บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10

“นี่..หล่อน”

ไอลดาร้องเรียกมัชฌิมาหลังจากกานต์ออกไปแล้วโดยหล่อนบอกเขาว่า จะไปธุระที่อื่น ไว้เจอกันตอนเย็น หล่อนจะมาขออาหารทานอีกสักมื้อ

“ฉันเรียกหล่อน ไม่ได้ยินหรือไง”

ไอลดาแผดเสียงก้องเมื่อมัชฌิมาหันมามองแล้วทำเฉย

“ฉันไม่ทราบว่าคุณเรียกฉัน”

มัชฌิมาหันมามองหน้าหล่อนตรง ๆ ก่อนจะช้อนสายตาไปมองหน้าแม่สุภา แม่บ้านของกานต์ที่อยู่ข้าง ๆ ร่างของไอลดา ราวกับประกาศให้เธอรู้ว่าหล่อนเป็นคนของไอลดา

“ไปจากที่นี่ซะ”

ไอลดาพูดโพล่งออกมา โดยไม่คิดจะอ้อมค้อม พร้อมกับเปิดกระเป๋าหยิบเงินออกมาส่งให้แม่สุภาที่รับไปถือไว้ด้วยใบหน้าที่ปรีดิ์เปรมเพราะคิดว่าไอลดาให้

“เงินนี่ฉันให้เธอเป็นค่ารถกลับบ้าน สำหรับค่ารักษาคงไม่ต้องเพราะเท่าที่ดูเธอสบายดีนี่ แล้วเรื่องความจำเสื่อม”

ไอลดายิ้มน้อย ๆ ในขณะที่แม่สุภาหน้าเจื่อนเมื่อรู้ว่าเงินจำนวนนั้นไม่ใช่ของหล่อน

“ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นข้ออ้างของเธอ เพื่อต้องการจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า”

มัชฌิมาบีบมือของตัวเองแน่น เพราะว่าการคาดเดาของไอลดาถูกต้อง เธอใช้อาการความจำเสื่อมาอ้างเพื่อต้องการอยู่ที่นี่จริง ๆ

“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปที่ไหน ฉันจำอะไรไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”

ไอลดาลุกขึ้นยืนพร้อมกับจ้องหน้าเธอ

“แต่ฉันไม่ต้องการให้เธอมาอยู่บ้านของกานต์ เขาเป็นคนรักของฉัน เขาจะต้องเป็นสามีของฉัน ฉันไม่ต้องการให้เขาไขว้เขวเพราะคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ..ไปซะ”

มัชฌิมาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก

“หากฉันจะต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องจำทุกอย่างได้ หากฉันยังจำอะไรไม่ได้ ฉันต้องอยู่ที่นี่ค่ะ..”

“ยโส ฉันบอกว่าอยู่ไม่ได้”

“แต่คุณกานต์ให้ฉันอยู่ค่ะ”

“แต่ฉันไม่ให้อยู่”

มัชฌิมานิ่งเมื่อไอลดาก้าวเข้าไปใกล้เธออีกนิด

“ฉันไม่อยู่ที่นี่ถาวรหรอกค่ะ คุณสบายใจเถอะนะคะ”

“น้ำมันกับไฟ ใครไว้ใจก็โง่ ฉันไม่เชื่อว่าเธอไม่คิดจะจับกานต์ เขาเป็นของฉัน ได้ยินไหม เขาเป็นของฉัน เธอต้องออกไปจากที่นี่ เร็วที่สุดด้วย ได้ยินไหม”

“หากคุณไม่มีอะไรที่สำคัญ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

มัชฌิมาพูดจบก็หันหลังพร้อมกับเดินจากไปแต่ไอลดากลับหันไปคว้าหมอนอิงขว้างใส่หัวของเธอที่หันกลับมามองหน้าหล่อน

“อย่ากำแหงกับฉันนะ เพราะฉันจะต้องแต่งงานกับกานต์ ฉันคือภรรยาของเขา อย่าหวังว่าเธอจะก้าวเข้ามาแทนที่ฉัน ไม่มีวัน ฉันไม่มีวันยอม”

มัชฌิมาหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็วทำให้ไอลดานั่งลงยังโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์ในขณะที่แม่สุภาเตรียมเก็บเงินใส่กระเป๋าของตน

“เอาเงินมา”

แต่ไอลดากลับเรียกเงินคืนพร้อมกับแบมือรับ ทำให้แม่สุภาจำต้องคืนเงินด้วยความเสียดาย

“จับตาดูมันไว้ให้ดีนะ”

ไอลดาพูดจบก็แบ่งเงินเล็กน้อยส่งให้แม่สุภาก่อนจะก้าวออกจากบ้านไป

“ได้เท่าไหร่ล่ะป้า”

อ้อร้องถามเมื่อก้าวออกมาจากที่หลังประตูหลังจากที่แอบดูมานาน

“อย่าแส่”

“ประกาศตัวเป็นศัตรูกับคุณมัชอย่างออกหน้าออกตาแบบนี้ ถ้าหากมันกลับตาลปัตร คุณผู้หญิงกลายเป็นคุณมัช ป้าจะทำอย่างไร”

“ไม่มีทาง”

แม่สุภาสวนกลับทันควัน

“คุณกานต์ของข้าไม่โง่ถึงขนาดมองเห็นพลอยสีเป็นเพชรแท้ได้หรอกวะ”

“แต่พลอยสีเม็ดนี้ สวยงามอย่างมากนะป้า สวยงามกว่าเพชรอย่างคุณไอลดาด้วยซ้ำ”

อ้อยิ้มกว้าง

“ฉันว่า มาอยู่ในตำแหน่งของป้าไม่ดีกว่าหรือ ตะปีนขึ้นที่สูง ระวังนะ ตกลงมามันจะเจ็บ”

อ้อพูดจบก็รีบเดินหนีเมื่อแม่สุภาเงื้อมือขึ้นหมายจะตีหล่อนเหมือนอย่างที่เคยทำ

“สนุกมากเลยวันนี้ ฉันอยากมีความสุขแบบนี้ทุกวัน”

“หากเธออยากมีความสุขแบบนี้เธอก็ต้องหาลูกค้าเข้าบริษัทมาก ๆ ฉันรับรองว่าผู้จัดการจะมีรางวัลแบบนี้ให้เธอบ่อย ๆ”

เสียงพูดคุยของสองสาวที่เดินออกมาจากภัตตาคารแห่งหนึ่งในยามดึกหลังจากงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้พวกหล่อนสิ้นสุดลง ทุกคนที่ร่วมงานก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

มีเพียงเจ้าหล่อนสองคนที่ต้องกลับทางเดียวกัน ทำให้ทั้งสองเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เป็นคนขับมีหน้าตาประหลาดและท่าทางก็ไม่เหมือนคนปกติ

เมื่อก้าวขึ้นรถทั้งสองพูดคุยกันต่อหลังจากที่บอกจุดหมายปลายทางให้คนขับรับรู้ แต่ทว่าเส้นทางที่คนขับพามา มันไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่หล่อนต้องการจะไป

“เอ๊ะ! นี่ไม่ใช่ทางไปบ้านเรานี่ ผิดทางแล้ว”

“จอดเดี๋ยวนี้”

กว่าจะรู้ตัวเพราะมัวคุยเพลิน ทั้งสองก็ถูกพามายังเส้นทางที่ทอดตัวสู่คฤหาสน์สถานที่โอ่อ่าอลังการของภูตมนต์ดำในคราบของหม่อมราชวงศ์ชายระพี รัศมีจำรูญ

ทันทีที่รถจอดภูตบริวารของภูตมนต์ดำก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับพาสองสาวที่พยายามส่งเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครได้ยินนั้น หายเข้าไปในปราสาทสีงาช้าง ทิ้งให้คนขับรถที่ถูกสะกด หลับใหลอยู่ในรถเพียงลำพัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel