บทที่5ยื่นคำขาด
“ยัยนุช แกจะต้องแต่งงาน แกจะต้องเป็นเจ้าสาวแทนยัยนี ไม่มีข้อแม้ คุณภพจะได้มีโอกาสไปหาหมอบ่อยๆ งานนี้ขึ้นอยู่กับแก แม่พูดแค่นี้ หวังว่าแกคงเข้าใจ ทุกอย่างฉันจะเป็นคนจัดการเอง” นางเดินปึงปังออกไปจากห้อง ทิ้งลูกเลี้ยงให้นั่งน้ำตาไหลรินอาบแก้มนวลอยู่อย่างนั้น บางครั้งเธอก็น้อยอกน้อยใจที่ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรเลยนับตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่
ธารารีสอร์ท เรือนไม้สักบ้านคุณนายอุไรวรรณ
ดึกดื่นค่ำมืด เจ้าลูกชายคนเดียวยังไม่กลับมาจากทำงาน คุณนายวรรณยืนอยู่นอกระเบียงชะเง้อจนคอยาว เดินวนไปวนมาหลายรอบรอลูกชาย นางอยากบอกถึงกำหนดงานวันวิวาห์ที่ได้จัดเตรียมภายในอาทิตย์หน้า นางทนรอลูกชายไม่ไหวเลยเดินกลับเข้ามาในบ้านนั่งบนเก้าอี้ไม้สักตัวโปรด พร้อมเรียกสาวใช้มาบีบนวดคลายเมื่อยได้ไม่นานนัก เสียงรถของลูกชายสุดที่รักก็เข้ามาจอด และเสียงฝีเท้าเดินขึ้นมาบนบ้าน
“กลับซะดึกเลยลูกชายฉัน ทำงานหามรุ่งหามค่ำไปไหนนักหนา อีกหน่อยถ้าแต่งเมียแล้วทำงานแบบนี้ไม่ได้แล้วนะวิน ลูกต้องมุ่งมั่นพุ่งชนเหมือนฉลามบุก แล้วรีบมีเจ้าตัวเล็กมาให้แม่อุ้มเร็วๆ แม่จะได้มีเพื่อน ไม่ต้องคอยตอแยวินไง” คุณนายยิ้มหน้าบาน นึกถึงหลานตัวน้อยๆ
“ครับๆ คุณนาย ยังไม่เข้านอนอีกเหรอครับ ป่านนี้ชาวบ้าน ชาวช่องเขาหลับกันหมดแล้วครับ เหลือแต่แม่ผมนี่แหละ อึด” คนตัวใหญ่คลานเข่าเข้าไปหอมแก้มมารดา
“ถ้าไม่อึดพ่อแกจะรักจะหลงแม่รึ แต่งงานปุ๊บก็มีแกออกมาเลยล่ะ” ใบหน้าหญิงวัยหกสิบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นึกถึงไฟรักสมัยสาวๆ
“ถ้าตอนสมัยแม่สาวๆ แล้วเจอผม พ่อไม่มีทางได้แอ้มแม่แน่ ผมจะแย่งมาเป็นผู้หญิงของผม”
“อุ๊ย!! ลูกก็พูดไป แม่อิน เอ๊อ!! แม่มีเรื่องจะบอก งานแต่งของลูกกับลูกสาวคุณวลัยได้ฤกษ์แล้วนะ น่าจะทันอาทิตย์หน้า ตั้งแต่พรุ่งนี้ ห้ามลูกทำงานหนัก เตรียมเข้าคอร์สสามีโอเค แม่อยากให้ลูกมีคนคอยดูแล หลังจากลูกสูญเสียหนูดวงแก้วไป วินก็ปิดกั้นตลอด แม่อยากให้วินเปิดโอกาสให้ตัวเอง ผู้หญิงสวยๆ อาจไม่เหมือนดวงแก้ว แต่ก็ไม่เลวเลยนะจะบอกให้ หาความสุขใส่ตัวให้มากๆ ชีวิตคนเราอยู่ไม่ยาวนานนักหรอก แม่ก็เลยให้วินแต่งงาน ถ้ามันไปไม่รอดก็ค่อยว่ากันอีกที แต่มีหลานก่อนนะวิน ในแต่ละวันๆ แม่คงจะฟินกับการเลี้ยงหลาน” แววตาเป็นประกาย ริมฝีปากของนางฉีกยิ้มจนกว้างเกือบถึงใบหู
