4

“มึงจะเครียดไปทำไมวะ เขาบอกว่ามึงอยากจะทำอะไรก็ทำ ใช้ชีวิตของตัวเองไป เมียแบบนี้มันหาไม่ได้ง่ายๆ นะเว้ย จะเครียดเพื่อ? เอ็นจอยสิวะพวก ชน!” กิตติ พุฒิวงศ์หรือกิต หนึ่งในกลุ่มเพื่อนไฮโซ ที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย ณ โรงเรียนชายล้วนนานาชาติแห่งหนึ่ง

เอ่ยขึ้นตามประสาหนุ่มโสด ที่ครองตัวเป็นโสดเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ

“จริง อันนี้กูเห็นด้วยเลย ที่ผ่านมามึงไม่อยากแต่งงานก็เพราะอย่างนี้ ได้แต่งทั้งที แถมยังได้ใช้ชีวิตเหมือนเดิมด้วย ไม่ดีตรงไหนวะ?” ผดุง เวชการุณย์หรือดัชส์ นายแพทย์หนุ่มผู้รักอิสระและยังครองตัวเป็นโสดไม่แพ้กัน เอ่ยเชิงสนับสนุนคำพูดของกิตติ

ดนุถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พร้อมส่ายหน้า

นั่นสิ ทำไมวะ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดใจ พร้อมยกแก้วเหล้าชงฝีมือของกิตติขึ้นมาดื่มพรวดเดียวจบ

“โห ดูจากสภาพมัน น่าจะเครียดจริงจังว่ะ” ผดุงว่าพร้อมส่ายหน้า จัดการเตรียมน้ำแข็งใส่แก้วให้อีกรอบ เพราะรู้ดีว่าคืนนี้เพื่อนรัก คงจะต้องการอีกหลายพรวด

“ใจเย็นพวก...มึงมีอะไร มึงก็บอกพวกกูได้ เห็นช่วงนี้มึงไม่ยอมอัปเดตอะไรเลย แฟนคลับบ่นคิดถึงกันใหญ่ มาเม้นต์ในไอจีกับติ๊กต่อกพวกกูเต็ม” กิตติว่าเชิงพยายามกระทุ้งความใน ของคนที่มีอะไรก็ใช่ว่าจะยอมพูดออกมา

“จะให้มันโพสต์อะไรได้วะ มันวุ่นเรื่องงานแต่งจะตาย” ผดุงว่าเชิงแซว พร้อมเริ่มชงเหล้าแทนกิตติบ้าง

“มึงนี่ก็ไปแซวมัน” พอทำเป็นว่าผดุงได้แล้ว ก็หันมามองหน้าเรียวยาว ที่คมสมส่วนของคนที่หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มอีกครั้ง เชิงห่วงใย

“กูว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่ดี” สองหนุ่มสัมผัสได้ถึงความเคร่งขรึมของเพื่อนรัก ก็มองหน้ากันเชิงปรึกษา

“หมายถึงกับมึงหรือแม่มึงวะ?” กิตติถามขึ้นแบบหยั่งเชิง เพราะเขารู้ดีว่า...ต่อให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดนุกับมารดาจะดูไม่ค่อยลงรอยกันแค่ไหน

แต่ชายหนุ่มก็รักท่านมาก สงสารท่านมาก รวมไปถึงเห็นใจมากๆ

‘กูรู้ว่าท่านไม่เหมือนใคร ยิ่งท่านเป็นแบบนี้ยิ่งไม่มีใครชอบท่าน...นั่นคือเหตุผลที่ทำให้กูต้องเลือกท่าน เพราะท่านไม่น่าจะเหลือใครแล้ว นอกจากกูแล้ว’ เขาเคยยอมเปิดใจเล่าให้กิตติฟัง ในวันที่เมามากๆ ซึ่งไม่ได้มีบ่อย

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้กิตติพยายามจะรับฟังเพื่อนให้มากขึ้น เพราะอยากจะแบ่งเบาในภาระที่ชายหนุ่มจะต้องแบกอึ้งเอาไว้ในใจมาเสมอ

ยิ่งตั้งแต่ที่ได้เลิกกับผู้หญิงที่รักมากที่สุดคนหนึ่งไป เพื่อนของเขาก็ไม่กล้าที่จะรักใครอีกเลย

“แม่กูสิ มึงคิดว่าคนที่จะทนคนอย่างท่านได้ง่ายๆ หรือท่านจะรักชอบใครออกหน้าออกตา จะมีอยู่บนโลกนี้จริงๆ เหรอ”

“เออ มันก็จริงนะเว้ย...มึงกำลังจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังหลอกแม่มึง และเล่นละครตบตาแม่มึงอยู่อย่างนั้นใช่มั้ย?” ผดุงวิเคราะห์บ้าง เพราะเหตุผลนี้ก็น่าฟังไม่น้อย เพราะฤทธิ์ของคนอย่างดารุณี เขาเองก็เคยประสบพบเจอมาบ้าง   

“แต่แม่มึงมองคนออกนะเว้ย เคยมีผู้หญิงหลายคนพยายามเข้าหาท่าน ตอแหลตบตา...ท่านก็ถลกหนังหัวออกมาประจานได้ตลอด คนนี้จะรอดอยู่เหรอวะ?” กิตติผู้เห็นต่างรีบออกความคิดเห็นบ้าง

“หึ ถ้าเปรียบผู้หญิงคนนี้เป็นหลุม ก็คงจะเป็นหลุมที่ลึกยากเกินกว่าจะหยั่งดูภายใน แววตาก็ใส...เหมือนไม่มีอะไรเลย ทั้งๆ ที่ความจริง คิดไปถึงไหนต่อไหน”

“เช่นเรื่องอะไรบ้างวะ?” ผดุงผู้ฟังอย่างสนใจ รีบถามออกไปในทันที

“ก็เช่นที่ทำเป็นเหมือนไม่สนใจกูไง มึงคิดว่าจะเป็นไปได้เหรอ ที่จะมีผู้หญิงสักคนหลุดรอดจากการชอบคนอย่างกูไปได้” ทีท่าหงุดหงิดใจของดนุ ทำเอาสองหนุ่มหัวเราะลั่นขึ้นพร้อมกัน

“เดี๋ยวๆ ไอ้ที่หงุดหงิดอยู่นี่...แท้จริง หงุดหงิดที่เขาไม่สนใจตัวเองว่างั้น?” กิตติขำไปถามไป อย่างคาดไม่ถึงว่าเพื่อนรักจะเป็นคนแบบนี้ไปได้

“ไม่ใช่เว้ย กูแค่ชวนให้ดูความเป็นไปได้ มันจะมีจริงๆ เหรอผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ที่ไม่สนใจผู้ชายหน้าตาดี แถมดีกรีก็ไม่ธรรมดาแบบกูน่ะ”

“กูล่ะชอบความมั่นใจให้ห้า มั่นหน้าให้ร้อยของมึงจริงๆ เลยว่ะเพื่อน!” ผดุงว่าพร้อมเอาแก้วของตัวเองมากระทบเบาๆ เข้าที่แก้วของเพื่อนรัก พร้อมกระดกรวดลงคอรวดเดียว อย่างชอบอกชอบใจ

“มึงจะหาว่ากูโม้เหรอ”

“เปล่าโว้ย กูเชื่อว่าสิ่งที่มึงพูดมาเป็นจริง แต่กูก็เชื่อว่าผู้หญิงแบบนั้นมันก็มีจริงๆ เพราะเพื่อนกูพวกผู้หญิงที่เป็นหมอหลายๆ คนก็เป็นแบบนี้นะ สวย รวย เลือกได้...กับคนหล่อรวย ผู้หญิงพวกนี้ไม่ค่อยจะสนเท่าไหร่ว่ะ จะแบบเฉยๆ อยู่คนเดียวก็ได้ประมาณนี้” คำพูดของผดุงทำเอาคนที่ไม่ใช่แค่เข้าข้างหรือหลงตัวเองไปวันๆ พยักหน้าและคิดตาม

เพราะที่เขาพูดไปทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเห็นตัวเองดีเลิศ แต่พูดตามเท่าที่เห็นมา และพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมาก็เท่านั้น

“แต่กูก็แอบเห็นด้วยกับไอ้นุนะเว้ย เออ..สิ่งที่มึงพูดมามันก็ไม่ได้ผิด มันก็มีผู้หญิงที่ไม่ได้ชอบผู้ชายหน้าตาดีหรือร่ำรวยอะไร แต่กลุ่มผู้หญิงเหล่านั้นก็มักจะเป็นพวกที่พึ่งตัวเองได้ มีต้นทุนของตัวเองดีกันอยู่แล้ว แต่เจ้าสาวของไอ้นุเนี่ย...เขาทำงานอะไรก็ไม่รู้ นามสกุลก็ไม่ดัง เขาไม่น่าจะเข้าข่ายคนที่จะเมินผู้ชายครบพร้อมอย่างเพื่อนรักของพวกเราไปได้นะเว้ย”

กิตติเห็นต่างจากผดุงพร้อมให้เหตุผลในมุมของตัวเองบ้าง จนผดุงต้องหยุดคิดตามอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้เสนอความเห็นโต้แย้งกลับมา

เชิงจะเห็นด้วยอยู่แหละ...

