1 เจ้าสาวกลัวฝน (6)
ถึงขนาดนอนซมเป็นไข้อยู่บนเตียงหลายวัน เป็นแบบนั้นเขาจึงให้งามตาพักอยู่ที่บ้านของเขาไปก่อน เพราะหากปล่อยให้หญิงสาวกลับไปที่บ้าน เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นกับเธออีกหรือเปล่า
จนผ่านไปครึ่งเดือน อาการหวาดหวั่นขวัญหายของหญิงสาวก็ดีขึ้น เขาจึงให้ป้าเอมพางามตาไปให้ปากคำที่โรงพัก...
หลังจากขึ้นศาล และศาลได้ตัดสินจำคุกผู้ก่อเหตุไปแล้ว งามตาก็ได้รับเงินทำขวัญมาจำนวนหนึ่ง เรื่องก็น่าจะจบแค่นั้น แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น
นางรำไพที่หนีไปหลบซ่อนตัวได้กลับมาหาเขาถึงที่บ้านหลังจากที่เรื่องคดีเงียบไปแล้ว มาครั้งนี้ไม่เพียงนางรำไพจะขอร้องให้เขาซื้อที่ดิน ผู้หญิงใจยักษ์คนนี้ยังข่มขู่เขาด้วย
‘ตอนนี้คนงานในไร่ลือกันไปทั่วว่านังงามตามันเป็นนางบำเรอของพ่อเลี้ยง ลูกสาวของฉันเสียหาย พ่อเลี้ยงจะว่ายังไง?’
‘จะให้ฉันว่าอะไรล่ะ ในเมื่องามไม่ใช่เมียฉัน ที่ฉันให้งามพักอาศัยอยู่ที่บ้านเพราะว่าสงสาร ขืนปล่อยให้กลับบ้านไปอาจเกิดเหตุร้าย ๆ ขึ้นกับงามอีกก็ได้’
‘ไม่รู้ล่ะ เรื่องนี้พ่อเลี้ยงต้องรับผิดชอบ ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ตกแต่งนังงามเป็นเมีย ฉันจะเอานังงามไปขายซ่องใช้หนี้’
เจอนางรำไพยื่นคำขาดมาแบบนี้ มันก็ทำให้เขาฉุนกึกฟิวขาดเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เขาอยากจะทำอะไรสักอย่างให้รำไพเข็ดหลาบไม่กล้ามาลองดีกับเขา แต่เพราะเขาสงสารงามตา จึงทำให้เขาต้องยอมรำไพ
เขาไม่ต้องการให้งามตาตกเป็นเหยื่อของแม่เลี้ยงใจร้ายอีก ที่สำคัญกว่านั้น เขาอยากมีสิทธิ์ในตัวงามตา
เมื่อตกลงที่จะรับเลี้ยงงามตาเป็นเมีย เขาจึงให้ป้าเอมไปพูดคุยกับงามตาเรื่องแต่งงาน ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด
เมื่อไม่มีใครคัดค้านเขาจึงจัดการซื้อที่ดินที่นางรำไพเอามาจำนอง พร้อมทั้งโอนให้เป็นชื่อของงามตาเพื่อเป็นของขวัญแก่เธอ พอเสร็จเรื่องยุ่ง ๆ เขาก็จัดงานแต่งงานระหว่างเขากับงามตาขึ้นอย่างเรียบง่าย
เขาก็นึกว่าเจ้าสาวคนสวยจะเลิกหวาดกลัวเขาแล้ว เธออยู่กับเขามาหลายปีคงคุ้นเคยกับเขาบ้าง ที่ไหนได้ พอส่งตัวเข้าหองามตาก็แสดงออกชัดเจนว่ายังกลัว ๆ เขาอยู่
เอาเถอะ บางทีงามตาอาจต้องการเวลาปรับตัว เขาเองก็ควรจะใจเย็นมากกว่านี้ เมื่อคิดได้อย่างนั้นพ่อเลี้ยงอินทรก็สบายใจขึ้น เขาแช่ตัวอยู่ในน้ำอุ่นอยู่พักใหญ่ พอสบายตัวแล้วเขาถึงออกจากห้องน้ำ...
#####2
หน้าที่เมีย
อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว พ่อเลี้ยงอินทรที่เดินออกจากห้องน้ำก็นิ่วหน้าเมื่อเห็นงามตากำลังอาเจียนอยู่ที่หน้าต่างอีก เจอแบบนี้เข้าเขาก็อดเป็นห่วงหญิงสาวไม่ได้
“ยังไม่หายอีกเหรอ ไปหาหมอดีกว่ามั้ย อาการเธอไม่ดีเลย”
หญิงสาวส่ายหน้า รีบบ้วนปากแล้วหันมาบอกด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ “ไม่เป็นไรค่ะ งามกินยาแล้ว”
“กินยาอะไร?”
“ยาลดกรดค่ะ”
พ่อเลี้ยงอินทรผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ “กินยาแต่ก็อวกออกมาหมด จะมีประโยชน์อะไร”
“ได้พักสักหน่อยคงดีขึ้น” หญิงสาวบอกโดยไม่มองหน้าชายหนุ่ม
“งั้นก็รีบพักเถอะ ไม่ไหวก็บอกนะ ถ้าพรุ่งนี้ถ้าไม่ดีขึ้น ฉันจะได้พาไปหาหมอในเมือง”
“ค่ะ” อ้อมแอ้มบอกผู้เป็นสามีด้วยความซาบซึ้งใจ งามตาก็ถูกพาไปที่เตียงนอนโดยพ่อเลี้ยงอินทรเป็นคนโอบเอวพาไป
มือใหญ่ที่โอบเอวคอดไว้นั้น ส่งผ่านกระไออุ่นมาที่เธอ การได้ใกล้ชิดกับผู้เป็นสามีก็ทำให้หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นแรง พอเธอก้าวขึ้นเตียงแล้วล้มตัวนอน พ่อเลี้ยงอินทรก็ก้มลงมาจุมพิตที่แก้มของเธอเบา ๆ จากนั้นเขาก็หยิบผ้าห่มมาห่มให้
ทว่าสัมผัสจากริมฝีปากอุ่นที่ประทับไว้บนผิวแก้ม มันก็ส่งผลให้แก้มของงามตาร้อนผ่าว และเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หัวใจดวงน้อยเต้นแรง แต่เธอก็หลับตาลงเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายนั่นซะ
แต่ให้ตายเถอะ! เธอนอนไม่หลับ