“ผมจะพยายามผลิตทายาท มีหลานออกมาให้แม่อุ้มแล้วกัน แม่จะได้ฟิน” ปลายจมูกโด่งกดหอมแก้มมารดา แล้วประคองหญิงสูงวัยพาไปส่งเข้าห้อง ส่วนตัวเขาก็กลับห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อนเช่นกัน เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจเป็นเจ้าบ่าวตามคำขอของผู้ให้กำเนิด
บ้านคุณวลัย
. คุณวลัยกำลังวุ่นวาย เพราะนางได้รับหมายสาร เอ๊ย ข่าวสารมาจากบ้านคุณนายใหญ่เจ้าของธารารีสอร์ท ถึงข่าวคราวเรื่องงานแต่งงาน กำหนดการอีกหนึ่งอาทิตย์ ความโกลาหลวุ่นวายของคนภายในบ้านก็เกิดขึ้น เพราะเงินที่นางได้รับมาจากคุณนายวรรณก่อนล่วงหน้าถึงหนึ่งแสน ลูกสาวคนโตดันเอาไปช็อปปิ้งประทินโฉมจนเกือบหมด เหลือติดบ้านอยู่ไม่กี่หมื่น เจ้าหนี้รายย่อยก็เริ่มมารุมเร้าจะเอาดอกเบี้ยจากนางให้ได้ นางวลัยตัดสินใจเจียดเงินพาลูกเลี้ยงไปทำสวยเพื่อหวังผล เกิดผัวรักผัวหลงขึ้นมาเรื่องเงินๆ ทองๆ คงขอได้ง่ายขึ้น จากสาวน้อยหน้าใสธรรมดาไม่มีราศีกลับดูดีกว่าเดิมหลายเท่านัก นางถึงกับภูมิใจและเอ่ยชม
“จะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวทั้งที ข้าก็ไม่ขี้หมูขี้หมาล่ะวะ”
ส่วนลูกเลี้ยงอย่างนุชถึงจะตกปากรับคำอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เธอก็ยินดีเพื่อคนในครอบครัวจะได้สบาย โดยเฉพาะพ่อ งานบ้านทุกอย่างที่นุชทำ พอได้เวลาดูแลคุณภพ นุชจะหยุดงานทุกอย่าง แล้วรีบเตรียมอาหารกลางวันไปให้พ่อในสวนเล็กๆ คุณภพชอบนั่งมองต้นไม้ เพราะมันสบายตา แถมยังสดชื่นอีกด้วย
“พ่อคะ ทานข้าวค่ะ น่ากินทั้งนั้นเลย นุชตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะคะ”
“บ๊ะ!! วันนี้ลูกสาวพ่อดูสวยผิดหูผิดตา นุชไปทำอะไรมา” คุณภพชมใหญ่ ไม่เคยเห็นลูกแปลงโฉมแต่งตัว
“พ่ออย่าแซวนุชสิคะ ทานข้าวดีกว่าค่ะ เดี๋ยวกับข้าวจะเย็นหมด”
“ว่าแต่วลัยกับยัยนีไปไหน ไม่เห็นอยู่บ้าน”
“ออกไปข้างนอกค่ะ แม่บอกว่าไปธุระ”
“ธุระเยอะจริงๆ รายนั้น พ่อกินข้าวที่นุชทำมาให้ดีกว่าเดี๋ยวเย็นหมด แต่ถึงจะเย็นก็อร่อย ฝีมือของลูกพ่อซะอย่าง” คุณภพตักกับข้าวที่ลูกสาวทำให้ใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“พ่อคะ ถ้านุชไม่อยู่บ้านพ่อต้องทานยา ขยันทำกายภาพนะคะ แล้วนุชจะหาเวลามาหาพ่ออยู่เรื่อยๆ”
“นุชจะไปไหน ไปทำอะไรล่ะลูก”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร พ่อรีบทานเถอะค่ะ” น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา และไม่ยอมเปิดเผยเรื่องที่ถูกเปลี่ยนตัวเจ้าสาว เป็นเพราะคุณวลัยสั่งไว้ว่าไม่ให้บอกคุณภพ เพราะถ้าบอก งานแต่งงานจะไม่เกิดขึ้น แถมบ้านก็ต้องขายหรือถูกยึด นุชเลยไม่บอกอะไรมาก นอกจากแสดงความห่วงใยที่มีต่อบิดาเท่านั้น
