บทที่ 4 ความบังเอิญ
มิ้นนั่งอยู่ในห้องน้ำห้องหนึ่งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ในมือถือที่ตรวจครรภ์ไว้ เธอนั่งมองมันอยู่เงียบ ๆ
มันขึ้นมาสองขีด
มิ้นใช้มือลูบท้องตัวเองเบา ๆ เหม่อลอยเหมือนร่างไร้วิญญาณ นั่งช็อกทันทีที่เห็นที่ผลตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก เรี่ยวแรงต่าง ๆ มันหายไปหมด
มิ้นทำอะไรไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังมีอีกหนึ่งชีวิตในตัวเธอ และเธอพึ่งเรียนมหาวิทยาลัยแค่ปีที่สอง
'จะทำยังไงดี'
ณ เวลาเดียวกัน แต่คนละเหตุการณ์
ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง มีสองสาวฝาแฝด ชื่อว่า เจน จ๋า กับอีกหนึ่งเพศชายที่ชื่อว่า ไม กำลังรอเพื่อนสนิทที่นาน ๆ จะขึ้นมากรุงเทพสักทีอย่างใจจดใจจ่อ พวกเราทั้งสี่นัดเจอกันที่ร้านอาหารร้านโปรดของอันดา เพราะมันเป็นจุดพบที่เจอได้ง่ายที่สุดแล้ว
"นู้นมานู้นแล้ว" จ๋า ฝาแฝดคนน้องพูดขึ้น เมื่อเห็นอันดากำลังเดินมา
อันดาเธอพึ่งลงเครื่องและตรงมาที่ห้างทันทีเพราะกลัวว่าเพื่อน ๆ ของเธอจะรอนานจากการที่เครื่องบินดีเลย์
เจนฝาแฝดคนพี่หันดูอันดาตามที่จ๋าบอก สีหน้ายิ้มแย้มของสองแฝดที่ปรากฏขึ้น แสดงให้เห็นถึงความดีใจและคิดถึงเพื่อนคนนี้มากที่จะได้เจอกันในรอบ 3 เดือน
"อันดา คิดถึงงงงงง" จ๋าเข้าสวมกอดอันดาทันทีที่มาถึงโต๊ะ
"คิดถึงเหมือนกัน ทั้งสองคนเลย ดีใจ ๆ ๆ"
อันดาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงและตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อน แค่ได้เจอเพื่อนสนิทแบบนี้ มันไม่มีอะไรจะมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“นิ แล้วไม่คิดถึงฉันบ้างเหรอ” เพื่อนอีกคนนั่งหน้าบึ้งพูดเชิงน้อยใจ
“อย่าน้อยใจสิไม อันดาก็คิดถึงไมเหมือนกันนะ โอ๋ ๆ” อันดากล่าวปลอบใจ
"เธอนี่จริง ๆ เลยนะ กว่าจะขึ้นกรุงเทพมาได้แต่ละครั้งยากเย็นแสนเข็ญ" เจนพูดต่อ
"ช่วยไม่ได้นิ ก็ต้องช่วยทำงานที่บ้าน จะทิ้งงานมาได้ยังไงกันล่ะ"
"จ้า รู้แล้วแหละ เพราะแบบนี้ไง พวกฉันถึงต้องจัดสรรเวลาของตัวเองให้ตรงกับเธอ"
อันดายิ้มให้เพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย พวกเธอเข้าใจอันดาเสมอ
"แล้วนี่สั่งอะไรกันรึยังอ่ะ" อันดาถาม พร้อมกับเปิดดูเมนูในมือ
"ยังอ่ะ พวกเรารอแกอยู่ จะได้สั่งพร้อมกัน"
"อืม โอเค งั้นอันดาสั่ง..."
ระหว่างเราสี่คนกินอาหาร พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบตามประสา เจนเปิดประเด็นถามอันดาขึ้นมา...
