื่อเล่นของฉัน เส้าเหมยคือชื่อจีนของยายมะนาว คนเรียกเป็นชายใส่แว่น วิ่งกระหืดกระหอบตามหลังเรามา
"คยองซอก มีอะไรเหรอ"
คิมคยองซอก เป็นชาวเกาหลีที่มาเรียนในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สาขาประวัติศาสตร์จีน เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันเองแหละ เขาพูดภาษาจีนได้ดีพอ ๆ กับภาษาเกาหลีเลยล่ะ
"มีข่าวดีมาบอก...ฟู่เหล่าซือจะจัดทริปไปมณฑลเหอหนาน กำลังให้ลงชื่ออยู่เนี่ย พวกเธอสนใจไหม"
"เฮ้ย!...จริงดิ ว๊าย...อยากไปมานานแล้ว"
ฉันดีใจจนออกนอกหน้า คยองซอกส่ายหัวยิ้ม ๆ
"มีไปเมืองลั่วหยางด้วยไหมคะ"
"คงมีมั๊ง.."
"มะนาว...เราไปด้วยกันนะ ฉันอยากไปลั่วหยาง อยากไปเห็นแม่น้ำลั่ว"
ฉันจับมือยายมะนาวเขย่าเบา ๆ
"ไปสิ...ฉันก็อยากไป รุ่นพี่เคยมาเล่าให้ฟังว่าสวยมากเลยล่ะ"
ฉันฉุดมือยายมะนาววิ่งไปลงชื่อ กลัวช้าเดี๋ยวจะอดไป คยองซอกเดินตามหลังมา เราเดินคุยกันไป...จนถึงที่ลานโถงใต้ตึกเรียน...อาจารย์ชายชื่อฟู่เหยียน วัย 40 เศษ กำลังยืนถือโทรโข่งพูดรายละเอียดทัวร์ให้คนที่สนใจฟัง
"ฟู่เหล่าซือ...เรามาขอลงชื่อด้วยค่ะ"
"เอาเลย...ลงชื่อเลย อาจารย์รับแค่ 40 คนเท่านั้น ใครลงชื่อช้าก็อด...ต้องรอปีหน้านะ"
พวกเรารีบไปลงชื่อก่อนจะเต็ม ปรากฏว่า...ฉันลงเป็นคนสุดท้าย ฉันดีใจจนกระโดดโลดเต้น ที่จะได้ไปดินแดนที่ใฝ่ฝันมานาน ฉันคงต้องรีบแปลหนังสือให้จบ เพื่อจะได้มีทุนรอนไปเที่ยว อดตื่นเต้นไม่ได้ ที่จะได้ไปเที่ยวอดีตเมืองหลวงของราชวงศ์ถัง
วันนี้หลังจากเรียนเสร็จ ฉันชวนยายมะนาวไปหาดอกเตอร์แจ๊ค...ดอกเตอร์สติเฟื่องประจำมหาวิทยาลัย เขามีชื่อจริงว่าดอกเตอร์หงซิวเสียน แต่ชอบให้ใคร ๆ เรียกว่าดอกเตอร์แจ๊ค
เขาบอกว่า...ตัวเองจบจากเคมบริดจ์ จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาแตกฉานวิชาวิทยาศาสตร์มาก ทั้งที่อายุเพิ่งจะ 30 กว่าเอง ว่าง ๆ ฉันก็ชอบหาเรื่องไปคุยด้วย...ได้ความรู้มาเยอะเลยล่ะ ฉันซื้อของกินไปฝากเขาด้วย เขาชอบกินเกี๊ยวเหลียวหนิง ฉันเลยซื้อมาเอาใจ
"แกนี่หลงรักอีตาดอกเตอร์นี่หรือไงนะ ถึงชอบมาหาเรื่อย ๆ"
ยายมะนาวว่าฉัน
"บ้าสิ...ฉันมาหาความรู้ต่างหากล่ะ"
"คงมีแต่แกล่ะมั๊ง...ที่คุยกับเขารู้เรื่อง"
"เขาคุยสนุกจะตาย แกไม่ลองคุยบ้างล่ะ ได้ความรู้ดีนะ"
ยายมะนาวส่ายหัวดิก ทำหน้าขยาด
"ไม่เอาล่ะ...เคยคุยแล้ว พูดอะไรก็ไม่รู้...ฉันไม่เข้าใจ เชิญแกคุยไปคนเดียวเถอะย่ะ"
ยายมะนาวโบกมือลาไปกับเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกัน ฉันเลยต้องเดินไปหาดอกเตอร์คนเดียว ไม่ใจเล๊ย...ยายมะนาวนี่
"ฮัลโหล...ดอกเตอร์"
ฉันโผล่หน้าเข้าไปทักก่อน เขาหันมายิ้มให้
"อ้าว...มี่มี่ วันนี้ว่างเหรอ"
"ก็ไม่เชิงค่ะ...เพิ่งเรียนเสร็จ เลยแวะมาเยี่ยม เอาของชอบมาฝากด้วยค่ะ"
ฉันเอาถุงเกี๊ยวยื่นให้ดู เขายื่นหน้ามาดมแล้วยิ้มกริ่ม
"อ้าาา...หอมกลิ่นเกี๊ยวเหลียวหนิง เธอนี่ช่างรู้ใจ...กำลังหิวเลยล่ะ มา ๆๆๆ ขอกินหน่อย"
เขานั่งลงเปิดปากถุง หยิบชามเกี๊ยวที่ยังร้อน ๆ ออกมา
