บทที่8.เหมาะจะเป็นผู้หญิงของตระกูลซิวีลิอาโน่.
หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนอนกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เธอรู้สึกเหมือนห่างเหินความรู้สึกนี้ไปนาน ไปรยากระชับวงแขนแน่นขึ้นและแนบหน้ากับความอบอุ่นที่ได้รับ
เอ๊ะ...เสียงอะไรหน่ะ
ไปรยาพยายามฟังเสียงที่ได้ยินเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหมือนหัวใจกำลังเต้น ตุ๊กตาหมีมีหัวใจด้วยเหรอ เปลือกตาของเธอกระตุกก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอไม่ได้นอนกอดตุ๊กตาหมีมาหลายปีตั้งแต่ตุ๊กตาตัวเก่าเปื่อยจนไม่สามารถเยียวยาได้อีกเธอไม่กล้าขอให้แม่ซื้อให้ใหม่เธอโตเกินกว่าจะขอตุ๊กตา หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ ปรับโฟกัสแล้วก็ต้องเพ่งมองสิ่งที่เธอกำลังกอดอยู่เธอนอนหนุนอยู่บนอกอุ่นและเสื้อเชิ้ตเปิดกระดุมที่มาของเสียงที่ได้ยินคือหัวใจของ
“ฝัน...ฝันเหรอ”
ไปรยาพึมพำเมื่อมองเห็นใบหน้าเจ้าของอกอุ่นที่เธอนอนหนุน แสงสว่างที่ลอดผ่านผ้าม่านทำให้เธอมองเห็นใบหน้าคมเข้มแบบหนุ่มยุโรปเปื้อนเคราบางๆ ผมยาวปรกบ่าเป็นลอนหยักศกสีน้ำตาลเข้มดวงตาปิดสนิททำให้เห็นขนตายาวเป็นแพ เธอยกมือขึ้นแตะใบหน้าเขาราวกับจะบอกว่านี่เป็นแค่ความฝัน
ฝันซิ...นี่ต้องเป็นความฝัน มันไม่ใช่เรื่องจริง เธอกำลังนอนกับผู้ชายแปลกหน้าได้ยังไง
“ว๊าย”
ไปรยาร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ มือของเธอก็ถูกรวบเพียงชั่วพริบตาเธอก็ถูกพลิกร่างลงอยู่ใต้ร่างใหญ่ ฟรานเชสโก้หรี่ตามองใบหน้าตื่นตระหนกของหญิงสาวแล้วยิ้มที่มุมปาก เขาโน้นลงมาใกล้ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ
“จะ จะ จะทำอะไรหน่ะ”
“ก็ทำเหมือนที่เธอกับฉันไงล่ะ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม
“ฉัน...ฉันไปทำอะไรคุณ”
“อะไรกันแค่ข้ามคืนก็ลืมแล้ว แบบนี้คงต้องทบทวนหน่อยแล้วมั้ง”
“!?!”
ไปรยาเบือนหน้าหนีทันทีที่เห็นว่าเขาโน้มหน้าลงมาใกล้แก้มเนียนถูกคางเปื้อนเครากดลงเบาๆ แต่เธอแทบอยากจะกรี๊ดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“หยุดนะไอ้คนลามก ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต”
ฟรานเชสโก้ชะงักแล้วปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ สมองเธอคนนี้ผิดปกติไปหรือเปล่านะ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนพูดกับเขาแบบนี้เลยสักครั้ง เขานั่งบนที่นอนแล้วชันเข่าขึ้นข้างหนึ่งเพื่อวางข้อศอกเพื่อที่จะได้วางข้อศอกรองรับใบหน้าลงบนฝ่ามือของตนเอง เขาจ้องมองหญิงสาวที่กระถดตัวขึ้นนั่งโดยไม่ลืมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายของตัวเอง
“คุณ...คุณทำอะไร คนฉวยโอกาส”
“ฉวยโอกาส ฉวยโอกาสจากอะไรล่ะ” เขาหัวเราะในลำคอ “คิดก่อนค่อยพูดอะไรแล้วกัน”
“คิดอะไร” ไปรยาถามเสียงสั่นรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นเขามีท่าทีสบายๆ แต่เธอกลับรู้สึกร้อนรน
ฟรานเชสโก้ลุกขึ้นยืนแล้วบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบตั้งใจจะงีบสักหน่อยแต่กลับหลับยาว น่าแปลกที่เขาหลับได้สนิททั้งที่ปกติเขาไม่ชอบให้มีคนมานอนเบียดนักหรอก เขาชื่นชมและนิยมความบันเทิงกับผู้หญิงบนเตียงนอนแต่เมื่อความสนุกหมดลงเขาก็ไม่ชอบให้ใครมานอนบนเตียงเดียวกับเขาถึงเช้าแบบนี้ แต่จะว่าไป ครั้งนี้เป็นเขาเองมิใช่หรือ ที่มานอนกับเธอก่อน เอ๊ะ...ไม่ถูกซิ นี่บ้านของเขาและเตียงนอนนี่ก็ของเขาด้วย เขาก็ย่อมมีสิทธิ์จะนอนที่นี่หรือที่ไหนก็ได้ในบ้านของเขา
ไปรยาผวาไปทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มเอื้อมมือมาใกล้ แต่เขากลับทำเพียงแค่ขยี้ผมเธอเบาๆ แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ขอไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน ถ้ายังไงลงไปเจอกันข้างล่างนะ”
เมื่อเห็นเขาเดินออกจากห้องไปแล้วเธอก็ยกมือขึ้นแตะศีรษะตัวเองอย่างงงๆ เขาทำเหมือนเก็บลูกแมวหลงทางมาอย่างไรก็ไม่รู้ ไปรยาหลับตาแล้วทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไปผับกับเพื่อนพริตตี้แล้วโดนดึงไปเต้นรำ เธอเจอเขาที่นั้นแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะซึ่งมีเพื่อนชายของเพื่อนที่ทำงานที่ตามมาสบทบทีหลัง หลังจากดื่มน้ำแล้วเธอก็รู้สึกแปลกๆ ร่างกายผ่าวร้อนและควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้ชายคนหนึ่งพยายามปลุกปล้ำเธอ แล้วเขาก็มาช่วย
ไปรยาก้มมองตัวเองเธอสวมเสื้อยืดตัวใหญ่และข้างในยังสวมบราเซียชุดเดิม เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเสื้อผ้าของตัวเองพับไว้อย่างเป็นระเบียง เธอลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเอง เธอไม่รู้ว่ากี่โมงแล้วแต่ข้างนอกสว่างแล้ว ไปรยารีบหอบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ นึกแปลกใจที่เขาไม่ใช่ห้องน้ำในห้องนอนตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็รีบถอดเสื้อยืดออกสำรวจร่างกายที่ไร้ร่องรอยบุบสลายแล้วจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเธอจะคิดว่าตัวเองจัดการตัวเองได้รวดเร็วแล้วแต่เมื่อเดินลงที่ชั้นล่างก็เห็นเขานั่งสบายๆ เอนหลังพิงโซฟาตัวใหญ่ ในมือมีกาแฟร้อนส่งกลิ่นหอมและอีกมือกำลังกดรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์จอมหึมาตรงหน้า
“กาแฟหรือโกโก้ดี” ชายหนุ่มเอ่ยถามทั้งที่ไม่ได้มองมางทางหญิงสาว “แต่ไม่มีอาหารเช้านะ ปกติผมไม่ค่อยกินอาหารเช้า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอเป็นน้ำเปล่าดีกว่า” เธอพูดขึ้นเบาๆ ทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหยิบขวดน้ำรินใส่แก้วส่งให้เธอ “ขอบคุณค่ะ”
“พูดคำนี้เป็นด้วยเหรอ”
ท่าทางยียวนของเขาทำให้ไปรยาชะงักไปนิดหนึ่ง แต่เมื่อเห็นแววตาทะเล้นของเขาแล้วก็ต้องเม้มปากแน่นเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวซึ่งเป็นบ้านสองชั้นดีไซด์เก๋ ชั้นล่างติดกระจกใสทำให้บ้านดูโล่งและโปร่งมองไปด้านนอกเห็นต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นและสระว่ายน้ำ แต่น่าแปลกใจที่เห็นเขาอยู่เพียงลำพัง
“คุณ เอ่อ”
“ผมฟรานเชสโก้ ซิวีลิอาโน่ นามสกุลผมยาวเรียกแค่ฟรานเชสโก้ก็พอ” เขาแนะนำตัวแต่สายตายังจับจ้องที่ช่องข่าวในโทรทัศน์ ครู่หนึ่งเขาก็หยิบสมุดมาจดอะไรสักอย่างท่าทางยุ่งๆ เหมือนเธอไม่มีตัวตนอย่างนั้นแหละ “โทษทีนะคุณไปรยา ผมกำลังเช็คตลาดหุ้นนิดหน่อยนะ”
“คุณรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ”
“ไปรยา พรภวิษย์ ชื่อตามบัตรประชาชน” เขาพยักเพยิดไปทางกระเป๋าสะพายของเธอ “ต้องขอโทษที่เปิดกระเป๋าของคุณแต่โทรศัพท์จากแม่ของคุณมันดังกวนใจมาก”
“แม่ฉัน...ตายแล้ว!” ไปรยาอุทานอย่างตกใจแล้วรีบไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู “คุณรับสายแม่ของฉันเหรอ”
ฟราสเชสโก้ส่ายหน้าไปมา “น้องสะใภ้ผมรับสายแล้วบอกว่าคุณติวหนังสือแล้วก็เพลียหลับไป”
“น้องสะใภ้” ไปรยาทำหน้างงแล้วอดมองไปรอบๆ ไม่ได้ แต่ก็เธอไม่เห็นใครอื่นนอกจากเธอกับเขาในบ้านสวยๆ หลังนี้
“เมื่อคืนผมให้น้องสะใภ้มาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ” เขาพูดแล้วเลื่อนโน้ตบุ๊คตรงหน้าเปิดหน้าต่างที่ต้องการขึ้นมา “ผมอยู่คนเดียว แล้วก็ไม่ชอบความวุ่นวาย จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกสัปดาห์ ในตู้เย็นนอกจากเบียร์แล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรนักเพราะปกติผมกินข้าวนอกบ้าน”
“ถ้าอย่างนั้น ฉัน...ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอกอดกระเป๋าแน่นแล้วลุกขึ้นแต่มือใหญ่ของฟรานเชสโก้คว้าเอวบางไว้ก่อนทำให้เธอเสียหลักนั่งลงบนตักของเขา “คุณ”
“ฟรานเชสโก้” เขาเติมให้ “จำชื่อผมไว้หน่อยอย่างน้อยผมก็ผู้มีพระคุณของคุณนะ”
ไปรยาเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรงด้วยความโกรธ เธอพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจก่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฝืนให้ปกติที่สุด “แล้วคุณจะเอายังไง ฉันก็ขอบคุณคุณไปแล้วนี่”
“ขอบคุณ” เขาเลิกคิ้วทำหน้างง “ขอบคุณแบบไหนล่ะ” “ก็” หญิงสาวอึกอักมือเรียวเล็กยันแผงอกเขาไว้เกรงเขาจะกอดรัดแรงขึ้น เธอขยุกขยิกอยากลุกจากตักของเขาแต่เขาทำหน้าตาเฉยและไม่ยอมปล่อย “คุณจะเอายังไงก็ว่ามาซิ”
“ก็ไม่เอายังแค่อยากได้” ฟรานเชสโก้หยุดพูดให้เธอคิดต่อแล้วใช้นิ้วชี้ที่แก้มตัวเอง
ไปรยาหน้าแดงจัดด้วยความโกรธยกมือฟาดใส่ซีกแก้มที่เขายื่นให้อย่างแรงดังเพี๊ยะ ขนาดเธอเองก็ยังตกใจที่ทำแบบนั้นได้
“แย่แล้ว”
“อะไรแย่” เขาพูดอย่างโมโหจับข้อมือเธอกระชากมาใกล้แล้วกอดรัดเธอแน่น “นี่คือวิธีตอบแทนคนที่ช่วยชีวิตคุณเหรอ”
“ก็...” ไปรยาแทบลืมหายใจเมื่ออยู่ใกล้ชิดเขามากขนาดนี้ “คุณนั้นแหละผิดที่มาทำทะลึ่งกับฉัน อุ๊บ”
ฟรานเชสโก้กดริมฝีปากทาบทับกับริมฝีปากของไปรยาที่กำลังเผยอขึ้นเพื่อจะโต้ตอบเขา มือเรียวเล็กพยายามจะผลักเขาออกแต่เขากลับบดจูบหนักหน่วงแสดงถึงอำนาจที่เหนือกว่าและไร้ความปราณีแล้วผละเธออกราวกับเธอเป็นดอกไม้ที่ไร้คุณค่า
“ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอวดดีกับผมเหมือนคุณ สักวันคุณจะต้องมาอ้อนวอนแทบเท้าผม จำไว้ไปรยา”
คำประกาศของเขาทำให้หญิงสาวหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ เขาปล่อยเธอเป็นอิสระแต่เธอกลับยืนจ้องตาเขาอย่างเคืองโกรธ
“ผู้หญิงไม่ใช่เครื่องมือรองรับอารมณ์ใคร และฉันจะไม่มีวันขอโทษหรือขอบคุณในสิ่งที่คุณทำเด็ดขาด”
ไปรยาคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเองได้แล้วรีบวิ่งออกจากบ้านไปโดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มที่ยืนด้านหลังจะมีปฏิกิริยายังไง เธอหวังเพียงนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอเขาอีก
ฟรานเชสโก้สบถอย่างหัวเสียแล้วก็รู้สึกเค็มคาวในปากจนต้องยกนิ้วโป้งขึ้นแตะที่ริมฝีปาก เขาเห็นเลือดติดปลายนิ้วเล็กน้อยแล้วก็หัวเราะในลำคอ อุตส่าห์คิดจะทำให้หญิงสาวประทับใจเสียหน่อยกลับมาเสียเลือดแบบนี้จนได้ เขาหมุนตัวเดินไปหยิบ iPad Tablet บันทึกข้อมูล
“การแต่งตัวให้ห้าคะแนนต้องซื้อเสื้อผ้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ ความสวยให้แปดคะแนน จับแต่งหน้าทำผมหน่อยก็โอเครูปร่างสัดส่วน...หน้าตาเด็กๆ แต่หุ่นกินขาดเอาไปเก้าคะแนน ส่วนนิสัยปากไม่ตรงกับใจ ชอบทำกล้าทั้งที่ข้างในก็หวั่นๆ”
ฟรานเชสโก้ยิ้มอย่างพอใจก็ดีแล้วเพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงอ่อนแอ แบบนี้แหละที่เหมาะจะเป็นผู้หญิงของตระกูลซิวีลิอาโน่.