"แล้ววันนี้พี่กัสไม่มาด้วยเหรอ ปกติจะตามมาด้วยกันตลอดนิ"
"วันนี้พี่กัสติดประชุมที่บริษัท เดี๋ยวคงมารับอันดาตอนเย็น หลังจากที่พวกเราดูหนังด้วยกันเสร็จแล้วละมั้ง"
"หวานชื่นกันขนาดนี้ คู่เธอเองก็คบกันมาตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่จะมีข่าวดีเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ สักทีหืมมม" ไมพูดเสริม
"ไม่รู้สิ พี่กัสไม่เห็นพูดอะไร"
"แล้วไม่เคยคุยเรื่องนี้กับพี่กัสบ้างเหรอ"
"คุยนะ แต่แบบคร่าว ๆ พี่กัสบอกแค่ว่ารอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกว่านี้ก่อน แล้วจะขอ"
"ถึงยังไงก็อย่าลืมบอกเราสามคนเป็นคนแรกนะ ไม่งั้นมีเคืองแน่ ๆ"
“และต้องได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย ไม่อย่างงั้นจะโกรธไปจนแก่ชรา จะตามราวีไปเรื่อย ๆ” เจนพูดต่อ
"รู้แล้วละนาาาา"
อันดาเป็นแฟนกับพี่กัส ทั้งสองคนคบกันมาได้ประมาณ 5 ปีแล้วตั้งแต่อันดาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 จนจบออกมาทำงานของตัวเอง
อันดากับกัสเจอกันที่เชียงใหม่ ตอนที่เราไปเที่ยวกันช่วงปิดเทอมปีสองพอดีกับแก๊งเพื่อน ตอนนั้นพี่กัสเองก็ไปเที่ยวด้วยเช่นกัน เป็นทริปดูงานกับพนักงานบริษัทและลูกค้ารายใหญ่
ทั้งสองคนเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เรื่องมันเกิดมาจากความสะเพร่าของอันดาที่สะดุดขาตัวเองล้มไปกองกับพื้น แล้วพี่กัสที่อยู่บริเวณนั้นเดินเข้าไปช่วย และก็ตกหลุมรักกัน คบกันจนมาถึงตอนนี้
มันเป็นเรื่องบังเอิญอะไรกัน ที่ทุกอย่างมันจะพอดีกันขนาดนี้นะ คงเป็นเพราะพรหมลิขิตของทั้งสองคนนี้ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าสักวันคงได้เจอกันในสภาพโก๊ะ ๆ
กัสทำงานอยู่กรุงเทพเป็นผู้บริหารอยู่บริษัทนำเข้าและส่งออก อายุห่างกับอันดาราว ๆ 6 ปี ส่วนอันดาพอจบจากมหาวิทยาลัยก็ต้องกลับไปทำงานที่บ้านที่ จังหวัดตรัง ทำให้หาเวลาเจอกันยากขึ้น เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงกัสกับอันดาก็สลับกันไปเยี่ยมเยือน คราวนี้ใช้ระยะเวลาเกือบ 3 เดือนกว่าที่อันดาจะขึ้นมากรุงเทพ
"อิ่มจัง หนังก็สนุก" จ๋าพูด หลังจากเดินออกมาจากโรงหนัง
"นั่นสิ อันดาอยากไปไหนต่อรึเปล่า" เจนถามต่อ
"ไม่ล่ะ เดี๋ยวอันดาก็คงเดินเล่นอยู่ในห้างนี้แหละ รอพี่กัสมารับ เมื่อกี้พี่กัสพึ่งไลน์มาบอกว่าเดี๋ยวมา พอดีพึ่งเลิกประชุมเสร็จ"
"งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นเราแยกย้ายกันตรงนี้แล้วกันนะ พวกเราอยากจะไปงีบสักหน่อย"
"อืม ๆ ค่อยเจอกันใหม่นะ"
"จ้า ถ้ามีอะไรโทรหาได้ตลอดนะ" เจนพูดพร้อมกับโบกมือลา
ระหว่างรอพี่กัสมารับ อันดาเดินเล่นอยู่ในห้าง มองดูสินค้าที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีอะไรแปลกใหม่ให้เลือกซื้อมากมาย เธอเองกำลังคิดอยู่ในใจว่าจะ ซื้ออะไรเป็นของฝากให้แม่ดี ถ้าไม่มีของติดไม้ติดมือกลับไปคงโดนบ่นแน่ ๆ
โอ๊ะ
อันดาไม่ทันระวังเธอเดินชนเข้ากับพนักงานขายคนหนึ่ง ระหว่างกำลังเดินดูเสื้อผ้าภายในร้าน
"ขอโทษค่ะ"
ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน แล้วสบตากัน ช่างเป็นคนที่อันดาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
"มิ้น"
อันดาตกใจ เมื่ออยู่ ๆ ก็ได้เจอลูกพี่ลูกน้องที่เป็นญาติห่าง ๆ กัน หลังจากเจอครั้งสุดท้ายที่บ้าน
นี่ก็ผ่านมาเกือบ 4 ปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน อะไรจะบังเอิญให้เราเจอกันที่นี่ได้นะ
"พี่อันดา"
"มิ้นทำงานอยู่ที่นี่เหรอ" อันดาถามด้วยความดีใจและคิดถึง
เธอดีใจที่ได้เจอน้องอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะเป็นญาติห่าง ๆ แต่เราก็อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน ตั้งแต่ที่ได้รู้จักมิ้น เธอค่อนข้างรู้สึกผูกพันกับมิ้นพอสมควรและอดที่จะสงสารน้องไม่ได้ ที่จะต้องแยกจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก ๆ มาอยู่กับป้าที่กรุงเทพให้ป้าเลี้ยงดู เพื่อลดภาระของบ้านที่ต่างจังหวัด
"ค่ะ มิ้นมาทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่นี่ค่ะพี่อันดา แล้วนี่พี่ขึ้นมาทำอะไรที่กรุงเทพเหรอคะ"
"อ้อ พี่ขึ้นมาเที่ยวนะ แล้วมิ้นสบายดีไหม"
"ค่ะ ก็เรื่อย ๆ"
"แล้วนี่เข้ามหาวิทยาลัยแล้วใช่ไหม อยู่ปีอะไรแล้วล่ะ"
"อยู่ปีสองค่ะ"
"แปบ ๆ เวลาก็ผ่านมาเร็วเหมือนกันนะ ดีใจจังที่ได้เจอมิ้นอีกครั้ง"
"แฮะ ๆ"
มิ้นยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ได้เจอพี่ที่เป็นญาติกัน แต่สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่นัก เหมือนมีเรื่องอะไรค้างคาอยู่ในใจ คงอาจเป็นเพราะป้าที่คอยดูแลเธออยู่ กดดันมิ้นอยู่ก็เป็นไปได้ ป้าของมิ้นค่อนข้างเข้มงวดกับมิ้นพอสมควรจากที่ฟังแม่เล่าให้ฟัง เธอคงได้รับความกดดันมากแน่ ๆ
มิ้นเป็นเด็กที่เกิดจากครอบครัวไม่อบอุ่น พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก เธอโตมากับป้าแท้ ๆ ที่ค่อนข้างเข้มงวด จู้จี้จุกจิก อันดาได้ข่าวเธอครั้งสุดท้ายคือตอนที่มิ้นแยกออกมาอยู่คนเดียวหลังจากจบม.ปลาย ตอนนี้เธอก็คงต้องดิ้นรนใช้ชีวิตด้วยตัวเอง หวังว่ามิ้นจะอดทนผ่านเรื่องราวความลำบากตอนนี้ไปให้ได้
"งั้นพี่อันดาเลือกเสื้อผ้าตามสบายนะคะ มีอะไรเรียกมิ้นได้ตลอด มิ้นขอตัวไปทำงานตรงนู้นก่อนสักครู่นะคะ"
"อืม ตั้งใจทำงานนะ"
อันดาเดินเลือกเสื้อผ้าต่ออยู่สักพัก
จู่ ๆ มิ้นเดินเข้ามาจับข้อมือเธอไว้ บนใบหน้ามิ้นแสดงออกถึงความกังวล ไม่สบายใจ เหมือนเธอมีเรื่องที่อยากจะพูดออกมา แต่ไม่กล้าพูด
"พี่อันดา คือมิ้น..."
"มีอะไรไม่สบายใจเหรอ"
"พี่อันดา มิ้นมีเรื่องอยากปรึกษาพี่อันดาหน่อย พี่อันดาว่างไหม"
"อืมได้สิ แต่ตอนนี้มิ้นทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ"
"หมายถึง หลังจากนี้นะคะ"
"อ้อ เอ่อคือพี่มีนัดต่อจากนี้"
"..."
มิ้นมีสีหน้าเป็นกังวลมากขึ้นกว่าเดิม เหมือนเธอมีเรื่องเครียดมาก ๆ จนน้ำตาคลอจนอยากจะร้องไห้ออกมา
"เอางี้ มิ้นเลิกงานประมาณกี่โมง"
"ประมาณ 4 ทุ่มค่ะ"
"เอาเบอร์พี่ไปนะ เลิกงานแล้วโทรหาพี่โอเคไหม" มิ้นพยักหน้า เหมือนเธอมีความหวังมากขึ้น
"อืม ตอนนี้ตั้งใจทำงานไปก่อนนะ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องเครียด พี่ไม่ทิ้งเราหรอก" อันดาพูดให้กำลังใจ
"ค่ะ" มิ้นพูดตอบรับแล้วกลับไปทำงานตามปกติ
ส่วนอันดาก็ไปกับกัสต่อตามที่นัดไว้
สวนสาธารณะใจกลางเมือง ตอนเย็นช่วงแดดกำลังจะหมด พระอาทิตย์ใกล้จะลับฟ้า กัสพาอันดามานั่งชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ รับลมเย็น ๆ พัดผ่าน อันดาแปลกใจไม่รู้ว่าพี่กัสมาอารมณ์ถึงพาเธอมาที่นี่
มาทำอะไร...
"พี่กัส วันนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ" อันดาถามกัสออกไป
"หืม อะไรเหรอ"
"ก็อยู่ ๆ พาอันดามาถีบเรือเป็ด มาบริหารกล้ามเนื้อขาเหรอคะ" อันดาพูด
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่แค่อยากใช้เวลาอยู่กับอันดาสองต่อสอง ถีบเรือเป็ดไป ชมบรรยากาศไปแบบนี้ นี่แหละดีที่สุดแล้ว จะได้ไม่มีใครมากวนใจเวลาที่พี่มาสวีทกับอันดาแบบนี้"
"อย่างงี้นี้เอง งั้นอันดาจะทำให้การถีบเรือเป็ดของเรามีแต่ความทรงจำดี ๆ ถีบให้น่องใหญ่ไปด้วยกันเถอะค่ะ" อันดาพูดติดตลก
"อันดา ประชดพี่เปล่าเนี่ย"
"เปล่าค่ะ อันดาแค่อยากใช้เวลากับพี่กัสให้เต็มที่ที่สุด เพราะเราสองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยมาก เวลาเจอกันก็ไม่ค่อยมีนิคะ ช่วงนี้ต้องดื่มด่ำ อินกับบรรยากาศให้มากที่สุด"
"อืม" กัสลูบหัวอันดาเบา ๆ เอ็นดูในความน่ารักของคนรัก
"อันดาคิดถึงพี่กัสนะคะ" อันดาเอาหัวซบตรงไหล่กัส เธอกำลังอ้อนกัส
"พี่ก็คิดถึงอันดาเหมือนกัน"
ทั้งสองคนปั่นเรือเป็ดอยู่สักพัก ก่อนที่กัสจะพาอันดาไปกินอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เวลาแห่งความสุขแบบนี้ ไม่อยากให้มันจบเร็ว ๆ เลย เพราะอันดามากรุงเทพครั้งนี้ เธออยู่ได้ไม่กี่วันก็ต้องกลับตรังไปทำงานต่อ
"จริงสิ เกือบลืม พี่กัสรออันดาแปบนะ เดี๋ยวอันดาไปหยิบของฝากมาให้ แม่ฝากผลไม้ กับของกินมาให้เพียบเลย"
อันดาหยิบของฝากออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ เมื่อกัสมาส่งเธอที่โรงแรมหลังกินข้าวเย็นเสร็จ
"ได้สิ”
"โหเยอะเหมือนกันนะเนี่ย อันดาหิ้วทั้งหมดมาเองคนเดียวเลยเหรอ ทั้งผลไม้ ทั้งของกินอื่น ๆ"
"ค่ะ แค่นี้สบายมาก"
"จ้าคนเก่งของพี่ แต่ป้านาวก็สุดยอดนะ หาผลไม้ ของกินมาให้ตลอด"
"แม่คงอยากบำรุงพี่กัสให้อ้วน สมบูรณ์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" อันดาพูดแล้วหัวเราะ
"ความจริงพี่คิด ๆ ดูแล้ว พี่อยากจะพูดเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วนะ อันดามาพักที่คอนโดพี่ก็ได้ อันดาจจะได้ไม่ต้องเสียตังค์จองโรงแรมแบบนี้อยู่นะ มาแต่ละทีเสียเงินไปกับค่าโรงแรมก็ไม่ใช่น้อย ๆ"
"อันดาเกรงใจพี่กัสสิคะ อีกอย่างมันจะดูไม่งามเอา เรายังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย"
"จ้า แล้วแต่อันดาละกัน แต่...ก็คงเร็ว ๆ นี้แหละ อีกไม่นาน"
"พูดอะไรนะพี่กัส เอ้า กลับได้แล้วจะห้าทุ่มแล้วเนี่ย พรุ่งนี้พี่กัสต้องไปทำงานแต่เช้าไม่ใช่เหรอคะ"
"ครับ ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นพี่มารับนะ ไปดูหนังกัน"
"โอเคค่ะ" อันดายืนส่งกัสหน้าโรงแรม โบกมือลา
อยู่ ๆ กัสก็หยุดเดิน หันมาพูดกับอันดาว่า
"อ่ะ พี่ลืม"
"ลืมอะไรคะ" อันดาสำรวจของ
จุ๊บ
กัสเดินเข้ามาหอมแก้มอันดาหนึ่งฟอดใหญ่ เธอสะดุ้งตกใจ ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย
"พี่กัส! อะไรเนี่ย"
"แบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย"
"พี่กัส เดี๋ยวเถอะ ถ้ามีใครเห็นเข้าจะทำยังไง"
"พูดแบบนี้ ถ้าไม่มีใครเห็นก็ได้ใช่ป่ะ"
"ไม่ใช่สักหน่อย กลับไปได้แล้ว"
อันดาผลักกัส ส่วนกัสได้แต่แอบอมยิ้มหัวเราะอย่างสนุกสนานกับท่าทีของคนรักของเขา
