บทที่8 เข้าหอ
“เจ้าสาวหนีหาย!! แม่จะบ้าตาย!! วลัยตกปากรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ อยู่ๆ ก็ร้องห่มร้องไห้บอกเจ้าสาวหนี แม่อยากจะฆ่าให้ตายทั้งแม่ทั้งลูก รู้จักแม่น้อยไปแล้ว หนอย...หึ”
“จริงเหรอครับ งั้นก็ไม่ต้องแต่ง ดีเลย ผมจะได้ไปเปลี่ยนชุด ร้อนจะตาย ผมไปเปลี่ยนก่อน” ริมฝีปากหนาฉีกยิ้มระรื่น
“เดี๋ยว!! ไม่ต้องเปลี่ยน ยังไงวันนี้ก็ต้องแต่ง แขกเหรื่อเยอะแยะ แม่จะไม่ให้งานแต่งของวินล่มเป็นครั้งที่สองหรอกนะ แต่งกับลูกสาวคนที่สอง อีกเดี๋ยวคงมา วินอยู่ยืนยิ้มหน้าบานรับแขกกับแม่นี่แหละ” แววตาของคุณนายจริงจัง
ส่วนนางวลัยก็เรียกลูกเลี้ยงขึ้นมาบนบ้าน จัดการแปลงโฉมจากดินเป็นดาวราวกับหงส์ฟ้า หน้าตาสะสวยจนบรรดาช่างแต่งหน้าทำผมเอ่ยชมไม่หยุดปาก สวยเหมือนดั่งกับนางสีดาในวรรณคดีไทย
“สวยจังเลยฮะ งามอย่าบอกใคร คุณวินคงดีใจ ได้ภรรยาทั้งสวยทั้งเด็กนะฮะเนี่ย” ช่างแต่งหน้ากะเทยร่างใหญ่ชมเปาะ
“ขอบคุณมากค่ะ ถ้าไม่มีพี่ๆ แต่งหน้าทำผมให้ นุชคงไม่สวยแบบนี้หรอกค่ะ” มือบางพนมยกไหว้
“ใครว่าล่ะฮะ หนูนุชหน้าตาสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไปเถอะค่ะ ออกไปต้อนรับแขกเหรื่อ เจ้าบ่าวรอแย่แล้ว นั่นแม่วลัยมาตามแล้วฮะ”
“ค่ะ” ภายในอกของนุชนั้นตื่นเต้นไม่น้อย ถึงแม้จะยินยอมพร้อมใจ แต่ต้องมาแต่งงานกับคนที่แม้กระทั่งหน้าตาก็ยังไม่เคยเห็นกัน เธอเริ่มหวั่นๆ แต่ไม่อาจพูดหรือปริปากบ่น
“โอ้โห้ นุชของแม่ สวยเหมือนนางฟ้า ไปเถอะ คุณนายให้คนมาตามแล้ว” นางแย้มยิ้มให้ลูกเลี้ยง แล้วพาเจ้าสาวเข้าไปในงาน
ทันทีที่เจ้าสาวปรากฏตัวในงาน สายตาของแขกเหรื่อทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ หนุ่มวัยฉกรรจ์หรือวัยชราต่างมองมาที่นุชตาไม่กะพริบ อึ้งทึ่งในความสวยงามของสาวแรกรุ่น จนนุชเดินมายืนเคียงคู่เจ้าบ่าว เเววตาคมเข้มถึงกับค้างไปชั่วขณะไม่คิดว่าสะใภ้ที่มารดาหาให้จะสวยสดงดงามมากมายถึงเพียงนี้ สีหน้าและแววตาของอัศวินบ่งบอกว่าพอใจเจ้าสาวที่แม่เลือกให้ ถูกใจวินสุดๆ เช่นเดียวกับคุณนายวรรณ นางพอใจสะใภ้ที่เข้าพิธีแต่งงานแทนเจ้าสาวตัวจริงที่หายไปเสียอีก
จวบจนงานพิธีในตอนเช้าเสร็จสิ้น จนถึงเวลาในช่วงเย็นทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น ทะเบียนสมรสก็จดกันอย่างถูกต้อง ทำให้วินรู้ว่าเจ้าสาวของเขานั้นอายุเพียงแค่สิบเก้า แต่เขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะมัวแต่มองใบหน้าหวานๆ อย่างไม่คลาดสายตา การพูดการจาก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากเพราะผู้ใหญ่เป็นฝ่ายจัดการให้หมด โดยเฉพาะคุณนายวรรณดีใจจนเนื้อเต้นผิดปกติ ออกนอกหน้า จนถึงเวลาส่งตัวเข้าหอ ทุกคนต่างอวยพรยินดีให้กับคู่บ่าวสาวแล้วก็ถึงคิวแม่ผัว
