ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
“คุณผู้ชายนี่ก็สนใจแต่คุณนรี ทีกับคุณกิ่งละไม่เคยดูดำดูดีเลย ตั้งแต่รับสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน ว่าแต่คุณนรีนี่ก็หายไปสองวันแล้วนะป้า แต่ฉันว่าฉันน่าจะสาปแช่งให้คุณนรีหายไปจากบ้านนี้ตลอดกาล คุณกิ่งจะได้กลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม”
“ถ้าไม่อยากโดนไล่ออก ก็สงบปากสงบคำซะบ้างเถอะนังอ่อน แล้วก็ จำเอาไว้ว่าเราเป็นแค่คนรับใช้ อย่าได้ไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของเจ้านายให้มันมากนัก” แต่ใช่ว่าตนไม่เห็นใจคุณเมธินี ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อคุณเมธินีตัดสินใจจะย้ายออกไปให้ได้ ส่วนสาเหตุ ก็คงเป็นเพราะอึดอัดใจที่จะต้องอยู่ร่วมบ้านกับแม่เลี้ยง
“ก็แล้วป้าแสนไม่คิดถึงคุณกิ่งเลยหรือไงล่ะ ดูสิเนี่ย ออกจากบ้านไปหลายปีแล้วนะป้า ฉันนี่อยากให้คุณกิ่งกลับมาจริงๆ คุณนรีจะได้ไม่ก้าวร้าวกับคนในบ้านไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะกับป้าแสน” เพราะทุกครั้งที่คุณขวัญนรีก้าวร้าวต่อป้าแสน เธอนี่ก็แทบจะบุกเข้าไปตบคุณขวัญนรีซะให้ได้ เวลาจิกหัวเรียกใช้ป้าแสน
“จะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมานังอ่อน ไปๆ ไปแยกย้ายกันทำงานได้แล้ว”
“ป้าก็เป็นแบบนี้ทุกทีเลย ฉันบ่นฉันว่าคุณนรีหน่อยไม่ได้เลยนะ อย่าบอกนะว่าป้าโดนคุณนรีทำของใส่เข้าให้แล้ว ถึงได้ชอบห้ามฉัน” อ่อน สาวใช้ วัยยี่สิบหกมองสำรวจผู้อาวุโสกว่า เพราะนึกสงสัยอยู่ว่าทำไมป้าแสนที่ตนนับถือถึงได้ชอบออกรับแทนคุณขวัญนรี
“แกนี่มันคิดอะไรเลอะเทอะจริงๆ เลยนะนังอ่อน”ป้าแสนส่ายหน้าเอือมระอากับความคิดของเด็กสาวคราวลูก แต่ก็ใช้ว่าจะไม่เหนื่อยหน่ายกับนิสัยของคุณขวัญนรีที่นับวันก็มีแต่จะก้าวร้าวมากขึ้นทุกๆ วัน แต่ตนจะไปทำอย่างไรได้ในเมื่อคุณธนันยังไม่ว่ากล่าวตักเตือนเลยสักครั้ง แล้วตนเป็นเพียงแม่บ้านจะไปตักเตือนอะไรได้ แต่จะให้ลาออกไปตนก็ทำไม่ได้ เพราะหวังจะให้คุณเมธินีกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ แล้วจะดูแลคุณหนูต่อ ตามที่เคยได้รับปากคุณนงนุชเอาไว้
“ก็แล้วป้าคอยห้ามฉันทำไมล่ะ เวลาฉันต่อว่าคุณนรี ในเมื่อป้าก็รู้จักนิสัยแท้จริงของคุณนรี”
“ฉันห้าม เพราะไม่อยากให้แกกับใครๆ ต้องออกไปหางานใหม่ทำยังไงล่ะ ไปๆ แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว อย่าให้เจ้านายต้องมาต่อว่าว่าทำงานไม่คุ้มเงินเดือน” ป้าแสนโบกมือไล่สาวใช้ที่ยืนกันหน้าสลอนให้รีบไปทำงาน
“โอ๊ยป้า พวกฉันเนี่ยทำงานคุ้มเงินเดือนยิ่งกว่าคุ้มซะอีกนะป้า” เพราะแต่วันทุกคนต้องหัวหมุนทุกครั้งยามที่คุณขวัญนรีเรียกใช้งาน ที่นับวันก็จะหยิบจับอะไรเองไม่ได้เลย
“ยังจะพูดมากอีกนังอ่อน” ป้าแสนเงื้อมือขึ้นสูง ส่วนอ่อนก็รีบวิ่งแจ้นหลบฉากไป จากนั้นป้าแสนก็เดินไปที่เปียโนตัวโปรดของคุณเมธินี แล้วก็หวนให้คิดถึงสมัยที่คุณหนูแสนน่ารักของบ้านนั่งเล่นเปียโน
‘ป้าคิดถึงคุณหนูเหลือเกิน กลับมาอยู่บ้านเถอะค่ะคุณหนูของป้า’
*********************
ที่ชายหาดในยามที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วสวยงามจนทำให้ดาราสาวที่กำลังทำให้ป้าแสนคิดถึงสุดหัวใจ ยืนมองความสวยงามของท้องทะเลจนเพลินและหลงลืมไปเลยว่าเธอต้องกลับไปอาบน้ำ แล้วจะได้ออกไปหาของอร่อยๆ กินกับผู้จัดการสาว ครั้นเมื่อเธอมองย้อนกลับไปทางเดิม ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเธอนั้นเดินออกมาไกลจากที่พักพอสมควร
“อ้าว! แบตหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะนี่ ป่านนี้พี่วาวาต้องบ่นแล้วแน่ๆ เลย” เสียงหวานบ่นเบาๆ หลังล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรบอกผู้จัดการสาวว่าเธอกำลังจะกลับ แต่เห็นทีคงจะโทรบอกไม่ได้แล้วเพราะหน้าจอดำสนิทไปแล้ว สองเท้าเล็กๆ จึงรีบเร่งเดินกลับไปที่พัก ทว่าขณะที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินตามมา
เมธินีเหลือบตาไปมองด้านข้างเพื่อดูท่าทีอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นเมื่อไม่เห็นพิรุธอะไร เธอก็รีบเร่งฝีเท้าเดินต่อ แต่ยิ่งเธอเดินเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ คนที่เธอเข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวก็เดินเร็วเช่นกัน เมื่อสถานการณ์ดูไม่ค่อยจะดีแล้ว จากที่เดินเร็วเธอก็เปลี่ยนเป็นวิ่งแต่ทว่าวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ แขนก็ถูกคว้าเอาไว้
“ปล่อยฉัน”
“สวยๆ อย่างนี้จะให้พวกพี่ปล่อยไปง่ายๆ ได้ไงล่ะ พี่ว่าเรามาเล่นสนุกกันสักเดี๋ยวดีกว่าไหมคนสวย” หนึ่งในสองคนนั่นพูดขึ้น
“ฉันไม่เล่นอะไรทั้งนั้น ปล่อยฉันนะ” เมธินีพยายามสะบัดแขนเพื่อให้หลุดจากมือเหนียวหนึบนั่น แต่ก็ไม่หลุดเสียที
