บทที่ 2 สารภาพรัก
ทันทีที่เกมเริ่ม...
ชวิน หนุ่มหล่อ หน้าคม สไตล์ลูกครึ่งที่มีเสี้ยวของละติน อเมริกัน จากทางฝั่งของพ่อ ดาวเด่นประจำคณะ เริ่มเข้าจู่โจมเหยื่อที่เขาได้ท้าพนันเอาไว้
มิ้น เด็กเนิร์ด หน้าตาธรรมดา ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขา ต้องกลายมาเป็นของเล่นพนันสนุก ๆ ฆ่าเวลาของคนรวย
เธอแปลกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ ชวิน เริ่มเข้ามาพูดคุย ทักทายและมาให้เธอเห็นหน้าอยู่บ่อย ๆ และคอยช่วยมิ้นติวหนังสืออยู่เป็นประจำ สำหรับมิ้นในตอนนี้ ชวินถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีมากคนหนึ่งที่เข้าถึงง่ายและไม่ถือตัวเหมือนเพื่อน ๆ ของเขา เขาดูติดดินกว่าที่คิด ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เขามักจะทำด้วยเสมอ จนใครหลาย ๆ คนคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เลย
คนอย่างชวิน หล่อ รวย เพอร์เฟคแบบนี้เหรอจะมาชอบเรา เป็นไปไม่ได้...ถึงแม้ว่า ใจของมิ้นจะคิดเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อนแล้วก็ตามที
ชวินถือว่าเป็นผู้ชายคนแรกในมหาวิทยาลัยที่เข้ามาคุยกับเธอ ทั้ง ๆ ที่ ปกติมิ้นเป็นคนมีเพื่อนน้อยอยู่แล้ว การที่มีคนเก่งอย่างเขามาช่วยติวหนังสือและคอยให้คำปรึกษา มันก็ทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างดีขึ้น ความใกล้ชิดที่ชวินมอบให้ มันทำให้เขากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอไปเสียแล้ว
หลายวันผ่านไป...วันครบกำหนดของการพนันเกมก็ใกล้เข้ามาถึงทุกที นี่อาจจะเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการทำให้แผนที่วางไว้จบลงซะที และจะได้บินไปเที่ยวยุโรปฟรี ๆ แบบไม่ต้องเสียเงิน
เตรียมขนหน้าแข้งร่วงได้เลย วาโย
วาโยเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มของชวิน เขาเป็นคนเอ่ยท้าพนันเกมนี้ขึ้นมา
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนปิดปลายภาค ชวินพามิ้นมากินข้าว ดูหนังที่ห้างชื่อดังแห่งหนึ่งหลังสอบเสร็จ ถือเป็นการผ่อนคลายให้รางวัลกับตัวเองที่อดทนอดหลับอดนอนอ่านหนังสือมาหลายคืน
“อร่อย วินกินไหม”
มิ้นเอ่ยปากชวนชวินระหว่างนั่งรอหน้าโรงหนัง รอเวลาโรงหนังเปิด มิ้นนั่งกินชานมไข่มุกเจ้าเปิดใหม่ที่มีคนรอต่อแถวยาวเหยียด ที่ใครต่อใครพูดกันปากต่อปากว่าอร่อย มันก็อร่อยสมชื่อจริง ๆ
มิ้นยื่นชานมแก้วของตัวเองให้ชวิน เธอรอลุ้นสีหน้าของชวินกับชานมที่เขากำลังดูดและเคี้ยวไข่มุก
“เป็นไง อร่อยไหม”
“อืม หอมใบชาคล้าย ๆ กับของไต้หวันเลยนะ แต่กลิ่นอ่อนกว่านิดหน่อย แต่ก็ถือว่าอร่อย”
มิ้นยิ้มให้เขาเบา ๆ ก่อนจะยกชานมขึ้นมาดื่มต่อ ชวินมองดูท่าทางของมิ้น คอยมองดูเธออยู่ใกล้ ๆ อย่างเสน่หา
‘มิ้น มีเสน่ห์ตรงไหนนะ ดูยังไงก็จืดชืด’ ชวินนึกถึงคำพูดของเพื่อน
“ก็พวกนายมองเธอแค่ภายนอกนะสิ”
“หืม พูดอะไรเหรอ” มิ้นถามเมื่อจู่ ๆ ชวินพูดขึ้น
“เปล่า ผมแค่พูดคนเดียว เข้าไปกันเถอะใกล้จะได้เวลาแล้ว”
“อื้ม”
สำหรับชวิน มิ้นเป็นผู้หญิงที่มองและเวลาอยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อ อยู่ใกล้แล้วสบายใจ เขาสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ขี้เล่น ขี้แกล้ง มิ้นในบางครั้ง ไม่ต้องทำตัวให้สมบูรณ์แบบตลอดเวลา มีมุมเด็กน้อยหรือมุมโป๊ะ ๆ ให้เธอเห็น
ตัวมิ้นมีเสน่ห์อยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะรอยยิ้มและความจริงใจ เธอไม่เคยมองใครในแง่ร้ายเลยสักครั้ง มองทุกอย่างเป็นเรื่องที่ดี แม้แต่เรื่องน่าปวดหัวมากมายในแต่ละวัน
ชวินหลงรักมิ้นเข้าเสียแล้ว...เกมนี้จะเป็นยังไงต่อ
ระหว่างดูหนัง ชวินก็แอบมองเธออยู่ใกล้ ๆ เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็ก ๆ ของมิ้น เราสองคนจับมือกันแน่น มิ้นเอาแต่สนใจหนังที่กำลังดูไม่สนใจเขาเลย จนชวินนึกอยากจะแกล้งเธอ
ชวินโน้มตัวไปหอมแก้มมิ้นเบา ๆ หนึ่งฟอดใหญ่
มิ้นสบตาชวินนิ่ง ๆ ปากก็เคี้ยวป๊อปคอร์น
นี่เขาทำอะไร มันในโรงหนังนะ
มิ้นอมยิ้ม เขินอาย ทำตัวไม่ถูก เมื่อชวินทำแบบนั้นกับเธอ สายตาชวินเปลี่ยนไป จากแมวน้อยกลายเป็นเสือน้อย สายตาดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นสายตาของความรักและความต้องการอยากครอบครอง
ชวินใช้มืออีกข้างที่เหลืออยู่คว้าคอมิ้นเข้ามาใกล้ ๆ ก่อนจะกดจูบเธอเบา ๆ
อุณหภูมิร้อนผ่าว หัวใจเต้นระรัว ตึกตัก ๆ ๆ มือที่จับอยู่เริ่มมีเหงื่อออก จากอุณหภูมิเย็น ๆ ในโรงหนัง กลับร้อนขึ้นมาทันที สมาธิของทั้งสองคนไม่ได้จดจ่ออยู่ที่หนังอีกต่อไป
“วินรักมิ้นนะ”
ชวินพูดกระซิบข้างหู ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เธอจะทำยังไงดี ชวินทำแบบนี้ทำไม มิ้นได้แต่สบตาชวินอยู่อย่างนั้น
จนไม่รู้ว่าหนังจบไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ทั้งสองคนนั่งเงียบมาตลอดทาง ระหว่างที่ชวินพาเธอมาส่งที่หอพัก ไม่รู้ว่าจะเริ่มบทสนทนายังไงต่อดี มิ้นมองออกไปนอกรถ มองดูทิวทัศน์ยามค่ำคืน
“...”
“วินพูดจริง ๆ นะ”
มิ้นหันกลับมามองชวินที่เหลือบมองเธอก่อนจะจอดรถข้างทาง
“วินรักมิ้น” ชวินตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อมิ้นอีกครั้ง
ตึกตัก เสียงหัวใจมิ้นเต้นดัง เหมือนจะระเบิดออกมา
มิ้นเอามือจับแก้มตัวเอง ทำตัวไม่ถูก เขินอาย
คนอย่างชวิน กำลังสารภาพรักกับเธอ
“วิน แกล้งมิ้นรึเปล่า” มิ้นถามอย่างสงสัย
“พูดจริง ถ้าไม่ได้ชอบมิ้น คงไม่เข้ามาคุยด้วยหรอก”
“...”
“ไม่เชื่อเหรอ”
มิ้นส่ายหน้าไปมา
“ไม่คิดว่าวินจะชอบคนจืดชืดอย่างมิ้น คนสวย ๆ ในคณะเราก็มีเยอะแยะ”
“วินไม่ได้ชอบคนสวยสักหน่อย วินชอบมิ้นที่มิ้นเป็นมิ้นต่างหาก”
ชวินเอื้อมมือมาจับมือมิ้น และใช้มืออีกข้างลูบแก้มมิ้นเบา ๆ
“มิ้น คบกับวินได้ไหม”
สายตาวินแสดงออกมาถึงความอ่อนโยนและจริงใจ ไม่ละสายตาออกจากมิ้นสักวินาที
มิ้นลังเลอยู่สักพักก่อนจะตอบว่า...
“อืม ก็ได้ มิ้นก็รักวินเหมือนกัน”
ทันทีที่มิ้นตอบตกลง ชวินคว้ามิ้นเข้ามากอด บรรจงจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม
เขาดีใจที่ได้ยินคำตอบนั้น บรรยากาศ หมู่มวลในรถคลุกกรุ่นไปด้วยความรัก ความเสน่หา
“อืม เดี๋ยว มิ้นหายใจไม่ทัน หยุดก่อน” มิ้นผลักชวินออก
“ตอนจูบใครเขาให้กลั้นหายใจกันละ”
“ก็ไม่รู้นิ”
“จากนี้คงมีเรื่องต้องสอนอีกเยอะเลยสินะที่รัก” ชวินเอื้อมมือลูบหัวมิ้นเบา ๆ ก่อนจะขับรถออกไป ซึ่งสถานที่ต่อไปไม่ใช่หอพักของมิ้น แต่เป็นคอนโดของชวินต่างหาก
