ตอนที่ 7 ฝันหวานของไอลดา
ไอลดาหายใจหอบเหนื่อยแล้วทรุดฮวบร่วงหมดสติลงไปต่อหน้าธีรภพที่กอดกระชับประคองเธอไว้แล้วอุ้มเดินกลับไปที่กระท่อม เขาจัดแจงที่นอนอุ้มเธอเข้ามุ้งแล้วนั่งมองเธอที่นอนหายใจสม่ำเสมอ ความร้อนรุ่มยังคงสุมอยู่ในกายเอื้อมมือไปลูบไล้แขนเรียวขาวเคลื่อนไล้ไปถึงดวงหน้าสวยอย่างหลงใหลแต่แล้วก็ชะงักดึงมือตัวเองออกบ่นในใจ
(ห้ามแตะต้องยายนี่เด็ดขาดถ้าคุณย่ารู้โดนจับแต่งงานแน่ อยากหมดอิสรภาพหรือไงวะ) เขาลูบหน้าตัวเองแรง ๆ ให้สร่างเมาแต่สายตาก็วายจะหันไปมอง
(ไม่ได้นะไอ้ธี ไม่ได้นะโว้ย) เขาข่มตาไม่มองแล้วตัดใจรีบคลานออกจากมุ้งเดินออกจากกระท่อมเพื่อไปปลดปล่อยความทรมานนี้กับสาวในงานเลี้ยง เป็นคืนแรกที่ธีรภพปล่อยให้ไอลดานอนอยู่ในกระท่อมคนเดียวเพราะเขาต้องออกไปหาความสุขที่อื่น
รุ่งเช้า
ไอลดานอนบิดขี้เกียจตัวเหยียดยาวลืมตาตื่นมองรอบข้าง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ร่างบางลุกนั่งหน้าตาเหลอหลาแตะริมฝีปากตัวเองลูบไปมานึกถึงความรู้สึกที่ได้จูบกับธีรภพ ท่ามกลางบรรยากาศห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้เสียงหริ่งเรไร ช่างอ่อนละมุนชุ่มชื้นในหัวใจ แม้หลังจากนั้นจะภาพตัดแล้วตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในกระท่อม
“สายป่านนี้แล้วยังไม่ตื่น จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง” เสียงของธีรภพดังขึ้นนอกมุ้งแต่ก็ไม่ทำให้ไอลดาหลุดออกจากห้วงความคิด เขาเห็นเธอนั่งนิ่งเลยเปิดมุ้งขึ้นมองเธอนั่งจับริมฝีปากของตัวเอง ด้านไอลดาตาเบิกกว้างทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นธีรภพ
“ฝันหวานอะไรอยู่” เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอกะพริบตาถี่พูดไม่ออก
“เอ่อ คือ.......”
“ฝันว่าจูบกับผู้ชายหรือไง ถึงได้ลุกมานั่งจับปากตัวเอง”เขาถามเสียงขุ่นแล้วรีบลุกขึ้นเก็บมุ้งเพราะเกือบหลุดให้เธอเห็นว่าเขาแอบยิ้ม หน้าสวยมึนงงสับสนทำไมเขาถึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ความจริงแต่เป็นเพียงฝันหวานของเธอกันแน่
“จะนั่งอีกนานไหมลุกไปหาของกินได้แล้ว” เขาแสร้งหงุดหงิดหน้าบึ้งตึง
ไอลดาลนลานกลัวโดนบ่นรีบลุกไปเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายก่อนจะมาจัดหาอาหารเช้าให้ธีรภพทั้งที่ยังอดสงสัยไม่ได้
ขณะที่นั่งกินข้าวด้วยกันเธอเหลือบมองเขาเป็นระยะก่อนที่จะตัดใจถามให้หายเคืองใจ
“คุณธีคะ”
“ว่าไง”
“เมื่อคืนลดากลับมาที่กระท่อมได้ยังไงคะ ลดาจำได้ว่ากำลังเดินกลับกระท่อมแต่เจอหมูป่าข้างทางแล้วคุณธีก็ เอ่อ..........”เสียงหวานลากยาวอึกอักไม่กล้าพูดว่าถูกเขาจูบ
“เมื่อคืนเธอนั่งหลับอยู่ที่งาน ฉันเลยต้องอุ้มเธอมาส่งเหนื่อยก็เหนื่อยตัวก็หนัก เธอนี่เป็นตัวภาระจริง ๆ”
“จริงเหรอคะ ทำไมไม่คุ้นเลย”คิ้วเรียวขมวดไม่เชื่อว่าตัวเองนั่งหลับในงานเลี้ยงและยังจำได้แม่นว่าเดินกลับมาเจอหมูป่า
“จะหาว่าฉันโกหกเหรอ ดื่มเหล้าเยอะจนเมาจำอะไรไม่ได้เลยหรือไง”เขาเสียงแข็งทำเป็นหงุดหงิดเพื่อให้เธอไม่กล้าคุยต่อ ไอลดาหน้าซีดที่ถูกบ่นต้องตัดบทไม่เซ้าซี้ทั้งที่ยังคาใจ
“ ช่างเถอะค่ะ ลดาคงดื่มเยอะไปจริงๆ” เสียงหวานอ่อนลงก้มหน้าก้มตากินข้าวแต่ค้านในใจเธอไม่ได้ดื่มเหล้าแม้แต่หยดเดียวจะเมาได้ยังไงหรือว่าเธอง่วงมากเลยหลับที่งานเลี้ยงจริง ๆ หากเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงความฝันก็ช่างน่าอายที่ฝันว่าจูบกับผู้ชายที่แอบรัก ถ้ามีใครรู้ว่าเธอขี้ตู่หาว่าผู้ชายจูบต้องถูกหัวเราะเยาะแน่ ๆ
ช่วงสาย
ไอลดาหอบเสื้อผ้ามานั่งซักที่ริมลำธาร พลางนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเรื่องเมื่อคืนยังวนเวียนอยู่ในหัว ด้านธีรภพยืนมองแล้วอมยิ้มอยู่ไกล ๆ เรื่องอะไรจะบอกว่าเป็นคนขโมยจูบ ถ้าเธอเอาไปบอกคุณย่าเขาจะสิ้นอิสรภาพทันที ชีวิตโสดที่หวงแหนจะถูกพรากไปเพราะเธอไม่ได้
ครบสองอาทิตย์ที่ไอลดาอยู่เกาะ เธอเลยได้กลับไปอยู่ที่กรุงเทพฯ สองอาทิตย์แล้วค่อยกลับมาเกาะอีกครั้ง วันเดินมาส่งไอลดาขึ้นเรือโผกอดเอวบางเงยมองออดอ้อน
“ พี่ลดา กลับมาเร็วๆ นะ”
“จ๊ะแค่สองอาทิตย์ เดี๋ยวพี่ก็กลับมาและจะมีขนมอร่อย ๆ มาฝากทุกคนด้วย” ไอลดายิ้มหวานโน้มลงโอบเพื่อนตัวเล็กของเธออย่างอ่อนโยน ธีรภพชายตามองไอลดากับวันความอ่อนหวานของเธอเป็นเรื่องเคยชินสำหรับเขา เข้มกับแย้มและชาวบ้านที่สนิทกับไอลดาตามมาส่งแล้วโบกมือลาจนสปีทโบ้ทแล่นไปลับตา
คฤหาสน์หรู
คุณหญิงเริงศรีจับเนื้อตัวของไอลดาแล้วมองด้วยความห่วงใย
“ผอมลงไปเยอะเลยนะลูก ผิวก็คล้ำด้วย”
“ไปทำงานบนเกาะนะครับคุณย่า ไม่ได้ไปเที่ยวปารีสทำสปาขัดผิว ตัวจะได้ขาว” ธีรภพเอ่ยขัดคอหมั่นไส้คุณย่าห่วงหลานสาวนักแล้วจะให้ไปดูงานที่เกาะกับเขาทำไม
“ทำงานบนเกาะก็ไม่ต้องผอมมั้ย ดูแลน้องไม่ดียังจะมาพูดอีก”คุณหญิงเริงศรีหันขวับบ่นหลานชาย
“คุณธีดูแลดีมากค่ะคุณย่า ลดาไม่สบายคุณธีก็พาไปหาหมอแล้วเฝ้าไข้จนดีขึ้น”
“จริงเหรอลูก ตาธีเนี่ยนะ”คุณหญิงเริงศรีลากเสียงยาวพูดกระแหนะกระแหนหลานชาย
“ผมไม่ได้ใจร้ายปล่อยให้หลานสาวคุณย่าตายคาเกาะหรอกครับ”
“แหม ช่างเป็นคนดีจริง ๆ เลยนะหลานย่า”
“ผมกลัวว่าถ้าตายจะเป็นผีเฮี้ยนหลอกหลอนคนอื่นเขา”เขาแสยะยิ้มพลางเหล่มองเธอที่นั่งอมยิ้มกับคำพูดร้าย ๆ ที่กลายเป็นความเคยชิน ไม่รู้สึกน้อยใจกับคำพูดของเขาเหมือนเมื่อก่อน ช่วงที่อยู่บนเกาะด้วยกันทำให้รู้ว่าเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี..............
