บทที่ 4 คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด
“เฮ้อ…คืนนี้ต้องนอนด้วยกันจริงเหรอ” ควินตันมองคนตัวเล็กบนเตียงหลับสนิทโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เขาไม่อยากเชื่อเลยคนอย่างเธอหลับง่ายดายทั้งที่มีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย แต่อย่างว่าแหละเธอคงคุ้นเคยกับเพศตรงข้ามเยอะถึงได้ไม่ระแวงเขาสักนิด
“ทำไมฉันต้องแต่งงานกับเธอด้วย” ยิ่งคิดยิ่งหัวเสีย สุดท้ายจำใจแบกร่างกำยำล้มตัวนอนข้างแก้มหวาน ทันทีที่ควินตันแนบแผ่นหลังชิดเตียงนอน คนตัวเล็กกลิ้งมาโอบกอดเขาแน่นราวกับรอคอยจังหวะนี้มาเนิ่นนาน
“นี่เธอปล่อยฉัน” พยายามแกะแขนขาวเนียนไปพ้นแต่ไม่สำเร็จ เธอยิ่งรัดแน่นกว่าเดิม มิหนำซ้ำยกขาเรียวคล้องขาแกร่งของเขา
“อื้อ อย่าดิ้นสิคะ” เสียงหวานกล่าวอย่างงัวเงีย
“อย่ามากอดฉันแบบนี้”
“ฮึก อย่าทิ้งหวานไปนะคะ” คนหลับพูดเสียงสั่นเครือพร้อมหลั่งน้ำตาไหลข้างแก้มนุ่มนิ่มทำเอาควินตันหยุดชะงัก
“เป็นอะไรของเธอ” เขายื่นมือใหญ่แตะแก้มนวลทำให้ได้รู้ว่าเธอร้องไห้ ควินตันไม่ได้ตอบสนองสิ่งใดยอมปล่อยเธอไว้อย่างนั้นแล้วตัวเองนอนหลับเนื่องจากเหนื่อยทั้งวัน
ในเช้าวันใหม่แก้มหวานปรือตาขึ้นชักช้า ดวงตากลมโตปะทะกับแผ่งอกกำยำและเมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องสะดุ้ง ไม่รีรอช้าเขยิบออกห่างพร้อมลุกขึ้นนั่งก้มหน้าอย่างคนสำนึกผิด
“คุณควินตัน”
“ไหงเพิ่งรู้ตัวแล้วเหรอว่านอนกอดฉันทั้งคืน” ว่าพลางเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง เขานั่งหันหลังให้เธอ
“หวานขอโทษค่ะ”
“นี่จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะอนุญาตให้เธอแตะต้องตัวฉัน หลังจากนี้อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ค่ะ”
“รีบเก็บของให้เรียบร้อยอีกหนึ่งชั่วโมงลงไปเช็คเอ้าท์กัน”
“ค่ะ”
“พูดเป็นแค่นั้นเหรอ” เอี้ยวคอมองคนตัวเล็ก จากนั้นเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่เหลียวหลังมองคนบนเตียงซึ่งนั่งทำหน้ามึนงงกับคำพูด
“ทำอะไรก็ผิดไปหมดเลย” อดไม่ได้จะบ่นพึมพำกับตัวเอง แค่เธอตัดสินใจแต่งงานกับเขาถึงขั้นอคติขนาดนี้เลย
“ช่างมันเถอะ” แก้มหวานสลัดความคิดออกจากศีรษะทิ้งแล้วย่างกรายไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย ขืนชักช้ามีหวังคงโดนควินตันหาเรื่องตำหนิอีกแน่
ทั้งสองคนออกจากโรงแรมช่วงเวลาเกือบสิบโมงเช้า ก่อนมุ่งหน้าสู่เรือนหอที่ขอบฟ้ามารดาของชายหนุ่มเป็นคนจัดการให้ทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แบบ
“เธอ”
“คะ” แก้มหวานปรายตามองคนข้างกายที่เอาแต่เรียกตนเองด้วยสรรพนามเช่นนั้นไม่ยอมเรียกชื่อสักทีทำเอาเธอหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ทำอะไรไม่ได้
“รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับเธอ”
“รู้ค่ะ” ตอบเสียงอ่อน
“งั้นก็ดี”
“เอ่อ คุณควินตันจะให้หวานนอนห้องไหนคะ”
“ตามใจเลยแต่ห้องขวามือริมสุดเป็นห้องฉัน” เขาชี้นิ้วยาวไปยังห้องดังกล่าวให้เธอดู
“อ๋อค่ะ”
“อีกอย่างนะที่นี่ไม่มีแม่บ้าน เธอต้องเป็นคนทำงานบ้านเองทุกอย่างไม่มีข้อยกเว้น” ควินตันหันไปมองคนตัวเล็ก เขาอยากจะรู้นักเธอจะรู้สึกยังไงที่ต้องทำงานบ้านเองทั้งหมด ดีไม่ดีอาจหนีไปก่อนก็ได้แต่แบบนั้นแหละที่ต้องการ
“ได้ค่ะ หวานทำได้” สำหรับเธอแค่นี้สบายมาก งานพวกนี้เธอทำตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นไม่มีอะไรยากเกินกว่าความสามารถตัวเอง
“อวดดี” เอ่ยเสียงแผ่วแต่ดังพอให้เธอได้ยินเต็มสองหู
“เอ่อ คุณควินตันคะ หวานขอกลับไปเอาของที่บ้านได้ไหม” เธออึดอัดเกินกว่าจะยืนสนทนากับเขาอีกต่อไป เลยหาทางออกให้กับตัวเอง
“อืม จะไปไหนก็ไปฉันไม่สนใจเธอหรอก แต่ช่วงเย็นมีนัดทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่บ้านใหญ่รีบกลับมาให้ทันละกัน เราจะไปพร้อมกันฉันไม่อยากโดนคุณแม่ตำหนิเรื่องเธอ”
“ค่ะ”
“ส่วนเรื่องหย่าไว้มาคุยกันใหม่ งั้นฉันขึ้นไปพักผ่อนก่อนละกัน”
“หย่าเหรอ” แก้มหวานมองตามแผ่นหลังกว้างกำลังเดินขึ้นบันไดกระทั่งลับหาย
การแต่งงานครั้งนี้ระหว่างเธอและเขาแม้ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เธอจะยื้อเวลาให้นานที่สุดตามคำขอร้องของขอบฟ้าอยากให้เขาเลิกจมปลักเรื่องราวในอดีต
“ขอโทษนะคะคุณควินตันแต่หวานจำเป็น” ความจริงเธอไม่ได้คิดจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาตลอดไป เพียงแค่รอเวลาและโอกาสเหมาะสมเท่านั้นแล้วจะหย่าให้
รถหรูแล่นจอดหน้าคฤหาสน์หลังงดงาม ร่างสูงใหญ่ของควินตันก้าวลงจากรถและเดินฉับเข้าข้างในอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจคอยคนตัวเล็กกำลังเดินตามไม่ทัน
“เดินเร็วจัง” แก้มหวานถอนหายใจเฮือกหนึ่ง รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม
หญิงสาวเข้ามาในห้องอาหาร ทุกสายตามองเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะควินตันจ้องเขม็งแบบไม่พึงพอใจในพฤติกรรม
“ชักช้า! ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนาน”
“ขอโทษค่ะ” หลุบสายตาลงต่ำมองพื้นห้องอย่างสำนึกผิดในถ้อยคำ
“ทำไมต้องดุน้องด้วยควิน” ขอบฟ้ามองลูกชายอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่ควินตันเข้ามาถึงก่อนแก้มหวานไม่กี่นาที
“นั่นสิควิน ดุน้องทำไม” การ์เลตผู้เป็นพ่อกล่าวเสริม
“มานั่งสิจะยืนอีกนานไหม” ควินตันไม่สนใจคำพูดบุพการี เขาหันไปแขวะใส่ภรรยานิตินัย
“ค่ะ ๆ” แก้มหวานแทบจะย่างเท้าไปนั่งไม่ทันเมื่อเจอสายตาดุดัน
“เอาละกินข้าวกันดีกว่า” การ์เลตตัดบท
“แล้วเฮียกับเดหลีล่ะครับ” ควินตันพูดพลางกวาดสายตามองทั่วห้องอาหารซึ่งไม่เห็นพี่ชายกับพี่สะใภ้
“เดหลีไม่ค่อยสบายเฮียต้องอยู่ดูแล ช่วงท้องก็แบบนี้แหละ” ขอบฟ้าตอบคำถามลูกชายคนเล็ก
“ครับ” ควินตันไม่ได้ถามต่อ ตักอาหารตรงหน้าใส่จาน
“แล้วควินล่ะ เมื่อไรจะมีหลานให้แม่กับพ่อสักที เฮียเรากำลังจะมีคนที่สองแล้วนะ”
“…” ควินตันไม่ตอบคำถามมารดา เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และกินอาหารในจานต่ออย่างเอร็ดอร่อย ขอบฟ้ามองลูกชายพร้อมปรายตามองสามีซึ่งการ์เลตเพียงแค่พยักหน้าบ่งบอกให้รับรู้ว่าปล่อยไปก่อนอย่าเพิ่งบังคับ
“หนูหวานกินอันนี้สิ” เมื่อลูกชายเมินเฉยจึงหันมาสนใจลูกสะใภ้
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” เธอบอกอย่างเกรงใจ การที่ขอบฟ้าดูแลเอาใจใส่มักจะทำให้คิดถึงมารดาผู้ล่วงลับ เพราะฉะนั้นเธอไม่สามารถทำให้ท่านเสียใจได้
“ควินตักอันนั้นให้น้องหน่อยสิ ของโปรดหนูหวาน”
“ตักเองสิ มือก็มีเหมือนกัน” ปรายตามองแก้มหวานทำเอาคนโดนต่อว่าหน้าถอดสี
“ควินตัน!!”
“คุณ” การ์เลตสะกิดแขนภรรยาเพื่อต้องการให้ระงับอารมณ์โทสะ
“แม่เหนื่อยจะพูดกับลูกแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ หวานตักเองได้”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารสร้างความอึดอัดแก่แก้มหวานเล็กน้อย เนื่องจากระหว่างรับประทานอาหารหัวข้อสนทนามักจะเกี่ยวกับตัวเธอ ควินตันมองเธออย่างคาดโทษทุกครั้งที่โดนแม่ตำหนิเรื่องตนเอง
“หนูหวานกินเสร็จแล้วใช่ไหม ขึ้นไปบนห้องกับแม่หน่อย”
“ค่ะ” แก้มหวานไม่พูดอะไรมากมาย หญิงสาวเดินตามหลังขอบฟ้าขึ้นไปบนห้องนอน
“มานั่งข้างแม่สิ หนูหวาน” ขอบฟ้าตบพื้นที่ว่างข้างตัวเอง
“คุณแม่มีอะไรกับหวานหรือเปล่าคะ” เธอยอมเดินไปนั่งข้างหญิงวัยกลางคน
“ถ้าพี่เขาทำอะไรให้หนูไม่ชอบใจอดทนหน่อยนะลูก เมื่อก่อนพี่เขาไม่ใช่คนแบบนี้ก็ตั้งแต่…” ขอบฟ้าเว้นประโยคพลางชำเลืองมองดวงหน้าสวยหวาน
“ถ้าคุณแม่ลำบากใจไม่ต้องเล่าก็ได้ หวานเข้าใจค่ะ” เผยยิ้มอ่อนแก่ผู้มีพระคุณ
“ขอบใจนะหนูหวาน” กุมมือสาวรุ่นลูกอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ เธออยากมีลูกสาวแต่ดันได้ลูกชายจึงรักและเอ็นดูลูกสาวเพื่อนสนิทคนนี้มาก “แม่มีอะไรจะให้ด้วย”
“อะไรเหรอคะ” แก้มหวานมองหญิงวัยกลางคนเดินไปเปิดตู้เซฟและหยิบบางอย่างออกมาเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงนำมายื่นให้เธอ
“แม่ให้”
“อะไรเหรอคะ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เธอมองของในมือตัวเองด้วยความสงสัย
“เปิดดูสิ”
แก้มหวานเปิดกล่องชักช้าและต้องเบิกตากว้าง เพราะข้างในกล่องเป็นชุดเครื่องเพชร
“แม่ให้หนูหวาน”
“ให้หวานทำไมคะ หวานไม่เอาค่ะ” เธอยื่นกล่องให้ขอบฟ้าแต่อีกฝ่ายดันคืนมา
“อย่าปฏิเสธถือว่าเป็นของขวัญแต่งงานให้หนูหวาน”
“แต่นี่มันมากไป” เธอกลัวควินตันจะต่อว่าเรื่องเธอหวังสมบัติอีกทั้งเกรงใจหญิงวัยกลางคนเปลืองเงินเยอะแยะเพราะตนเอง คราวก่อนเรื่องชุดแต่งงานเธอเลือกแบบราคาถูกแต่ขอบฟ้าเปลี่ยนใหม่หมด แถมเลือกที่ดีที่สุดให้และยังราคาแพงอีกต่างหาก
“คิดมาก แค่นี้ยังน้อยไปกับการที่หนูหวานยอมเสียสละแต่งงานกับควิน”
“แต่…”
“อย่าปฏิเสธ” ส่ายหน้าไปมา
“ก็ได้ค่ะ” ตอบเสียงแผ่วเบา เธอคงทำอะไรมากไม่ได้สินะจำใจต้องรับชุดเครื่องเพชรนั้น
