1 เจ้าสาวกลัวฝน (5)
‘ฉันเพิ่งซื้อที่ดินไปเมื่อต้นปี เงินตั้งเยอะเอาไปไหนหมดแล้วล่ะ?’
‘เล่นเสียหมดแล้ว ฉันถูกโกง’
คำตอบของนางรำไพทำเอาเขาอดทอดถอนหายใจไม่ได้
คงเป็นอย่างที่โบราณว่า... โจรปล้นบ้านยังเหลือผ้าขี้ริ้ว ไฟไหม้ยังเหลือที่ดิน แต่ผีพนันเข้าสิงหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
‘ตอนนี้ฉันยังไม่มีเงินสด รอไปก่อนก็แล้วกัน’
จำได้ว่านางรำไพเดินคอตกกลับไป ซึ่งตัวเขาก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการขายที่ดินผืนนี้สักเท่าไหร่ เพราะสิทธิ์โดยชอบธรรมบนที่ดินผืนนี้ควรตกเป็นของงามตามากกว่า แต่เขาเป็นเพียงคนนอก จึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องนางรำไพ
เขาทำได้ดีที่สุดก็เห็นจะเป็นการรับซื้อที่ดินพวกนี้เอาไว้เท่านั้น
แล้วในคืนนั้นเองก็เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นกับงามตา...
กลางดึกเด็กในไร่ก็วิ่งโล่หน้าตาตื่นมาบอกเขาว่างามตาถูกฉุดไปรุมโทรม ได้ยินแค่นั้นมันก็ทำให้เขาร้อนใจไม่อาจอยู่เฉยได้ พอคว้าปืนได้เขาก็สั่งให้คนงานช่วยออกตามล่าคนร้ายทันที
ไปถึงที่เกิดเหตุที่อยู่ท้ายไร่ ซึ่งเป็นบ้านพักคนงานชายที่ไม่มีใครอยู่อาศัย เขาก็พบว่างามตาถูกนำตัวไปที่นั่น และเธอกำลังถูกข่มขืน!
สภาพตอนที่เจอหญิงสาวทำเอาเขาโกรธจนตัวสั่นแทบคลั่ง งามตาน่าสงสารมากนัก เสื้อผ้าถูกฉีกขาดหลุดลุ่ย มือทั้งสองข้างถูกชายฉกรรจ์สองคนจับขึงพืดเอาไว้ ส่วนคนร้ายอีกคนกำลังลงมือข่มขืนเธอ
พอเขาไปถึงสามคนร้ายก็วงแตกพากันรีบเผ่นหนี แต่เขาก็สั่งให้ลูกน้องไปตามจับตัวเอาไว้
เขารีบมาดูงามตา สิ่งที่เห็นทำให้เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างตีตื้นมาจุกลำคอจนพูดอะไรไม่ออก งามตาตัวสั่นงึกด้วยความกลัว ใบหน้าซีดเผือด น้ำตาไหลอาบแก้ม เรียวขามีเลือดไหลออกมา
แม้คนร้ายจะวิ่งกระเจิดกระเจิงหนีไป แต่งามตาก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้น ความกลัว ความตกใจ มันทำให้เธอช็อก พอเขาเข้าไปหาพร้อมเรียกชื่อ หญิงสาวก็ลุกขึ้นมากอดเขาไว้แน่น เธอสั่นร้องไห้โฮจนน่าเวทนา
‘เธอปลอดภัยแล้วนะ’ เขาปลอบใจได้แค่นั้นแล้วจัดการถอดเสื้อคลุมมาสวมให้หญิงสาว
‘เดินไหวมั้ย?’
หญิงสาวไม่ตอบ พอเขาประคองให้เธอลุก งามตาก็ล้มลง เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงอุ้มเธอกลับไปที่บ้านพัก
พอมาถึงบ้านเขาก็สั่งให้ป้าเอมช่วยหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้หญิงสาวได้เปลี่ยน จากนั้นเขาก็ออกไปจัดการตามล่าคนร้ายทั้งสามราย
พอจับตัวไว้ได้ และทำการเค้นสอบปากคำ คนร้ายทั้งสามซึ่งเป็นชาวบ้านในละแวกก็สารภาพกับเขาว่า นางรำไพเล่นการพนันเสียไปเยอะ พอไม่มีเงินใช้หนี้ก็เลยคิดใช้หนี้ด้วยการยกลูกสาวให้นอนกับเจ้าหนี้
แต่เพราะงามตาไม่เล่นด้วย คนพวกนี้จึงร่วมมือกันฉุดหญิงสาวไปข่มขืน...
หลังจากสอบปากคำ และสั่งสอนคนพวกนี้ไปหนักพอสมควร เขาก็ส่งตัวคนร้ายทั้งสามให้กับตำรวจพร้อมทั้งแจ้งข้อหาหนัก น่าเสียดายที่เขาเอาผิดกับนางรำไพไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรมัดตัว ที่สำคัญนางรำไพไม่รู้หายตัวไปไหน
พอกลับจากโรงพักเขาก็เข้ามาดูงามตาอีกครั้ง เขาตั้งใจจะพาหญิงสาวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย แต่พอเข้าไปในห้อง เขาก็เห็นงามตานั่งคุดคู้กอดเข่าร้องไห้อยู่ที่มุมห้อง
พอเห็นเขาเธอก็ขยับตัวไปหลบในมุมมืด ดูยังหวาดกลัว
‘สามคนนั่นฉันลากคอเข้าคุกไปแล้ว เหลือแต่พาเธอไปให้ปากคำ แต่ฉันบอกกับตำรวจไปแล้วว่ารอให้เธอพร้อมก่อน’
งามตาไม่พูดอะไร หากจะมีก็แต่เสียงสะอึกสะอื้นเบา ๆ
เห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวแล้วเขาก็สงสารเธอจับหัวใจ พอเขาเดินเข้าไปใกล้เพื่อพูดคุยด้วย ก็กลายเป็นว่าหญิงสาวขยับตัวไปหลบอยู่ในมุมมืดที่ข้างซอกเตียง
แววตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นกลัว หวาดหวั่น ไม่ไว้วางใจใคร เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้งามตาอีก นอกจากจะให้ป้าเอมมาอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น
งามตายังคงหวาดกลัว และตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
