ตอนที่ 16
มัชฌิมาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกเมื่อภาพในอดีตทยอยผ่านเข้ามาในความทรงจำ แต่แล้วเธอก็ต้องรู้สึกสะท้านเมื่อรู้สึกเหมือนมีสายตาของใครบางคนจ้องมองมา ฉับพลันทำให้เธอนึกถึงภูตมนต์ดำขึ้นมา
ความหวาดกลัวแล่นปราดเข้าครอบครองหัวใจ เธอรีบลุกขึ้นแล้วเดินแกมวิ่งเข้าไปในด้านในพร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นทาบอกด้านซ้ายซึ่งเป็นที่เก็บซ่อนลูกแก้ววิเศษ
“โอ๊ะ!..”
ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อเดินมาชนกับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนเข้าอย่างจัง จนร่างบางเกือบล้มลง แต่ทว่าฝ่ามือใหญ่ของใครคนนั้นรีบรวบร่างบางเอาไว้ทัน
“คุณกานต์..”
ความหวาดกลัวผ่อนคลายลงเมื่อเธอมองเห็นหน้าเขาชัดขึ้น
“หนีอะไรมาหรือเปล่าครับ คุณเห็นอะไร กลัวอะไรครับ บอกผมสิ”
เธอส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ ไม่ได้หนีอะไรค่ะ แต่ฉันมองไม่เห็นคุณ”
“ขอโทษ เป็นความผิดของผมเอง ผมรีบไปหน่อย”
เขาตอบพร้อมกับรีบเดินไปนอกบ้าน พร้อมกวาดสายตาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง โดยมีมัชฌิมาที่เดินตามออกมา
“มีอะไรหรือคะ”
“ผมอยู่ในห้องทำงาน มีความรู้สึกเหมือนมีรถมาจอดที่หน้าวังของคุณลุง ผมมีความรู้สึกเหมือน เหมือน..”
เขาทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านั้นแล้วพยายามนึกถึงความรู้สึกในขณะที่เขานั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานแล้วรู้สึกเมื่อยจึงลุกขึ้นเดินแต่สายตาก็มองผ่านไปทางหน้าต่างเห็นมีรถแล่นมาจอดแล้วแว่วได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ เขาประหวัดนึกถึงมัชฌิมาจึงรีบลงไปดู แล้วพบเธอเดินแกมวิ่งเข้ามาเหมือนหวาดกลัวอะไร
“คุณขึ้นไปพักเถอะนะครับดึกมากแล้ว ผมขอออกไปดูข้างนอกเดี๋ยว”
เขาพูดจบก็เดินผ่านร่างบางของเธอที่หันมองตามร่างสูงใหญ่ของเขาไป กานต์เดินออกมาเมียงมองอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เขากวาดสายตามองไปยังจุดที่เห็นรถจอดแล้วได้ยินเสียงร้อง แต่กลับไม่มีร่องรอย ไม่เห็นรถสักคัน
“ไปไหนเร็วจัง ทั้งที่ซอยนี้ก็เป็นซอยตัน มีบ้านคนอีกไม่กี่หลัง จะต้องกลับออกมาทางนี้”
เขาคิดในใจก่อนจะเดินไปหยุดที่ประตูเปิดออกไปเมียงมองผ่านไปยังท้ายซอยก็ไม่มีรถสักคันที่จะหันกลับออกมา”
“หรือเขาเข้าบ้านไปแล้ว อาจจะเมาจำบ้านผิด”
เขาคิดในใจเมื่อปิดประตูกลับเข้ามา
“แต่เสียงร้องนั้น..”
เขายังคงครุ่นคิดเพราะมั่นใจว่าเขาได้ยินเสียงร้องของผู้หญิง ร้องขอความช่วยเหลือ เสียงร้องนั้นแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างมาก
กานต์กลับมาที่ห้องแต่ไม่อาจจะข่มตาให้หลับลงได้ เขามั่นใจว่า เขาได้ยินเสียงร้องของผู้หญิง เขายังประหวัดนึกถึงมัชฌิมา แต่ไม่ใช่เธอ แล้วจะเป็นใคร จะมีใครมาร้องขอความช่วยเหลือในเวลาค่ำมืดแบบนี้
เขาลุกขึ้นจัดการกับตัวเองแล้วไปออกกำลังเหมือนเช่นทุกวัน เขาพยายามออกไปมองหาร่องรอยที่บริเวณหน้าบ้าน แต่แล้วสายตาคมก็ไปสะดุดกับบางอย่างที่หล่นอยู่บนพื้น
“เอ๊ะ!”
เขามองเห็นเหมือนสร้อยข้อมือผู้หญิง ตกอยู่ใกล้ประตูทางเข้าวังของหม่อมราชวงศ์ชายระพี รัศมีจำรูญ ลุงของเขา เขาเตรียมจะก้าวไปหยิบ
“หาอะไรหรือกานต์”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้เขาละสายตาเงยหน้ามองบุคคลที่ก้าวออกมาจากประตูใหญ่ของปราสาทที่สวยงาม
“คุณลุง ตื่นเช้าจังนะครับ”
คุณชายระพียิ้มน้อย ๆ เมื่อก้าวเข้ามาหยุดยืนเผชิญหน้ากับเขาด้วยความสูงที่ไล่เลี่ยกัน
“ตั้งแต่หลานกลับมา เรายังไม่เคยได้นั่งคุยกันเลย ยังไม่เคยได้ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ลุงเจ็บป่วยจนแทบลุกไม่ขึ้น”
“ผมต้องขอโทษด้วยครับ ที่ผมมัวทำแต่งงานจนไม่ได้ไปเยี่ยมคุณลุงเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่มีอะไรหรือ”
คำถามนั้นเหมือนทำให้เขานึกได้จึงมองไปยังสร้อยที่เขาเห็นอยู่เมื่อครู่ แต่ทว่า เมื่อมองไปอีกทีมันกลับอันตรธานหายไปอย่างน่าอัศจรรย์
“เอ๊ะ!”
คุณชายระพีเลิกคิ้วสูงกับสีหน้าและแววตาของกานต์ ในขณะที่กานต์เดินไปก้มมองหาสิ่งที่เขาเห็นอยู่เมื่อครู่
“หาอะไรหรือ”
“เมื่อคืน ผมได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ”
“ตรงนี้หรือ”
“ครับ ผมเห็นรถจอดแล้วได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง ผมลงมาดูแต่กลับไม่พบอะไร แต่เมื่อครู่ผมออกมาเห็นเหมือนสร้อยข้อมือของผู้หญิงตกอยู่ แต่ว่ามัน..”
คุณชายระพีหัวเราะเบา ๆ
“ตาฝาดมากกว่า หูคงแว่ว ลุงไม่ได้ยินอะไรเลย”
กานต์ยังคงกวาดสายตามองด้วยความฉงน
“ทานอาหารเช้ากับลุงสักมื้อ”
เขาเงยหน้ามองคุณชายระพี
