12
“โถ...ลูก ทำไมถึงได้อาภัพนักนะ” คุณอาภามองหญิงสาวน้ำตาซึม เอาเข้าจริง ทิพย์วารีเข้มแข็งกว่าที่หล่อนคิดไว้มาก
“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณป้า...เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าสิ่งที่หนูเคยเจอมาหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกเป็นนัย ๆ กลายเป็นทิพย์วารีที่ปลอบโยนผู้สูงวัย หล่อนสวมกอดคุณอาภา อ้อมกอดที่ให้ความอบอุ่นมากกว่าอ้อมกอดของคนที่ได้ชื่อว่าแม่เสียอีก…..ยังมีคำถามที่หล่อนอยากจะถามท่าน แต่ก็ไม่กล้าได้แต่ปล่อยให้ค้างคาอยู่ในใจ......
06.00 น.
“เร็ว ๆ เอาของมาครบแล้วเหรอ” ปราบเร่งคนตัวเล็กที่หิ้วของจนตัวเอียง กระเป๋าเสื้อผ้าน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ว่าหนังสือหนังหาอุปกรณ์การเรียนของหล่อนก็มากอยู่
“ครบแล้วค่ะ” ทิพย์วารีหันมาบอกหลังจากขนของทุกอย่างเก็บเอาไว้ที่ท้ายรถเรียบร้อย
“ไหนพี่หมีของเธอล่ะ”
“คุณจะเอาไปให้เจ้าของเขาแล้วหรือคะ” ทิพย์วารีถาม หน้าจ๋อย ๆ
“ไปเอามาเร็ว ๆ เข้า”
ทิพย์วารีรีบวิ่งปรู๊ดออกไปอย่างว่องไว ไม่นานหล่อนก็อุ้มพี่หมีกลับมาที่รถ ในใจคิดว่าแน่แล้ว เขาต้องซื้อให้คุณน้องอรแน่ ๆ หล่อนจึงกอดพี่มึนมาเต็มอ้อมแขนก่อนที่จะส่งมอบให้เจ้าของที่แท้จริง
“เอาวางไว้ที่เบาะหลังก็ได้...เกะกะ”
“ให้หนูอุ้มไปดีกว่าค่ะ” หญิงสาวขอกอดให้อุ่นใจก่อนจะไม่ได้แตะต้องกันอีก
“ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ขนาดนั้น ฉันให้เธอก็ได้”ปราบมองยัยเด็กดื้อก็อดยิ้มขำไม่ได้ อะไรจะขนาดนั้น
“คุณปราบให้หนูจริง ๆ เหรอคะ” สายตาของทิพย์วารีเบิกโตอย่างตื่นเต้น ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“อือ...อยากได้ก็เอาไป น่ารำคาญ”
ทิพย์วารียิ้มแป้น ทั้งกอดทั้งหอมพี่มึนอย่างหวงแหนไม่ใส่ใจกับกิริยาของคนข้าง ๆ ลืมความทุกข์ใจก่อนหน้านี้เสียสนิท.....
“เย็นนี้เลิกเรียนกี่โมง” ปราบเอ่ยถามทิพย์วารีขณะที่จอดรถส่งที่หน้าตึกเรียน
“หนูกลับเองได้ค่ะ”
“ตอบให้ตรงคำถาม” ย้ำเสียงเข้ม
“สี่โมงเย็นค่ะ” ถึงแม้จะไม่อยากให้เขามารับ แต่ก็นึกถึงข้าวของมากมายที่ยังไม่ได้เอาลงจากรถ หากหล่อนไม่กลับไปด้วยก็คงจะเป็นภาระของเขานั่นแหละ
“แล้วจะมารับ...จำไว้ว่าฉันจะต้องติดต่อเธอได้ตลอดเวลา” คนเอาแต่ใจออกคำสั่ง
ทิพย์วารีได้แต่รับคำแล้วก็จูบลาพี่มึนอย่างหงอย ๆ ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยออกมาเพราะสายตาคมเข้มจับจ้องอยู่ไม่วางตา...จึงได้ขอบคุณเขาแล้วรีบลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว...
“ยัยน้ำ...ทางนี้” พธูโบกมือให้เพื่อน หล่อนเพิ่งลงจากรถของพี่ชายตามหลังมาติด ๆ ความอยากรู้มันตงิด ๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“นั่นรถพี่ปราบใช่หรือเปล่า ทำไมวันนี้มากับเขาได้” พธูรู้เพราะพี่ชายเป็นคนบอกว่ารถคันนั้นเป็นของเพื่อนเขา
“ก็...ทางผ่าน”
“ก็ผ่านทุกวันอยู่แล้วนี่ ไม่เคยเห็นญาติดีกันเลย แปลกแฮะ...วันนี้มียักษ์วัดแจ้งมาส่งด้วย” พธูยังไม่หายสงสัย
“ช่างเถอะ.....อย่าไปสนใจเลย” ทิพย์วารีพยายามตัดบท
“เสียดายนะ...เมื่อกี้พี่วาทิตมาส่งพอดีเขารีบ ไม่อย่างนั้นจะแนะนำให้รู้จักกัน” พธูทำหน้าเมื่อย หล่อนมีเจตนาอย่างแรงกล้าที่จะจับคู่พี่ชายกับทิพย์วารีให้ได้
“อย่าพยายามเลยจ้า แม่ยอดพธู” ทิพย์วารีฉีกยิ้มอย่างรู้ทัน
“ทำไมเหรอ...หรือว่าหัวใจของหล่อนไม่ว่างแล้ว” หญิงสาวยื่นหน้ายื่นตาล้อเลียนเพื่อน....
“บ้า....ไปเรียนได้แล้ว” ปากต่อว่าเพื่อแต่ทำไมใจคิดไปถึงคนเอาแต่ใจก็ไม่รู้ ไม่มีทางหรอก เป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะมีเขาคนนั้นในใจ...คนใจร้าย.......
วันทั้งวันทิพย์วารีคอยมองแต่โทรศัพท์ เพราะหล่อนปิดเสียงเอาไว้ เกรงว่าพ่อคนเอาแต่ใจ โทรหรือส่งข้อความมาจะไม่เห็นจนกลายเป็นประเด็นให้เขาพาลได้อีก หล่อนพยายามหลีกเลี่ยงการขัดแย้งกับเขาทุกกรณี เพราะมีแต่แพ้กับแพ้
เย็นนั้นโชคดีที่พธูมีธุระต้องรีบกลับบ้านไปก่อน ทิพย์วารีลุ้นจนหายใจไม่ทั่วท้องเกรงว่าเพื่อนจะเห็นว่าคุณปราบมารับ หล่อนลำบากใจที่โกหกเพื่อน ครั้นจะพูดความจริงมันก็ไม่ได้อยู่ดี......
ปราบมารับตามเวลาเป๊ะ ....ทิพย์วารีลงจากตึกมาก็เห็นรถของเขาเข้ามาจอดพอดีทันทีที่ก้าวเข้าไปนั่งในรถ ก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่ง โลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าชีวิตที่ชื่อปราบ....เขาปราบผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างหล่อนจนหมดหนทางหนีรอดไปได้
“เดี๋ยวเธอไปเลือกซื้ออาหารสดอาหารแห้งเอาไปไว้ที่ห้องด้วยนะ ฉันไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน” สั่งเสียงเรียบ
“ค่ะ” ทิพย์วารีรับคำ บีบเนื้อบีบตัวจนเหลือตัวลีบเล็ก เรื่องที่เขาสั่งไม่ใช่ปัญหาสำหรับหล่อน แต่การที่จะต้องอยู่ด้วยกันสองต่อสองนี่สิปัญหาใหญ่...
ทิพย์วารีคิดว่าเขาจะให้หล่อนลงมาซื้อของคนเดียวซะอีก แต่ที่ไหนได้ชายหนุ่มลงมาด้วย....ปราบถอดสูทพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาดูง่าย ๆ แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังเป็นผู้ชายที่ดูดีแม้จะทำตัวลำลอง..นอกจากนั้น เขายังรับหน้าที่เข็นรถให้อีก แรก ๆ หล่อนก็เกร็งแทบแย่ แต่พอยิ่งซื้อก็ยิ่งเพลิน คุณปราบใจดีกว่าที่คิดถ้ามองไม่ผิดหล่อนเห็นรอยยิ้มของเขาด้วย เผลอแป๊บเดียวข้าวของก็เต็มรถเข็นแล้ว
“เอาอะไรอีกหรือเปล่า” ปราบถามเสียงอ่อนกว่าทุกครั้ง
“พอแล้วค่ะ”
“ไม่เห็นเธอซื้อขนมขบเคี้ยวเลย”
“หนูไม่ชอบค่ะ”
“งั้นก็ตามใจ”
ปราบเข็นรถไปคิดเงินเสร็จแล้วก็เข็นของไปที่จอดรถ โดยมีทิพย์วารีเดินตามหลัง...คล้ายกับคู่รักเลยอ่ะ.......เฮ้อ...ทิพย์วารี ตื่น ๆ ได้แล้วอย่าฝัน...ท่องไว้คนใจร้าย......เขาแค่หยุดใจร้ายชั่วคราวเท่านั้น.... อย่าได้หลงเคลิ้มเชียว......
