บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

“ยัยลิต้า…กลับมาแล้วเหรอ”ทันทีที่ประตูรั้วเปิดออกปาลีร้องลั้นด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเติมตาก่อนจะกระโดดสวมกอดน้องสาวด้วยความคิดถึง

“นี่…คุณพี่สาวพอได้แล้ว พี่นะไม่ใช่เด็กๆแล้วนะแต่งงานมีลูกมีสามีแล้ว”ลิต้าว่าขณะที่ดันปาลีออกจากตัวเบาๆอย่างเป็นห่วง

“ก็มันคิดถึงนี่ไม่เจอกันตั้ง 2 ปีแกจะไม่ให้ฉันดีใจได้ยังไง”ปาลีว่าน้ำเสียงปิดความดีใจ ตอนนี้คงไม่ต้องบอกว่าหน้าเธอบานขนาดไหน

“แล้วจะให้ลิต้ายืนอยู่หน้าบ้านอีกนานไหม เมื่อไหร่จะพาเข้าบ้านสักที” ลิต้าพูดติดตลกน้ำเสียงไม่จริงจังเท่าไหร่เพราะเธอรู้ว่าพี่สาวของเธอรู้สึกอย่างไง เพรามันก็เป็นความรู้สึกที่เธอกำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้เหมือนกัน

“นั่นสิ ลืมไปเลยพอดีดีใจเกินไปหน่อยปะเข้าบ้านกัน”ปาลีพูดแม้จะยังไม่หายจากความดีใจ พอดีกลับเห็นน้องสาวหันไปสนใจกระเป๋าเดินทางที่เอามาด้วยแล้วจึงเดินเข้ามาช่วย

“ดูสิ…ใครมาเอ่ย” ปาลีพาลิต้าเดินเข้ามาในบ้านเงียบๆเธอเอากระเป๋าของน้องสาวไว้ที่หน้าห้องรับแขก ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วตระโกนบอกคนที่อยู่ในห้องรับแขกซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสามีภรรยายที่รักกันมากหรือก็คือพ่อและแม่ของเธอนั่นเอง

“ยัยลิต้า…แม่คิดถึงลูกมากเลย” นางลดาพูดออกมาเสียงสั่นร้องไห้ด้วยความดีใจ แล้วเดินเข้าไปกอดลิต้าอย่างแนบแน่นให้สมกับความคิดถึงที่มีมากจนไม่อาจนับได้

ความรู้สึกของเธอตอนนี้คืออธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ออกรู้เพียงแค่ว่ามันคือสิ่งที่เธอต้องการและปราถนาที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้

“คุณพอได้แล้ว…ให้ผมกอดลูกบ้างสิ..ผมก็คิดถึงลูกเหมือนกันนะ” คุณกิติพูดพร้อมกับเข้ามากอดลูกสาวคนเล็กด้วยความคิดถึงเหมือนกัน ลูกยังไงซะก็คือลูกไม่ว่ายังไงก็อดเป็นห่วง คิดถึงไม่ได้ไม่ว่าลูกจะโตสักแค่ไหน

“ลิต้าก็คิดถึงทุกคนเหมือนกันค่ะ…ที่อเมริกาลิต้าไม่ค่อยมีเพื่อนเลยส่วนมากอยู่คนเดียวตลอดลิต้า เหงาๆค่ะ” เธอกอดตอบบิดาด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างอ้อนๆ นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้กอดไม่ได้ออดอ้อนเหมือนตอนนี้ เธอจะไม่ปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไปอีกเป็นอันขาด

“แต่ตอนนี้ลิต้ายังไม่ได้ท่านอะไรเลยตั้งแต่บนเครื่องตอนนี้เลยรู้สึกหิวมาก…คุณแม่ที่รักทำอะไรให้ลิต้าทานหน่อยได้ไหมค่ะ” พูดแล้วทำตาปริบๆเพื่อขอความเห็นใจเรียกเสียงหัวเราะจากคนในครอบครัวทุกคนได้อย่างดี เธอมักจะทำแบบนี้เสมอและแน่นอนว่ามันไปผลชะงักนักยิ่งกว่าใช้พลังวิเศษซะอีก

“ไปลูก…ขึ้นไปอาบน้ำเดียวแม่จะไปทำอาหารมาให้” นางลดาพูดกับลูกแล้วยิ้มๆไม่เคยเลยที่เธอจะไม่ใจอ่อนกับลูกสาวคนเล็กเมื่อโดนอ้อนแบบนี้

“เย้…คุณแม่น่ารักที่สุดเลย” ลิต้าหอมแก้มมารดาแล้ววิ่งขึ้นห้องไปเพื่อทำตามที่มารดาบอก เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนได้อย่างดี

ลิต้าเดินมาหยุดที่หน้าห้อง ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ทุกอย่างในห้องยังเหมีอนเดิมข้าวของยังวางอยู่ที่เดิม ไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่น้อย คุณแม่คงเข้ามาทำความสะอาดทุกอาทิตย์เพื่อค่อยเวลาที่เราจะกับมาอยู่ที่นี่อีกครั้งเป็นแน่ ลิต้าคิดในใจจนน้ำตาแห่งความดีใจหยดลงสู่พื้นห้องเวลา 2 ปีที่เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ทุกคนไม่เคยลืมเธอเลย ทุกคนคิดถึงเธอและค่อยการกลับมาพร้อมความสำเร็จของเธอเสมอมา

“ยัยลิต้าเอ่ยไม่ใช่เวลาที่จะมาร้องไห้นะ รีบไปอาบน้ำซิแม่แกรออยู่นะ” ลิต้าพูดบอกกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

“โอ้โห้…อาหารหน้ากินทั้งนั้นเลย” ลิต้าพูดอย่างดีใจเพราะว่าลิต้าเป็นคนที่ชอบท่านอาหารมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหวานของชนชาติใดลิต้าก็ต้องลิ่มชิ้มรสของมันโดยที่ไม่กลัวอ้วน เพื่อนๆของเธอหลายคนอิจฉาเธอที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนจัดปาร์ตี้แล้วสามารถกินของทุกอย่างได้จากงานเท่าที่อยากกิน

“เลี้ยงฉลองการกลับมาของลูกพร้อมความสำเร็จไงจ้ะ” นางลดาบอกลูกด้วยรอยยิ้ม แม้ตอนที่ลูกจะไปเรียนต่อต่างประเทศนางไม่อยากให้ลูกไป แต่เพื่ออนาคตที่ดีของลูกจึงทำให้นางต้องให้ลูกไปแม้จะต้องคิดถึงและเป็นห่วงลูกมาก

“วันนี้วันหยุด…คุณพ่อจะออกไปไหนเหรอคะ” ลิต้าถ้าเมื่อเห็นบิดากำลังก้มๆเงยๆอยู่ตรงตู้เก็บร้องเท้าหน้าบ้านเหมือนกำลังเตรียมตัวจะออกจากบ้าน

กิติละสายตาจากตู้เก็บรองเท้ามองตามเสียงที่เอ่ยถามเมื่อเห็นเป็นบุตรสาวก็หันกลับหยิบร้องเท้าและนั่งลงที่ม้านั่งที่มีไว้สำหรับไว้นั่งที่ใส่รองเท้าโดยเฉพาะ และเอ่ยตอบคำถามลูกสาวไปด้วย

“พอดีวันนี้พ่อนัดเพื่อนไว้นะลูก”

“พ่อไปนะ” เมื่อใส่ร้องเท้าเสียงก็เอ่ยลาลูกสาว

“ค่ะ..คุณพ่อก็รีบๆกลับบ้านนะคะ… คิดถึง” ลิต้ารับคำผู้เป็นพ่อไม่ลืมที่จะหยอดคำหวานใส่ตามนิสัย

“ปากหวานจริงลูกคนนี้” คุณกิติอดขำไม่ได้กับท่าทางขี้อ้อนของลูกสาว แล้วเดินออกจากบ้านไปขึ้นรถและขับรถออกไปในขณะที่ลิต้าโบกมือ บายๆจนเห็นผู้เป็นพ่อลับตาไปจึงหันหลังเข้าบ้าน

“ขออนุญาติค่ะ”คนรับใช้คนสนิทเอ่ยขอผู้เป็นนายทั้งสองก่อนจะเข้ามาหาทั้งสองด้วยท่าทีเรียบร้อยที่ตนปฏิบัติเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย

“มีอะไรเหรอมะลิ” เมื่อได้ยินเสียงเธอก็ละจากการพูดคุยกับสามีและหันไปตามเสียงเรียกรู้ทันทีว่าต้องเป็นสาวใช้คนสนิทลูกสาวของแม่นมของลูกชายเธอเป็นแน่

“คุณกิติมาค่ะ…จะให้มะลิเชิญเข้ามาเลยไหมคะ”สาวใช้คนสนิทเอ่ยถึงต้นเหตุที่เธอต้องเข้ามารบกวนเวลาของเจ้านานทั้งสองทันทีเพื่อจะได้ไม่ให้แขกที่กำลังรออยู่รอนานจนเกินไปจนกลายเป็นการเสียมารยาที่จะทำให้เจ้านายที่ตนรักและเคารพทั้งสองเสียชื่อเสียงเอาได้

“รีบเชิญเข้ามาเลย” เธอรีบสั่งอย่างเร็วเมื่อรู้ว่าคนที่เธอกำลังรออยู่มาถึงแล้ว

“ค่ะ…” มาลีรับคำเมื่อได้รับคำสั่งที่ดูกระตือรือล้นจากผู้เป็นนาย คิดว่าผู้ที่มาเยือนหน้าจะเป็นแขกคนสำคัญทีเดียวจึงรีบออกไปเชิญแขกท่านนั้นทันที

“สวัดดีครับคุณกิ่งแก้ว ท่านประธาน” กิติเอ่ยทักทายเจ้าของบ้านทั้งสองที่เขานับถือเป็นอย่างมากทันทีที่ได้พบหน้า

“ประธานอะไรกัน กิติผมไม่ได้เป็นประธานบริษัทแล้วนะยกตำแหน่งให้ลูกตั้งนานแล้ว อีกอย่างถ้าผมไม่ได้คุณช่วยไว้คงไม่มีผมในวันนี้เหรอจริงไหม”

เจอราฟพูดแล้วยิ้มออกมามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนขณะที่เจอราฟกำลังขับรถกลับบ้านเจอรถที่กำลังจอดเสียอยู่ข้างทางจึงลงจากรถเพื่อจะไปช่วยแต่เมื่อลงไปกลับมีคนออกมาจากข้างทางพยายามจะเข้ามาทำร้ายแล้วเอาทรัพย์ของเขาไปโชคดีที่กิติขับรถผ่านมาพอดีจึงลงจากรถมาช่วยไว้ได้ทัน

ตั้งแต่ตอนนั้นทั้งสองจึงเป็นเพื่อนกันพอดีกับที่กิติทำงานอยู่โรงแรมของเจอราฟในแผนกการเงินพอดีจึงทำให้สนิทกันและไว้ใจกันมากขึ้นไม่นานกิติก็ได้เป็นผู้ควบคุมและตรวจสอบการทำงานฝ่ายต่างๆในโรงแรมดิเอคาร์ดสาขาใหญ่ที่กรุงเทพฯ

“ได้ข่าวว่าลูกสาวคนเล็กของคุณกลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ” กิ่งแก้วยิ่งคำใส่แขกเยือนทันทีเมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถเก็บความอยากรู้ให้แน่ชัดของตนได้อีกแล้ว เป็นเหตุให้คนที่พึ่งจะนั่งลงที่โซฟาตรงหน้าของเธออดฉงนไม่ได้

“ครับกลับถึงมาเมื่อวานนี้…ไม่ทราบว่าท่านรู้ได้อย่างไรครับ” เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยเพราะไม่คิดว่าเรื่องของลูกสาวเขาจะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้หรือจะเรียกให้ถูกว่าคฤหาสน์เพราะว่าที่ ที่เขาอยู่ตอนนี้มันใหญ่กว่าบ้านของเขาหลายเท่าเลยที่เดียวถามถึงเป็นอย่างแรก

“เอาความจริงเลยนะค่ะคุณกิติแก้วจะไม่อ้อมค้อมแล้ว”ไหนๆก็ไหนๆแล้วเธอคิดว่าควรจะต้องผู้อะไรตรงๆเพราะว่าสิ่งที่เธอจะทำต้องการผู้ร่วมขบวนการไม่น้อยและก็ไม่อยากปล่อยโอกาสงามๆที่อยู่ตรงหน้าขณะนี้ให้หลุดลอยไปโดยไรประโยชน์ “แก้วอยากได้หนูลลิตามาเป็นลูกสะใภ้ค่ะ” เธอจึงตัดสินใจเอ่ยมันออกมาทันที

“ครับเมื่อกี้คุณแก้วพูดอะไรนะครับ” กิติถามซ้ำอีกครั้งเขาไม่มั่นใจในสิ่งที่ได้ยินเหมือนกับมันเป็นแค่ความฝันอย่างไรอย่างนั้น

“แก้วอยากได้หนูลลิตาลูกสาวของคุณมาเป็นลูกสะใภ้ค่ะ” ผู้หญิงคนเดียวในห้องเอ่ยขึ้นอีกครั้งโดยไร้ความลังเล เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่เป็นเธอเองถ้าเป็นคนฟังก็คงไม่อาจเชื่อหูของตนเองเป็นแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel