ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
“แต่กิ่งจำได้ว่าตั้งแต่เกิดมา กิ่งไม่เคยมีน้องนะคะคุณพ่อ” เพราะคนที่บิดาบอกว่าเป็นน้องของเธอไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาเลยนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน ซ้ำยังไม่มีความยำเกรงกับคนรับใช้เก่าแก่ในบ้านของเธออีกด้วย และเพราะเหตุเธอจึงไม่เคยคิดจะรับขวัญนรีเป็นน้อง
“กิ่ง! ทำไมลูกพูดแบบนี้ล่ะ พ่อเคยบอกแล้วว่าถึงนรีจะไม่ใช่น้องแท้ๆ ของลูก แต่ลูกก็ต้องเป็นห่วงเป็นใยน้องบ้าง แล้วตอนนี้ทั้งพ่อทั้งผกาก็ไม่เป็นอันทำงานแล้ว เพราะเป็นห่วงนรี” คนเป็นพ่อบอกเสียงกร้าว นึกหงุดหงิดใจที่ลูกสาวคนโตไม่คิดจะช่วย ทั้งที่ตนมาขอร้องดีๆ
“ก็แล้วคุณพ่อกับผู้หญิงคนใหม่ทำอะไรกันอยู่เหรอคะถึงไม่ดูแลลูกรักของคุณพ่อให้ดี” เมธินีตอบกลับเสียงสั่นๆ ความรู้สึกน้อยใจและเสียใจถาโถมเข้าใส่ เพราะสุดท้ายแล้วบิดาก็ไม่ได้โทรมาเพราะคิดถึงเธอเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ท่านขาดการติดต่อกับเธอไปครึ่งปี ซึ่งตลอดเวลาครึ่งนั่นเธอก็โทรหาท่านตลอดแต่ไม่เคยได้คุยกับท่านสักครั้ง ที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านจะยุ่งอะไรนักหนาถึงกับรับโทรศัพท์จากเธอไม่ได้ ครั้นพอเธอแวะไปหาก็ไม่เคยได้พบ เพราะไป ทีไรคนใช้ในบ้านก็บอกคุณพ่อออกไปกับผกาสินี จนเธอเริ่มเหนื่อยเลยไม่คิดจะโทรหาหรือแวะไปหาอีกเลยตลอดหกเดือนที่ผ่านมา
“กิ่ง!” คนเป็นพ่อตวาดกลับใส่อย่างเหลืออด
“กิ่งไม่ใช่ตำรวจค่ะ คงช่วยเหลืออะไรคุณพ่อไม่ได้ แค่นี้นะคะคุณพ่อ” เมธินีตัดสายทิ้งทันที ก่อนที่น้ำตาจะไหลริน หวนคิดถึงภาพความสุขในวันเก่าๆ ยามที่มารดายังคงมีชีวิตอยู่ น้ำตาก็ยิ่งหลั่งริน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีใครบางคนจับจ้องมาที่เธอไม่วางตา
*********************
“เป็นไงบ้างคะคุณ ลูกสาวของคุณจะไปช่วยตามหา ยัยนรีหรือเปล่า” ผกาสินีถามด้วยเสียงร้อนรน แต่พอได้เห็น สีหน้าของผู้เป็นสามีก็พอจะเดาออกว่าลูกสาวของสามีคงไม่ช่วยแน่
“ยัยกิ่งไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ แกก็เลยไม่ช่วย ผมว่าเราไปแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหาลูกเถอะ ขืนรอให้ยัยนรีติดต่อกลับมาเองแบบนี้ คุณกับผมคงไม่เป็นอันทำอะไรกันแล้ว”
“ไม่ได้นะคะคุณ!” ผกาสินีร้องห้ามเสียงหลง เพราะตนไม่อยากให้เรื่องมันแพร่กระจายออกไปจนไปถึงหูนักข่าว ซึ่งคงได้งามหน้าแน่ ถ้ามีข่าวหลุดออกไปว่าลูกสาวเจ้าของตลาดใหญ่หนีออกจากบ้านไปกับผู้ชาย
“ทำไมล่ะผกา ก็ไหนคุณบอกเป็นห่วงลูก กลัวลูกจะได้รับอันตราย แล้วทำไมไม่ให้ผมโทรแจ้งตำรวจ แล้วนี่มันก็เข้าวันที่สองแล้วนะที่คุณติดต่อลูกไม่ได้ แล้วผมก็ไม่สบายใจด้วยที่เห็นคุณเครียด” คนเป็นสามีรั้งภรรยาเข้ามากอดปลอบ พร้อมทั้งคิดหาวิธีตามหาลูกเลี้ยงสาวให้พบเจอโดยเร็วก่อนจะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับขวัญนรี
“คือฉัน...ฉันไม่อยากเรื่องไปถึงหูนักข่าวค่ะ คุณคิดดูสิว่าถ้านักข่าวรู้ ยัยนรีจะเสียหายแค่ไหน ฉันว่าเรารอยัยนรีอีกสักวันก่อนดีกว่า แล้วถ้าภายในวันนี้ยัยนรียังไม่ติดต่อกลับมา ฉันจะให้คุณไปแจ้งตำรวจให้ช่วยตามหาลูกของเรานะคะ” ผกาสินีอ้อนเสียงหวาน พลางโอบกอดสามีอย่างเอาใจ เพราะเวลานี้ตนกำลังหวั่นใจว่าที่ลูกสาวหายไปนี่ก็คงจะหนีไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งกับ เพื่อนชายเป็นแน่
“ผมตามใจคุณ ถ้างั้นเราออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันเถอะ”
“ได้สิคะ ว่าแต่คุณบอกแม่บ้านเอาไว้แล้วเหรอคะว่าจะไม่กินอาหารที่บ้าน” เพราะเธอเสียดายเงินที่ต้องมาเสียค่าอาหาร ทั้งที่ตัวเธอและสามีไม่ได้อยู่กิน
“ผมไม่ได้บอก แต่คุณอย่าไปใส่ใจเลย ไปกันเถอะ” ธนัน อดีตพ่อม่ายเนื้อหอมที่ครองตัวเป็นโสดมาเป็นสิบๆ ปีโอบเอวภรรยาคนสวยออกไปขึ้นรถที่คนขับรถขับมาจอดรถสักระยะแล้ว โดยมีบรรดาคนรับใช้คอยมองดู
