บท
ตั้งค่า

5.เชื่อใจ

*** ทักทายคร้า ***

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้รักษ์มองเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอ พอรู้ว่าเป็นเบอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกดรับทันที

“สวัสดีครับผู้กอง”

“สวัสดีครับคุณรักษ์ ตอนนี้เราพบศพลูกเรือที่มาพร้อมกับคุณนพดนัยแล้วนะครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจดังแว่วมาตามสาย รักษ์เงียบไปนาน ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป

“แล้วพี่นพล่ะครับ”

เสียงปลายสายเงียบไปชั่วครู่จนรักษ์ใจคอไม่ดี สมเกียรติเดินเข้าไปใกล้น้องชายเพื่อรอคำตอบ สายตาทุกคู่ที่อยู่ในห้องมองไปที่ร่างสูงเพรียวของรักษ์เป็นจุดเดียว ไม่นานเสียงคนปลายสายก็ตอบกลับมา

“เอ่อ เราพบคุณนพดนัย ห่างจากจุดเรือล่มไกลพอสมควรครับคุณรักษ์ แต่...เอ่อ คุณนพเสียชีวิตแล้ว”

รักษ์ตกตะลึง แม้จะเตรียมใจกับการสูญเสียไว้แล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆ น้ำตาของลูกผู้ชายก็ซึมออกมาอย่างเสียใจ รักษ์หันไปมองมารดาแล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ยื่นมือไปจับมือยับย่นของมารดามากุมไว้และบีบเบาๆ อย่างปลอบโยน

“เจอพี่เขามั้ยตารักษ์...”

รักษ์กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ สบตาคลอไปด้วยน้ำตาของมารดาอย่างสงสารจับใจ หัวใจของคนเป็นแม่จะทนได้สักแค่ไหนกัน เมื่อรู้ว่าต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจไปแบบนี้

“เจอครับแม่...แต่พี่นพ...สิ้นใจแล้วครับ”

“ตานพ...” คุณหญิงบุหงาเรียกชื่อลูกชายเสียงเบาหวิว

รักษ์ขยับเข้าไปกอดมารดาแน่น สมเกียรติแม้จะไม่ค่อยลงรอยกับพี่ชายในหลายๆ เรื่องในการบริหารงานที่บริษัท ก็รู้สึกใจหายไม่แพ้กัน นราแอบยิ้มอยู่ในใจ เพราะถ้าไม่มีนพดนัยพี่ชายคนโต สมบัติทุกอย่างก็จะตกไปที่สามีเธอ ซึ่งเป็นลูกชายคนรองอย่างแน่นอน

“แล้วพี่จันทร์กับภูผาล่ะคะคุณ” วรรณฉายถาม แววตาเต็มไปด้วยความกังวล หากชิดจันทร์เป็นอะไรไปอีกคน ก็เท่ากับว่านพคุณสูญเสียคนในครอบครัวไปถึงสามคนพร้อมๆ กัน

“ยังไม่เจอ ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังระดมคนช่วยกันเต็มที่ครับ” รักษ์คลายอ้อมแขนออกจากร่างมารดาเมื่อเสียงสะอื้นเบาลง

“ไปรับพี่เขากลับบ้านนะรักษ์ แม่จะรออยู่ที่นี่...” คุณหญิงเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกกำลังใจ ต่อจากนี้เธอจะอ่อนแอไม่ได้อีกแล้วเพราะมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ หากความฝันเป็นจริง ชิดจันทร์กับลูกจะต้องไม่เป็นอะไร

“คุณแม่ไม่เป็นไรนะครับ”

“แม่ไม่เป็นไร เกียรติไปจัดการเรื่องงานศพด้วยนะ” คุณหญิงหันไปสั่งลูกชายคนรอง

สมเกียรติเข้าไปนั่งคุกเข่าตรงหน้ามารดา “คุณแม่เข้มแข็งไว้นะครับ คิดเสียว่าพี่นพไปสบายแล้ว”

“นั่นสิคะคุณแม่ ต่อไปคุณเกียรติกับนราจะดูแลคุณแม่และทุกคนแทนคุณนพเองนะคะ” นราจีบปากจีบคอบอก พอทุกคนหันไปมองก็แสร้งบีบน้ำตาออกมาให้เห็น

“ฮือๆ คุณนพกับคุณจันทร์ไม่น่าอายุสั้นเลยนะคะ ฮือ...ฮือ...” นราก้มหน้าร้องไห้เพื่อหลบสายตาของทุกคน ในใจแอบยิ้มร่าเมื่อทุกอย่างกำลังจะตกอยู่ในมือของสามีเธอ เพราะนั่นหมายถึงเงินและอำนาจบริหารที่เธอกับสามีสามารถจะชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้

งานศพของนพดนัยผ่านพ้นไปเกือบสัปดาห์แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังหาศพของชิดจันทร์และภูผาไม่เจอ คุณหญิงบุหงาจึงสั่งให้ทุกฝ่ายหยุดตามหา เพราะเธอแน่ใจว่าลูกสะใภ้และหลานของเธอต้องมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งที่เคลือบแคลงในใจของคนเป็นแม่ที่สูญเสียนั้นเกิดความสงสัยขึ้นอยู่เงียบๆ ว่าทำไมอยู่ดีๆ ลูกชายของเธอต้องพาลูกเมียฝ่าพายุกลับบ้านกลางดึกแบบนั้นทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด

แล้วเธอจะไปเอาความกระจ่างจากใครได้ เพราะคนที่มาด้วยกันไม่ตายก็หายสาบสูญไป แม้กระทั่งภูผาเลขาฯ คนสนิทของลูกชายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ส่วนคนสำคัญที่จะไขปริศนาต่างๆ ได้นั้นยังคงนอนเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายนิทราอยู่ในห้องพักฟื้นบนเกาะ แวนด้าจูงมือป้อมของคาริกช์ลูกชายสุดที่รักวัยห้าขวบเดินเข้าไปดูอาการคนป่วยเหมือนเช่นทุกวัน พยาบาลตรวจเช็กสายน้ำเกลืออยู่ หันไปมองมาดามและนายน้อยแห่งเกาะ

“อาการคนป่วยเป็นยังไงบ้างจ๊ะ” แวนด้าขยับไปยืนชิดขอบเตียงพลางมองใบหน้าซีดขาวของชิดจันทร์แล้ววางมือลงบนหน้าท้องนูน “เข้มแข็งนะเจ้าตัวน้อย แม่เขาจะได้มีกำลังใจ” แรงถีบเบาๆ ทำให้แวนด้ายิ้ม แล้วเธอก็จับมืออวบอูมของคนเป็นแม่ที่นอนนิ่งมาหลายวันวางแทนที่มือของเธอ

“ลูกคุณแข็งแรงมากนะคะ คุณรับรู้ใช่ไหม” แวนด้าถามอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นรอยยิ้มบางๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้าคนเจ็บแต่ดวงตายังคงหลับอยู่เช่นเดิม แวนด้าเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาทางหางตาของคนท้องให้อย่างเบามือ

“แม่ อะไรอยู่ในนั้นครับ ผมจับบ้างได้ไหม” เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบเงยหน้าขึ้นถาม

แวนด้ายิ้ม ก่อนจะจับมือป้อมของเจ้าลูกชายวางบนหน้าท้องนูนเด่นกลางตัว แรงเคลื่อนตัวน้อยๆ ทำให้คาริกช์ตาโตอย่างตื่นเต้น

“น้องจ้ะ ดิ้นเก่งซะด้วยสิ” แวนด้าอธิบายให้ลูกฟังอย่างใจเย็น ขณะที่สองแม่ลูกกำลังคุยกันเบาๆ อยู่นั้น ร่างที่นอนเหยียดยาวของภูผาก็เริ่มขยับน้อยๆ

“ผู้ชายรู้สึกตัวแล้วค่ะมาดาม” พยาบาลสาวรายงานเสร็จ แวนด้าก็รีบจับมือน้อยเดินไปยืนข้างเตียงของภูผา คิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว แต่ดวงตาของคนเจ็บยังคงหลับอยู่

“คุณเป็นยังไงบ้าง” แวนด้าเขย่าแขนสีน้ำตาลกร้านแดดเบาๆ

ภูผานิ่วหน้า พยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นเพื่อมองคนพูดภาษาอังกฤษที่ยืนอยู่ข้างกาย

“แม่ครับหมอมาแล้ว” คาริกช์บอกมารดาแล้วหันไปยิ้มส่งให้หมอและพยาบาลที่เดินเข้ามา แวนด้าพาบุตรชายถอยไปยืนอยู่ปลายเตียง คุณหมอวัยกลางคนท่าทางใจดียิ้มให้กับคนไข้ที่ปรือตาขึ้นมามอง

“เป็นยังไงบ้างครับ ขอหมอตรวจอาการก่อนนะครับ”

จากนั้นหมอโจก็ลงมือตรวจอีกครั้ง ภูผาหลับตาลงและลืมขึ้นใหม่ แล้วมองไปรอบๆ เพื่อประเมินคนที่อยู่ในห้อง

“ที่ไหน ผมตายแล้วหรือยัง” ภูผาถามเสียงแหบพร่าอย่างเหนื่อยล้า นึกทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

“อย่าเพิ่งถามตอนนี้เลยนะคะ คุณยังไม่แข็งแรง” แวนด้าตอบแทนนายแพทย์โจ

*** ขอบคุณคร้า ***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel