ตอนที่ 18
“ไปไหนนะ ยังเช้าอยู่เลย”
คุณสุวีราเปรยออกมาเบา ๆ ก่อนจะมองหน้าสามีและลูกสาวคนเล็ก
“ทานอาหารเถอะค่ะคุณ มาใยณิต เดี๋ยวไปสายรถจะติดนะลูก”
วรรณิตเดินไปนั่งยังเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วก็ถอนใจยาวออกมาเสียหลายครั้งทำให้ผู้เป็นพ่อหันไปมองแล้วยกมือเขย่าศีรษะของหล่อนเบา ๆ
“เป็นอะไรไปอีกล่ะเรา อย่าบอกนะว่าจะรีบไปอีกคน”
“ไม่หรอกค่ะพ่อ ณิตไม่อยากไป”
“แล้วกัน”
“ณิตคิดถึงเพื่อนของณิตค่ะ เราเรียนอยู่ด้วยกันตั้งสิบปี จู่ ๆ ก็มาจากไป โดยไม่ล่ำลา ทั้งที่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ”
“ใครหรือลูก
“มัชฌิมาค่ะแม่”
“ใครกัน”
“เพื่อนที่ณิตรักที่สุด มัชเป็นคนใจดี แล้วน่ารักมาก ๆ เป็นเพื่อนคนเดียวที่ณิตรักที่สุด แล้วณิตก็คิดถึงเขาที่สุด และก็โกรธเขาที่สุดด้วยเหมือนกันที่ไม่ยอมส่งข่าวและไม่ยอมบอกว่าไหน เมื่อไหร่กลับ”
ทั้งสองสามีภรรยามองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู
“ทานข้าวเถอะลูก หนูโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว อายุยี่สิบ บรรลุนิติภาวะแล้วนะลูก เลิกติดเพื่อนได้แล้ว ทุกคนก็ย่อมต้องมีเส้นทางเดินเป็นของตนเองด้วยกันทั้งนั้น”
“ใช่จ้ะ บางทีเพื่อนของหนูอาจจะมีเรื่องด่วนที่ไม่ทันได้บอกหนูก็ได้ แม่ว่าไม่นานเขาจะต้องกลับมา”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะค่ะ ถ้าไม่เป็นเพราะมัชไม่อยู่ ณิตไม่ยอมลงมากรุงเทพฯหรอก อยู่ภาคเหนืออากาศดีจะตายไป”
เจ้าหล่อนยังคงบ่นต่ออีกหน่อยก่อนจะตักอาหารทานแล้วก็ไปยังสถานศึกษาแห่งใหม่หลังจากที่ขอโอนหน่วยกิตจากสถานศึกษาเดิมทางภาคเหนือมา เมื่อเพื่อนรักจากไปโดยไม่บอกแล้วไม่ยอมกลับมา
ในขณะที่มัชฌิมานั่งรถมากับกานต์เธอก็คิดมาตลอดทางว่าจะหาบุคคลที่จะสามารถช่วยเธอได้อย่างไร เขาอยู่ที่ไหน ในเมื่อไม่ใช่กานต์ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป
“ผมจะต้องเข้าประชุม คุณอยู่ในห้องทำงานของผมก่อนนะครับ ผมประชุมประมาณสองชั่วโมง”
กานต์บอกเธอเมื่อเลี้ยวรถมาจอดยังที่จอดรถประจำของเขา แต่มัชฌิมายังนั่งเงียบสีหน้าและแววตาฉายแววครุ่นคิดและวิตกอย่างเห็นได้ชัด
“คุณมัชครับ คุณมัช”
เขาเรียกเธอเบา ๆ แต่เธอยังนั่งนิ่ง ทำให้เขาวางมือใหญ่ที่สะอาดลงยังหลังมือบางที่อ่อนนุ่มของเธอแล้วบีบเบา ๆ ทำให้เธอหันไปมองหน้าเขาก่อนจะก้มมองมือของตนเองแล้วค่อย ๆ ดึงออกมา พลางยิ้มเย็น
“ถึงแล้วหรือคะ”
“ครับ ผมจะต้องเข้าประชุมประมาณสองชั่วโมง คุณอยู่ในห้องทำงานของผมได้นะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
กานต์ก้าวลงจากรถอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ แล้วเดินนำหน้าเธอเข้าไปยังด้านใน ตรงไปยังห้องทำงานของเขายังชั้นที่สิบของตึกใหญ่ที่สูงถึงยี่สิบชั้น แต่ทางที่เดินผ่านไปนั้นเขาต้องผ่านพนักงานมากมายที่ทำงานอยู่ตามแผนกต่าง ๆ
ทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้มองเห็นเธอที่เดินตามเขาไป จากนั้นก็มีเสียงซุบซิบตามมาเป็นระรอกด้วยความสงสัยแล้วมีบางคนก็เสนอที่ท่าว่าเป็นคนที่เขาไว้วางใจ แอบใส่เรื่องราวต่อไปอย่างสนุกสนาน
“ห้องนี้ครับ”
เขาเปิดประตูห้องทำงานของเขาออก ให้เธอก้าวเข้าไปก่อนจะหันไปมองเลขาวัยสี่สิบเศษที่เป็นหญิงโสดที่มีความคล่องแคล่วแล้วเก่งหลายด้าน หล่อนตามเข้ามายืนอยู่ห่างจากเขาไม่มากพร้อมเอกสารสำคัญที่เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประชุม
“ช่วยให้คนจัดเครื่องดื่มและของว่างมาให้คุณมัชด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ”
เขาหันไปมองหน้าหวานที่เย้ายวนและสดใสของเธออีกครั้ง
“เดี๋ยวผมมานะครับ”
“ค่ะ”
เธอส่งยิ้มให้เขาเมื่อมองตามหลังเขาที่ก้าวออกไปในขณะที่ดวงมาลย์เลขาของกานต์อดที่จะหันกลับไปมองหน้าหวาน ๆ ที่ดูอ่อนโยนของเธออีกครั้งเสียไม่ได้ ขนาดหล่อนเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังอดที่จะเผลอมองจนเพลินไม่ได้ ที่สำคัญหล่อนสงสัยว่า ผู้หญิงสาวแสนสวยที่ดูหวานอย่างเย้ายวนคนนี้เป็นใคร
แต่หลังจากดวงมาลย์ก้าวออกไปไม่นานก็มีพนักงานหญิงวัยห้าสิบเศษซึ่งเป็นแม่บ้านเข้ามาพร้อมเครื่องดื่มและผลไม้และขนม แต่หล่อนก็ต้องเผลอจ้องมองเธอนิ่งด้วยความสงสัยเพราะทุกครั้งที่หล่อนเห็นว่ามีผู้หญิงมาอยู่ในห้องนี้ จะต้องเป็นไอลดาเท่านั้น
“ขอโทษนะคะ หากเราต้องการจะทราบเชื้อชาติหรือชาติกำเนิดที่มาที่ไปของคนแต่ละคน เราต้องหาจากอะไรหรือคะ”
จู่ ๆ มัชฌิมาก็เอ่ยถาม ทำให้แม่บ้านคนนั้นถึงกับอึ้งไปนาน
“ก็ต้องหาจากทะเบียนราษฎร์สิคะ สำนักงานเขต เทศบาล หรืออำเภอ”
คำตอบนั้น เหมือนทำให้ความรู้สึกของคนที่ยืนอยู่กลางหมอกควันที่หนาแน่นจนหาทางออกไม่เจอ จู่ ๆ ก็มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่แผดกล้าส่องแสงมาอย่างร้อนแรงแผดเผาหมอกควันนั้นไปจนหมด
“จริงด้วย ขอบคุณนะคะคุณป้าขา”
มัชฌิมากระพุ่มมือไหว้แม่บ้านพร้อมกับสวมกอดหล่อนไว้ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างสดใส ประกอบกับน้ำเสียงที่นุ่มเสนาะหูทำให้แม่บ้านคนนั้น ที่เคยพบกับความถือตัวของไอลดาต้องยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข
“คุณจะหาใครหรือคะ”
“ใช่ค่ะ ฉันต้องการหาใครสักคน..ต้องไปสำนักงานเขต ขอบคุณนะคะ”
มัชฌิมาพูดแล้วก็เตรียมตัวจะออกไปจากที่นั่นไปยังสถานที่ที่เธอคิดไว้ แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวออกไปจากห้อง บานประตูก็ถูกผลักให้เปิดกว้างด้วยมือบางของไอลดา
ทันทีที่หล่อนมองเห็นมัชฌิมาก็เหมือนเลือดขึ้นหน้า หล่อนปรี่เข้ามาหาเธอจ้องหน้าหวานของเธอนิ่งด้วยสายตาเกรี้ยวกราดอย่างน่ากลัว จนแม่บ้านต้องรีบเลี่ยงเดินออกไป
“ฉันไม่คิดว่าจะได้พบเธอที่นี่”
“ฉันขอติดรถคุณกานต์ออกมาค่ะ”
ไอลดาก้าวประชิดร่างบางของเธอพร้อมกับยกมือผลักไหล่ของเธอจนร่างบางเซ
