บท
ตั้งค่า

ตอนที่7 ยื่นข้อเสนอ

จัสมินที่พึ่งกลับมาบ้านก็เอาแต่นั่งทอดสายตามองออกไปที่นอกหน้าต่าง แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เรียกสติของคนที่กำลังใจลอยให้กลับมา

ครืด~ ครืด~

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูด้วยความสงสัย เพราะหมายเลขที่โทรเข้ามาไม่มีอยู่ในรายชื่อ ‘ใครกันนะ’ เธอนึกในใจ ขณะที่ปลายนิ้วกดรับสาย

“ฮัลโหลค่ะ” เธอเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“ฉันเอง…ฟาอัล” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังมาจากปลายสาย ทำให้หญิงสาวใจเต้นตุบ ๆ อย่างไม่ตั้งใจ

“คะ…คุณเอาเบอร์ฉันมาจากไหน?” จัสมินถามด้วยความงุนงง

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ…ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ” ฟาอัลปัดที่จะตอบคำถามและรีบเข้าประเด็นทันที “ออกมาเจอกันหน่อยสิ!!”

“ตอนห้าทุ่มเนี่ยนะ?” เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ เขามีเรื่องอะไรถึงขนาดจะต้องนัดเธอให้ออกไปเจอในช่วงกลางดึกแบบนี้

หรือว่าเขา. . .

“อย่าโง่ได้ไหม…ไม่ใช่ตอนนี้!!” ฟาอัลตอบด้วยความรู้สึกที่เริ่มหงุดหงิดเต็มที

“แล้วคุณมีธุระอะไรกับฉัน?”

“ฉันมีข้อเสนอที่เราต้องคุยกันต่อหน้า…แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเธออยากจะได้ฉันจนตัวสั่นรึเปล่า?”

“ฉันไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลยค่ะ!!” เธอตอบด้วยความมั่นใจ

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี…ออกมาเจอฉันหน่อย…พรุ่งนี้ตอนบ่ายสองที่ร้านกาแฟตรงสี่แยกกลางเมือง…ฉันจะรอ!!” ฟาอัลพูดจบก็ตัดสายไปทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธ

จัสมินจ้องโทรศัพท์ในมือด้วยความรู้สึกลำบากใจ เหมือนถูกบังคับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เธอก็รู้ดีว่าธุรกิจของครอบครัวกำลังเข้าขั้นวิกฤต และเธอก็ทอดทิ้งพวกเขาไปไม่ได้เช่นกัน

วันต่อมา. . .

บ่ายสองโมงตรง จัสมินเดินเข้ามาในร้านกาแฟซึ่งเป็นสถานที่นัดพบ บรรยากาศเงียบสงบ มีเสียงเพลงบรรเลงเบา ๆ เคล้าไปกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกาแฟคั่วสดที่ลอยอยู่ในอากาศ

เธอมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นว่าฟาอัลนั่งอยู่โต๊ะมุมหน้าต่าง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ตัดกับผมสีดำและใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ดวงตาคมจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

จัสมินเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม “มีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ?” เธอเปิดบทสนทนาอย่างไม่อ้อมค้อม

ฟาอัลเอนหลังพิงเก้าอี้ ยกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะตอบ “ฉันมีข้อเสนอเรื่องการแต่งงานของเรา”

“ยังไงคะ?” เธอถามด้วยความระแวง เพราะเมื่อคืนเขายังขู่เธอด้วยการกระทำแย่ ๆ อยู่เลย

“ฉันกับเธอไม่ได้รักกัน” ฟาอัลพูดเสียงเรียบ “และเธอเองก็คงรู้ว่าครอบครัวเธอจะได้ผลประโยชน์จากการแต่งงานครั้งนี้ยังไง ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้อยากจะถูกผูกมัดแต่ก็ปฏิเสธคำสั่งของพ่อไม่ได้”

“หมายความว่ายังไงคะ?” เรียวคิ้วเล็กขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

ชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างมีแผนการ “แต่งงานกับฉันพอครบหนึ่งปี เราค่อยหาทางเลิกกันไป ไร้ปัญหา ครอบครัวเธอรอด ส่วนฉันก็ได้อิสระคืน และที่สำคัญเธอก็ได้ไม่ต้องมาติดแหง็กอยู่กับฉันไปตลอดชีวิต แบบนี้ก็จะได้ผลประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายเลย เธอว่าไหม?”