“กูสืบอะไรเกี่ยวกับยัยนี่ไม่ได้เลย เหมือนแม่จะปกป้องอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม” ยิ่งคิดไปถึงท่านออกโรงปกป้องผู้หญิงคนนี้ทุกอย่าง เขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด

“แล้วแม่มึงรู้ไหมวะ ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รักไม่ได้ชอบอะไรมึง แค่ยอมแต่งงานไปอย่างนั้น?" ผดุงตั้งข้อสังเกตกลับมาอีกครั้ง จนกิตติสนใจคำตอบของคำถามไปด้วย

“น่าจะรู้” ตอบพร้อมวางแก้วเหล้าชงที่เหลือแต่น้ำแข็ง ลงบนโต๊ะกระจกสีดำกลม จนเกิดเสียงกระทบเล็กน้อย

“รู้...แต่ก็ยอมให้มึงแต่งด้วย แม่มึงคิดอะไรของท่านอยู่วะ?” กิตติดึงแก้วเหล้าของเพื่อนไปชงให้อีกครั้ง แบบคิดไม่ตกเช่นกัน

“นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้กู แม่งไม่สามารถดำเนินชีวิตไปตามปกติได้ กูบอกตามตรงเลยนะ ว่ากูไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้” อีกสองหนุ่มพยักหน้าเชิงเข้าใจ

“แล้วมึงจะทำยังไงต่อไปวะ?” ผดุงเอ่ยเชิงเคารพทุกการตัดสินใจ แต่ก็อยากจะร่วมรับรู้

“ทำทุกอย่างให้ยัยนี่ขอหย่า”

“แล้วอะไรที่จะทำให้เธอขอหย่าได้วะ เหมือนเราจะยังไม่รู้เลยว่า ตกลงเธอต้องการอะไรกันแน่?” กิตติว่าอย่างไม่สบายใจนัก เพราะเริ่มเป็นห่วงดนุขึ้นมา

“พวกผู้หญิง คงต้องการอยู่ไม่กี่อย่างหรอก...” แล้วมุมปากหยักก็ค่อยๆ แสยะขึ้นเชิงมั่นใจ

“ยังไงวะ?” แต่กิตติก็ยังไม่ได้เข้าใจ มองไปยังผดุงก็ส่ายหน้าให้ เชิงตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน

“กูมั่นใจ ว่ายังไงคงไม่มีผู้หญิงคนไหน ที่จะทนเห็นสามีของตัวเองออกจากบ้านทุกคืนได้ ไม่สนใจเธอได้ หรือแม้แต่มีผู้หญิงคนอื่น...ยิ่งเธอบอกว่าให้กูใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ นั่นแสดงว่าเธอกำลังต้องการที่จะผูกมัดกู” ผดุงพยักหน้าขึ้นมาอีกครั้งราวกับนึกอะไรได้

“จริงๆ อันนี้จริง! กูเคยได้ยินพวกพี่พยาบาลเขาพูดกัน ประมาณพวกผู้หญิงสมัยนี้พยายามหาวิธีมัดใจสามีด้วยจิตวิทยา ปล่อยให้ผู้ชายล่า...ไม่ตื๊อไม่ตาม ไม่แน่นะ กูว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะกำลังใช้วิธีนี้อยู่ก็ได้” กิตติได้ยินอย่างนั้นก็รีบพยักหน้าเชิงเห็นตาม เพราะดูแนวโน้มแล้วมีโอกาสที่จะเป็นไปได้

“ไม่แน่นะ ตอนนี้ยัยนั่นอาจจะกำลังนอนน้ำตาไหลเพราะในคืนเข้าหอไร้เจ้าบ่าวก็ได้ ใครจะรู้...” เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักทั้งสองเห็นด้วย ก็ยิ่งเสริมความมั่นใจในตัวเองให้ดนุเข้าไปใหญ่ น็นด้็