ตอนที่ 7
เมื่อมัชฌิมาได้มาอยู่ใกล้ ๆ ทำให้คำหยาดสามารถรับรู้ถึงกระแสพลังหนึ่งที่หล่อนคุ้นเคย และแน่ใจว่า ต้องมีอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับเมืองลับนคร แต่แล้วก็ทำให้หล่อนฉุกนึกถึงหลานสาวคนเดียวของหล่อน
“มัชฌิมา”
หล่อนเรียกชื่อของหลานออกมาเหมือนละเมอพร้อมกับดวงตาเบิกกว้าง แม้จะเจ็บปวดเจียนขาดใจกับบาดแผลที่ถูกทรมานอย่างสาหัสนั้น
“หรือเพราะมัชฌิมา ได้ถูกจับมาแล้ว โอ! ไม่ ขออย่าเป็นอย่างนั้นเลย”
คำหยาดหลับตานิ่งด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว แม้ร่างกายภายนอกจะบอบช้ำอย่างสาหัสแต่เมื่อคิดว่าหลานสาวคนเดียวจะต้องตกอยู่ในอันตราย แล้วจะเป็นต้นเหตุให้มนต์ดำกลับเป็นมนุษย์แล้วสร้างเวรกรรมกับคนเมืองลับ หล่อนก็แทบบ้า
“ชุติมณี ดวงวิญญาณของท่านอยู่ที่ไหน ช่วยปกป้องคุ้มครองมัชฌิมาด้วยเถอะนะ ท่านเจ้าเมืองภพธรรม ขอท่านแผ่บารมีช่วยคุ้มกันธิดาของท่านให้รอดพ้นจากเงื้อมมือภูตมนต์ดำที่โหดร้ายตนนี้ด้วยเถิด”
คำหยาดพยายามยกมือพนมแล้วตั้งจิตอธิษฐานถึงบิดาและมารดาของมัชฌิมา เป็นเวลาเดียวกับที่รศยา เข้ามาที่นั่นพร้อมภูตบริวารของภูตมนต์ดำ
“เปิดประตูให้ข้า”
รศยาร้องสั่งภูตที่เตรียมวางอาหารไว้นอกกรงขัง
“มิมีคำสั่งจากนายท่าน”
“แต่ข้าเป็นเมีย หน้าที่ของพวกเจ้าคือทำตามคำสั่งข้า”
รศยาออกคำสั่งทำให้ภูตบริวารตนนั้นจำต้องเปิดประตูให้รศยาก้าวเข้าไปหาคำหยาดพร้อมถาดอาหาร
“ออกไปรอด้านนอก แล้วหากเจ้าพอมีไหวพริบอยู่บ้าง คงไม่บอกเรื่องนี้กับนายของเจ้าหรอกนะ”
รศยาหันกลับไปมองภูตบริวารตนนั้นเมื่อมันยอมก้าวออกไปแล้วคอยดูต้นทางให้ จากนั้นหล่อนก็ย่อกายลงนั่งพร้อมกับวางถาดอาหารไปตรงหน้าของคำหยาดที่ช้อนสายตามองหน้าหล่อน ก่อนจะเมินไปอีกทางแต่รศยากลับยื่นมือกระชากร่างของคำหยาดให้หันมามองหล่อน
“เจ้าต้องมองข้า คำหยาด เพราะเจ้า ทำให้ข้าต้องมีมลทิน เพราะเจ้าทำให้ข้ากลายเป็นคนชั่วร้าย”
“เจ้าพูดราวกับว่าเจ้าเป็นคนดีเสียนักหนา หากก่อนหน้านี้เจ้าไม่ผลักไสชุติมณีกับมัชฌิมาให้ออกมาพ้นจากเมืองลับนคร เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นได้เยี่ยงใด หาใช่เพราะข้าไม่ แต่เป็นเพราะเจ้า”
“ไม่จริง”
รศยาแผดเสียงก้องพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของคำหยาดที่อาบไปด้วยเลือดสีแดงสด
“หากไม่เพราะสตรีที่เจ้าเปรียบดังน้องสาวเจ้า หวังครอบครองท่านเจ้าเมืองเพียงคนเดียว ข้าหรือจะทำเยี่ยงนั้น แถมยังใช้ให้มัชฌิมาเรียกร้องความสนใจไปจนหมด ข้าไม่เคยได้รับความรักและการเหลียวแลเลยสักนิด”
“หากเจ้าไม่วางแผนเลวร้ายด้วยการบิดเบือนประเพณี ทำให้ท่านเจ้าเมืองตกหลุมพรางของเจ้า หลงเสน่ห์ของเจ้า ถูกเจ้ามอมเมาจนได้เสียเจ้า ความพินาศของเมืองลับคงไม่บังเกิด”
“ใครใช้ให้น้องสาวเจ้า แย่งท่านเจ้าเมืองไปจากข้าเล่า ราชินีของเมืองลับนคร มันควรเป็นของข้า”
“หากแต่หัวใจของท่านเจ้าเมืองมิมีเจ้าอยู่ เจ้าจักโทษใครได้เล่ารศยา”
คำหยาดเอ่ยออกมาแล้วหัวเราะเบา ๆ ทำให้รศยากำมือแน่นด้วยความชิงชัง เพราะสิ่งที่คำหยาดพูด มันคือความจริงซึ่งบางครั้งทำให้หล่อนอดที่จะโทษตัวเองเสียไม่ได้ ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นที่รักของชายที่หล่อนเฝ้ารักและหวังจะเป็นชายาของเขาแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อเขาไม่เลือกหล่อนก็ทำให้หล่อนหาทางที่จะไปอยู่กับเขา แม้จะเป็นที่สองก็ขอเพียงให้มีโอกาสอยู่กับเขา ทำให้หล่อนวางแผนทุกอย่างเพื่อจุดมุ่งหมายคือการได้เป็นชายาของท่านเจ้าเมืองภพธรรม บิดาของมัชฌิมา
“หากเจ้าสำนึกผิดบาปที่เคยทำไว้ ทำให้ต้องสูญเสียแม้ชายอันเป็นที่รักและทำให้แผ่นดินต้องมัวหมอง จงช่วยข้าออกไป เราต้องกลับเมืองลับนคร”
รศยามองหน้าคำหยาดแล้วเมินไปอีกทาง
“เจ้าคิดหรือว่าข้าใคร่ทำเช่นนี้ เจ้าคิดหรือว่าข้าอยากทำร้ายเจ้า ที่มีเชื้อสายคนเมืองลับนครเช่นเจ้า เจ้าคิดหรือว่า ข้าปรารถนาจะได้ชื่อว่า หญิงสองผัว แถมผัวที่สองมันคือภูต แล้วเป็นภูตที่เลวร้ายอย่างมนต์ดำ เจ้าคิดว่าข้าพอใจกระนั้นหรือคำหยาด”
คำหยาด ค่อย ๆ ช้อนสายตามองหน้ารศยาอีกครั้งนิ่งและนาน
“เพลานี้ เจ้าหาได้อยู่ภายใต้อาคมของภูตเลวนั่น ใยช้าอยู่เล่า”
“เจ้าคิดว่าเราจะออกไปจากที่นี่ได้ง่าย ๆ กระนั้นหรือ”
“หากมัชฌิมา มาที่นี่ ทุกอย่างต้องจบ หากมันได้ครอบครองมัชฌิมา หรือแม้แต่ได้เลือดของมัชฌิมา มันจักกลับกลายเป็นมนุษย์ มันจะกลับเมืองลับนคร ครอบครองที่นั่น ผู้คนจะเป็นเช่นไร”
รศยามองหน้าคำหยาด
“เหตุใดเจ้ามิปลิดชีพตนเองเสียเล่า มันจะได้จบ”
รศยาพูดจบก็เดินออกไปจากที่คุมขังแห่งนั้น ทิ้งให้คำหยาดได้แต่นั่งนิ่งด้วยอาการตรึกคิดอย่างที่รศยาบอก
“ใช่ เหตุใดข้ามิตายเสียเล่า ทุกอย่างจะได้จบ”
คำหยาดนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะมองไปที่ถาดอาหาร
“เพียงข้าตายเท่านั้นเอง”
หล่อนหยิบช้อนมาถือไว้ พร้อมกับมองดูด้ามช้อน แล้วจับมาวางมาที่คอ แล้วเงื้อขึ้นกระแทกลงที่คอของตนเองอย่างแรง
“โอ๊ะ..”
หล่อนพยายามแข็งใจกระชากด้ามช้อนออกแล้วปักลงที่คออีกหลายครั้งหวังให้ตายสมใจ
“อะไรนั่น!”
บริวารภูตของมนต์ดำที่เตรียมเข้ามาปิดกรงขังมองเห็น รีบถลาเข้ามาแย่งช้อนจากมือของคำหยาดแต่หล่อนก็ต่อสู้หมายจะเอาช้อนที่เปื้อนเลือดกลับมา เมื่อภูตตนนั้นแข็งแรงกว่าเพราะเป็นชาย ทำให้คำหยาดผลักร่างของมันแล้วถลาออกมาหมายจะวิ่งหนี แต่ไม่ว่าหล่อนจะวิ่งไปไกลแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากบริเวณที่เป็นเหมือนที่คุมขังทรงกลมได้เลย
จนกระทั้งหล่อนมีความรู้สึกเหนื่อยอ่อนหมดเรี่ยวแรง ร่างบางที่ผ่ายผอมก็ทรุดฮวบลงแทบพื้น สถานที่นั้นเปลี่ยนเป็นห้องโถงกว้างที่มีกลิ่นอับชื้น เหม็นหืนจนสุดทน