“หนูนุช ถึงแม้งานแต่งงานจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่แม่ยินดีที่ได้หนูนุชมาเป็นลูกสะใภ้ ยังไงแม่ฝากเจ้าวินด้วยนะ แล้วรีบมีหลานมาให้แม่อุ้มเร็วๆ แม่คอย ยังสาวยังแซ่คงมีลูกได้เป็นโขยง สำคัญตรงเจ้าวินจะมีน้ำยารึเปล่า” คุณนายเหน็บให้ลูกชาย
“แม่ ผมยังหนุ่มยังแน่น มีหลานให้แม่ได้เป็นโขยง ไม่ต้องห่วงครับ” ริมฝีปากหนาแย้มยิ้มให้มารดา และแอบชำเลืองมองเจ้าสาวที่นั่งเงียบกริบ
“แม่ไปก่อนนะ ตอนดึกๆ อากาศหนาวมาก วินต้องให้ความอบอุ่นกับหนูนุชให้มากๆ นะ แม่ไปล่ะ” คุณนายขยิบตาให้ลูกชายสื่อความหมาย แล้วนางก็เดินออกจากห้องหอ ปิดประตูให้เสร็จสรรพ
เพียงไม่กี่นาทีภายในห้องหอก็เกิดความเงียบ เจ้าสาวนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่อีกมุมนึงของห้อง ก้มหน้าก้มตาไม่หันไปมองเจ้าบ่าว ร่างสูงเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ร่างอรชร แล้วกวาดสายตาคมกล้ามองเจ้าสาวแรกรุ่น เขาทาบฝ่ามือไปที่ลาดบ่าเล็ก ดึงคนตัวเล็กที่ตอนนี้อยู่ในฐานะภรรยาให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกัน
“เธอชื่อนุชใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“ต่อไปนี้แทนตัวเองว่านุชนะ เสียใจมั้ยที่ต้องแต่งงานกับคนอายุมากกว่าอย่างฉัน”
“เอ่อ... ไม่ค่ะ” จะให้บอกไปว่าเสียใจได้ยังไงเล่า ถึงแม้จะถูกบังคับก็เถอะ
“อืมแล้วเธอ เอ่อ... นุช เธอรู้ใช่มั้ยว่าแต่งงานกันแล้ว เธอกับฉันก็เป็นสามีภรรยากัน แล้วหน้าที่ของภรรยาก็ต้องทำให้สามีพอใจ พร้อมใช่มั้ยถ้าฉันจะนอนด้วย” อัศวินจ้องดวงหน้าหวานๆ เลือดในกายรุ่มร้อนตั้งแต่เห็นหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบสาวแรกรุ่นเท่าไหร่ แต่สำหรับเธอคนนี้ ดันมาจี้จุดฉุดความเป็นชายของเขาให้ตื่นได้ตลอดเวลา และอยากจะสอนลีลารักให้กับเธอได้มีความสุขไปพร้อมกับเขาเหลือเกิน ให้ตายเถอะ
“เอ่อ... คือว่านุช...” ยังไม่ทันที่เจ้าสาวจะได้ปฏิเสธ คนตัวใหญ่ดันร่างเล็กให้นอนราบไปบนเตียงทีโรยไปด้วยกลีบกุหลาบสีแดง แสงไฟส่องใบหน้าเจ้าสาวให้เห็นเด่นชัด นุชหายใจติดขัด ร่างกายเริ่มสั่นไหวไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมเร็วขนาดนี้ ไม่มีเวลาได้คิด ตลอดสิบเก้าปีไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อ