“แต่แบบนี้มันก็เท่ากับว่าเราต้องโกหกผู้ใหญ่สิคะ?” จัสมินพูดขึ้นด้วยความลังเล

ฟาอัลแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ “โกหกตรงไหน? เราก็แต่งงานกันตามที่ผู้ใหญ่ต้องการแล้วนิ่ เธอควรจะดีใจด้วยซ้ำไปที่ฉันไม่ได้บังคับให้เธอมาอยู่กับฉันตลอดไป”

เพราะในตอนนี้คงไม่มีทางออกไหนที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

จัสมินคิดสักพักก่อนจะตอบกลับไปด้วยความลังเล “ตกลงค่ะ แต่เราต้องเซ็นสัญญากัน และฉันจะเป็นคนร่างสัญญาเอง”

“ดี” ฟาอัลยกยิ้มด้วยสายตาที่เป็นประกาย “แล้วฉันจะรอ”

จัสมินลุกขึ้นและเดินออกจากร้านไปทันที ปล่อยให้ฟาอัลนั่งมองตามหลังเธอด้วยรอยยิ้มมุมปากที่ยังคงค้างไว้

เธอเดินไปตามถนนที่ทอดยาวด้วยจิตใจที่เหม่อลอย “หนึ่งปีงั้นเหรอ…” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “ก็ยังดีกว่าไม่มีทางออกเลย แค่ต้องทำสัญญาให้รัดกุมที่สุดเท่าที่จะทำได้”

เมื่อกลับถึงบ้าน เธอเข้าไปในห้องนอน ล็อกประตูอย่างแน่นหนา วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบสมุดโน้ตขึ้นมา

เธอเริ่มจดร่างรายละเอียดคร่าว ๆ ของสัญญาที่ควรจะมี เช่น เงื่อนไขเรื่องทรัพย์สิน การไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกันและกัน การไม่บังคับให้มีความสัมพันธ์ทางกายหากอีกฝ่ายไม่ยินยอม และที่สำคัญคือการตกลงเรื่องระยะเวลาหนึ่งปีที่ชัดเจน เมื่อครบกำหนด ก็ต้องหย่าโดยไม่มีข้ออ้างใด ๆ

หลายวันผ่านไป. . .

จัสมินใช้เวลาในการร่างสัญญาให้ละเอียดที่สุด ใจจริงอยากไปปรึกษานักกฎหมายเลยด้วยซ้ำ แต่ปัญหาคือตอนนี้ครอบครัวของเธอไม่มีเงินมากพอที่จะปรึกษาทนายชื่อดังได้

เธอจึงอาศัยความรู้ขั้นพื้นฐานทางกฎหมายที่พ่อเคยสอนไว้ ร่างสัญญาด้วยภาษาที่ชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องแก้ไขไปหลายรอบ เพราะต้องการมั่นใจว่าจะไม่ถูกฟาอัลเอาเปรียบในภายหลัง

เมื่อวันก่อนสิบทิศเข้ามาคุยกับพ่อของเธอเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกัน เมื่อให้คำมั่นไปแล้วพ่อเธอจึงต้องยึดถือในสัจจะ

ส่วนทางฝั่งของฟาอัล เขาเองก็รอคอยอย่างใจเย็นไม่ได้รีบร้อนอะไร เขามั่นใจว่าจัสมินต้องติดต่อกลับมาแน่ ๆ เพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้

ผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ภายใต้บรรยากาศอึมครึม และแล้วเสียงโทรศัพท์ของฟาอัลก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูเห็นชื่อของจัสมินปรากฏบนหน้าจอ ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะกดรับด้วยความมั่นใจ

“ว่าไง?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายติดต่อมาด้วยเหตุใด

“ฉันร่างสัญญาเสร็จแล้ว” เธอตอบเสียงนิ่ง “เจอกันที่เดิมนะคะ…พรุ่งนี้ตอนบ่ายสอง”

ฟาอัลหัวเราะเบา ๆ “ตกลง…แล้วฉันจะรอ”

จัสมินกดวางสายทันที ไม่ให้เขาได้พูดเล่นต่อ เมื่อเสียงสายตัดไป ฟาอัลยังคงถือโทรศัพท์ในมือ รอยยิ้มบนหน้าจางลงเล็กน้อย เขาสงสัยว่าสัญญาที่เธอร่างนั้นจะออกมาเป็นแบบไหน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็พร้อมจะยอมเซ็น…หากมันทำให้ปัญหาบ้า ๆ นี้จบลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel