บท
ตั้งค่า

3 งานที่แสนหนักของเขา

3

งานที่แสนหนักของเขา

ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดถูกยื่นมาตรงหน้า ทำให้คนที่กำลังร้องไห้หยุดนิ่ง ตรีชวาเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นใครน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมาอีกครั้ง ดีแลนด์ทรุดตัวลงนั่งข้างคนตัวเล็ก เอื้อมมือไปจับมือของเธอไว้ ก่อนที่จะบีบมันเบาๆ อย่างพี่ให้กำลังใจน้อง

“โดนพี่แดนดุมาใช่ไหม”

ตรีชวาไม่ได้โต้ตอบออกมาเป็นคำพูด ทำเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น

“อย่าไปสนใจเลยนะ ถึงพี่แดนจะดุและพูดจาไม่ค่อยเข้าหูคนมากนัก แต่ลึกๆ แล้วพี่แดนเป็นคนดี”

“คุณดาเนียลไม่ชอบตรีเอามากๆ” ตรีชวาพูดออกมาด้วยความน้อยใจ ผู้ชายคนนั้นไม่เคยมองเธอในด้านที่ดีเลยด้วยซ้ำ

“ไม่เอาน่าตรี อย่าร้องไห้สิ พี่ไม่ชอบเลยเวลาที่ตรีร้องไห้ วันนี้ตรีสวยมาก ดังนั้นอย่าให้น้ำตามาบดบังความสวยของตัวเองสิ”

“ตรีไม่ได้เรื่องเลยนะคะ ร้องไห้ทำไมก็ไม่รู้” ตรีชวาเช็ดน้ำตาของตัวเองช้าๆ รู้สึกดีขึ้นกับคำให้กำลังใจของดีแลนด์

“ใครจะทนปากของฮาเดสผสมแฟรงเกนสไตน์ได้จริงไหม แต่ถึงจะปากจัดไปหน่อย ถ้าลองคิดตามในสิ่งที่พี่แดนบอก มันก็อาจจะมีเรื่องดีก็ได้ พี่เองยังเคยถูกพี่แดนต่อว่าจนเกือบจะมีเรื่องกัน แต่พอมาคิดดูดีๆ มันก็จริงอย่างที่เขาพูด” ดีแลนด์พยายามปลอบ

“เขาปากร้ายขึ้นมากกว่าเดิม” ตรีชวาฟ้องต่อ

“เป็นธรรมดา จุ้นจ้านมากขึ้นด้วย” ดีแลนด์สำทับ ก่อนจะเอ่ยต่ออีกว่า “เช็ดน้ำตาซะ แล้วกลับเข้าไปในงานกับพี่นะ”

“พี่เดฟไม่กลัวสาวๆ จะเข้าใจผิดเรื่องตรีเหรอคะ” คำพูดของดาเนียลทำให้ตรีชวาใช้ความคิดมากขึ้น และหาช่องทางเพื่อไม่ให้มีคนเข้าใจผิดอีก

“ทำไมต้องกลัว ตรีเป็นน้องสาวของพี่นะ พี่ชายย่อมต้องดูแลน้องสาวไม่ใช่เหรอ”

“แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย” ตรีชวาค่อยมีแรงลุกขึ้นกลับเข้าไปในงานต่อ หัวใจของเธอเริ่มชินกับคำว่า ‘พี่ชายน้องสาว’ ระหว่างตนกับดีแลนด์แล้ว มันควรเป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล

คุณหมอปากจัดที่ตอนนี้กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนหลับตาอยู่ที่โซฟารับแขกในห้องทำงานทำให้ตรีชวารู้สึกเป็นห่วง วันนี้มีเคสผ่าตัดใหญ่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า กว่าจะเรียบร้อยก็กินเวลานานถึงห้าชั่วโมง

เท่าที่รู้ดาเนียลยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ดื่มเพียงโกโก้ร้อนที่เธอชงให้เพียงแก้วเดียวเท่านั้น ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะพูดจาไม่น่าฟังเท่าไร แต่พอเห็นเขาทำงานหนักขนาดนี้ตรีชวาก็รู้สึกสงสาร

“ผ้าเย็นค่ะ” เสียงหวานๆ ของตรีชวาทำให้คุณหมอหนุ่มลืมตาขึ้น

“ขอบใจ” เขารับผ้าเย็นจากเธอมาเช็ดหน้า

“ดิฉันสั่งอาหารมาไว้ให้แล้ว คุณหมอจะกินเลยไหมคะ”

“ก็ดี” ดาเนียลขยับตัวลุกขึ้นเพื่อเตรียมกินอาหาร เขายังมีภารกิจอีกมากมายในวันี้ที่ต้องทำให้สำเร็จ

“วันนี้เป็นอาหารง่ายๆ นะคะ แค่สปาเกตตีมีตบอลกับน้ำผลไม้เท่านั้น” ตรีชวาวางถาดอาหารตรงหน้า

“แค่นี้ก็พอแล้ว ว่าแต่ทำไมมีแค่ชุดเดียว เธอไม่กินหรือไง ลืมหรือเปล่าว่าเธอต้องกินอาหารกลางวันกับฉันทุกมื้อ”

“ดิฉันทราบค่ะ ไม่ได้ลืม เพียงแต่ว่านำส่วนของคุณหมอมาให้ก่อนของตัวเอง” ตรีชวาบอกแล้วกลับออกไปหยิบถาดอาหารของตนมานั่งกินพร้อมกับเขา ดาเนียลสบายใจที่เห็นเธอนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนตามที่ตกลงกันไว้

“คุณหมอกินน้อยจัง ไม่อร่อยหรือคะ” เลขาฯ คนสวยถามเมื่อเห็นว่าอาหารในจานดาเนียลพร่องไปนิดเดียว

“อร่อยดี แต่ไม่หิวเท่าไร เหลือมากขนาดนี้จะทิ้งก็น่าเสียดาย แต่เท่าที่ฉันจำได้ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอกินอาหารเหลือ”

“คุณทราบหรือคะ” ตรีชวาย้อนถามด้วยความแปลกใจ เขารู้เรื่องของเธอด้วยหรือนี่

“ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กนะ จะว่าไปเห็นมาตั้งแต่เกิดด้วยซ้ำ ทำไมจะไม่รู้”

“ถ้าคุณกินไม่หมดเอามาให้ฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะกินมันเอง” ตรีชวาอาสากินให้หมดเอง เรื่องกินเธอถนัดอยู่แล้ว

“กินหมดเหรอ” ดาเนียลถามย้ำให้แน่ใจ

“หมดค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ

“ถ้าเธอกินจุขนาดนี้ ต้องหาเวลาไปออกกำลังกายบ้างแล้วนะ”

“ดิฉันออกกำลังกายทุกวันค่ะ”

“ก็ดี การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ”

“ตอนบ่ายสองคุณหมอมีผ่าตัดอีกเคสนะคะ จากนั้นห้าโมงเย็นต้องไปสอนต่อที่มหาวิทยาลัย” ตรีชวาทบทวนเรื่องงานวันนี้อีกครั้ง

“ขอบใจที่เตือน เย็นนี้เธอว่างไหม”

“มีอะไรคะ”

“ตอบว่าว่างหรือไม่ ไม่ควรถามย้อน” บรรยายกาศดีๆ เมื่อครู่สะดุดลง เพราะคำถามเชิงตำหนิของคุณหมอหน้าหล่อนี่แหละ ทำให้ตรีชวาพูดยั่วไปอีก

“ดิฉันต้องถามเพราะอยากรู้ค่ะ”

“อยากจะให้ขับรถให้หน่อย” ดาเนียลบอกตามตรง

“ความจริงคุณหมอน่าจะหาคนขับรถสักคนนะคะ”

“ฉันมีเธอเป็นเลขาฯ นะ ทำไมต้องหาคนขับรถ เลขาฯ ก็ขับรถให้ได้เหมือนกัน”

“การขับรถให้เจ้านาย ก็เป็นงานหนึ่งที่เลขาฯ ต้องทำอย่างนั้นสินะ” ตรีชวาย้อนถามอีกครั้ง

“ใช่ เธอกินข้าวต่อไปแล้วกัน ฉันขอพักสายตาสักครู่” ว่าแล้วดาเนียลก็ลุกกลับไปที่โซฟาตัวเดิม

“คุณหมอมีห้องนอน ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้องนั้น” ตรีชวารีบบอก เพราะรู้ว่าเขามีห้องชุดส่วนตัวที่ซ่อนอยู่หลังห้องทำงาน แล้วทำไมจึงไม่ไปพักผ่อนที่นั่น

“นอนบนโซฟานี่แหละ ฉันแค่พักสายตาไม่ได้หลับจริงๆ เสียหน่อย” ดาเนียลตัดบทสั้นๆ แล้วเอนตัวลงบนโซฟาทันที

ส่วนตรีชวากินอาหารกลางวันต่อจนหมดเกลี้ยง หันกลับไปอีกทีก็เห็นดาเนียลหลับเป็นจริงเป็นจัง สังเกตได้จากจังหวะการหายใจเข้าออกตรงหน้าอกนั่นเอง

ความหวังดีของตรีชวาคือไปหาผ้าห่มผืนเล็ก ซึ่งก็หยิบมาจากห้องของเขานั่นแหละมาห่มให้ อุณหภูมิในห้องเย็นพอสมควร การที่ดาเนียลนอนกอดอกก็แสดงว่าหนาว ดังนั้นเธอจึงปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ แล้วกลับออกไปเตรียมทำงานของตัวเองต่อ

ดาเนียลไม่ได้หลับและรับรู้ทุกการกระทำของเลขาฯ สาว เขาลืมตามองผ้าห่มที่คลุมอยู่บนตัวด้วยความรู้สึกดี และยิ้มอย่างสบายใจเมื่อคิดถึงหน้าคนที่ทำให้

ดาเนียลรับแก้วเครื่องดื่มที่ตรีชวาส่งมาให้และดื่มมันอย่างไม่รีบร้อนนัก รสชาติของมันทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเดิม ความเหนื่อยล้าจากการงานผ่อนคลายลงไปบ้าง

“ขอบใจนะ นึกอย่างไรถึงซื้อมาให้” ดาเนียลกล่าวคำขอบคุณ เมื่อตรีชวาบริการเครื่องดื่มถูกใจให้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้เรียบร้อยแล้ว

“ก็เห็นคุณหมอดูเหนื่อยๆ บางทีเครื่องดื่มเย็นๆ น่าจะช่วยให้สดชื่นขึ้นบ้าง” ตรีชวาพูดตามตรงและเริ่มขับรถออกไปช้าๆ

“เธอนี่ก็ใส่ใจคนรอบข้างดีนะ” คราวนี้เขาชมจากใจจริง

“เรื่องแค่นี้ไม่ได้หนักหนาอะไรนี่คะ อีกอย่างน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป” ก็แค่ช่วยให้คุณหมอหน้าบึ้งอารมณ์ดีขึ้นก็เท่านั้น ตรีชวาคิดว่าอย่างน้อยมันดีกว่าการจะต้องไปไหนกับคนหน้าบึ้ง ท่าทางเหมือนคนไม่รู้ร้อนรู้หนาวตลอดเวลา

“การใส่ใจคนรอบข้างเป็นเรื่องสำคัญ และน้ำใจเป็นสิ่งที่หายากในสมัยนี้”

“วันนี้คุณหมออารมณ์ดีใช่ไหมคะ ถึงได้พูดชมดิฉันไม่หยุด” ตรีชวาเองก็พลอยอารมณ์ดีไปด้วย อย่างน้อยวันนี้ดาเนียลก็ไม่หน้าบึ้ง หรือพูดจาไม่ดีใส่ พอได้ของถูกใจก็ปากหวานขึ้นมาเชียว

“ใครทำดีฉันก็ต้องชมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว และถ้าเธอทำเรื่องไม่ถูกฉันก็ต้องว่า ต้องเตือน ไม่ให้ถลำลึกลงไปอีก”

“ขอบคุณค่ะ” เลขาฯ สาวถอนหายใจเบาๆ เขาก็ยังเหมือนเดิม

“เป็นการขอบคุณแบบขอไปที” สีหน้าอารมณ์ดีเมื่อครู่กลายเป็นบึ้งตึงทันที

“จะต้องให้กราบแทบอกเลยไหมคะ” หญิงสาวประชด อารมณ์ดีๆ เริ่มจะกลายเป็นน่าเบื่อหน่ายแล้ว

“ทำได้ไหมล่ะ” ดาเนียลชักหมั่นไส้เหมือนกัน

“ตอนนี้ทำไม่ได้ค่ะ ขับรถอยู่” ตรีชวายียวนกลับไป แล้วเอ่ยต่อว่า “คุณหมอควรจะพักนะคะ วันนี้ทำงานตั้งแต่เช้าแล้วป่านนี้เพิ่งเสร็จพักสายตาก็ได้ค่ะ มันจะดีมากกว่าพูดให้เมื่อยปากอีก” สีหน้าคนพูดสะใจเล็กน้อยเมื่อได้เหน็บคนที่ตนกำลังหมั่นไส้

“เธอนี่มันเหลือทนจริงๆ นะ พูดจากวนประสาทได้แทบจะทุกคำ ถามหน่อยนะ พูดดีๆ หวานๆ ไม่เป็นหรืออย่างไร”

“เป็นค่ะ แต่ว่าดิฉันไม่ได้กวนประสาทอะไรคุณหมอนี่คะ ก็แค่พูดตามที่คิดเท่านั้น”

“พอเห็นฉันยอมเข้าหน่อยก็เอาใหญ่นะตรีชวา” ดาเนียลเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน นับหนึ่งถึงร้อยในใจ เอาเถอะ ตรีชวา สักวันจะได้รู้ว่าการกวนประสาทแบบนี้จะมีผลอย่างไร

“เมื่อวานคุณอรอินทราโทรศัพท์มาขอนัดค่ะ คุณหมอจะว่าอย่างไรคะ” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องคุย

“ไม่รับ” เขาตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด

“จะดีหรือคะ คุณอรอินทราพยายามที่จะขอนัดมาตลอด การที่ถูกคุณปฏิเสธทุกครั้งมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ อีกอย่างคุณหมอไม่ลองรับนัดสักครั้งเหรอคะ” ว่าไปตรีชวาก็สงสารอรอินทราเหมือนกัน เพียรพยายามเท่าไรก็ดูจะไม่เป็นผลสักครั้ง

“การรับนัดด้วยความไม่เต็มใจต่างหากเป็นเรื่องที่น่าเกลียด ฉันแสดงออกให้ผู้หญิงคนนั้นเห็นชัดแล้วว่าไม่ต้องการที่จะสานสัมพันธ์ด้วย” คนพูดเอ่ยอย่างชัดเจน

“มันเป็นการทำร้ายจิตใจกันเกินไปหรือเปล่าคะ ทำไมคุณหมอไม่ลองคบหากับเธอดูล่ะคะ อีกอย่างคุณสองคนก็เป็นคู่หมายที่ผู้ใหญ่ต้องการให้เกี่ยวข้องกัน หรือไม่บางทีถ้าไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้นี่คะ”

“เธอนี่มันโลกสวยจริงๆ ถ้าขืนฉันทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าฉันให้ความหวังอรอินทราไปวันๆ ทั้งที่ฉันมีคำตอบอยู่แล้วในใจ”

“อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้กันก่อนตัดสินใจไงคะ” ตรีชวายังไม่ละความพยายาม

“ความหวังทำให้คนเพ้อฝัน ฉันจะไม่มีทางให้ความหวังกับใคร ถ้าสิ่งที่หวังนั้นไม่มีทางที่จะเป็นจริง” ใบหน้าคุณหมอหนุ่มเข้มขึ้นมาอีกครั้ง

“ใจร้ายจัง” ตรีชวารำพึงกับตัวเองเบาๆ

“การให้ความหวังทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่คนอื่นหวังจากเราไม่มีทางเป็นจริงได้ นั่นต่างหากที่เรียกว่าใจร้าย”

ดาเนียลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อเห็นเธอยังเงียบและขับรถด้วยความตั้งใจจึงเอ่ยต่อไปว่า

“ความหวังทำให้มีความสุข และมันจะยิ่งเพิ่มความปรารถนาให้กับคนคนนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วถ้าเราให้ความหวังไปวันๆ เพียงเพื่อรักษาคำว่ามารยาท แต่ท้ายที่สุดหวังนั้นก็ไม่มีวันเป็นจริงได้ แบบนี้เป็นการทำร้ายความรู้สึกอย่างไม่น่าให้อภัย และไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับคนที่มีเป้าหมายชัดเจนแล้วว่ามีคำตอบสำหรับเรื่องที่จะต้องจัดการ”

“แต่คุณอรอินทราสวยนะคะ การศึกษาดี ชาติตระกูลก็ดี เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเลย” ตรีชวาเข้าใจสิ่งที่ดาเนียลพูด แต่ก็อดเสียดายผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบอย่างอรอินทราไม่ได้

“แต่อรอินทราก็มีมุมร้าย นิสัยไม่ดี ชอบดูถูกคน พูดจากับคนอื่นไม่ดี ทำตัวเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน แต่ลับหลังคนละเรื่องเลย” ดาเนียลวิจารณ์ว่าที่คู่หมายอย่างสนุกปาก

“คุณหมอปากร้ายที่สุด เป็นผู้ชายที่ปากร้ายมาก” ถึงแม้จะเห็นด้วย แต่ตรีชวาก็อดรู้สึกสงสารหญิงสาวไม่ได้ ยิ่งได้ยินดาเนียลวิจารณ์อรอินทราขนาดนี้ก็ยิ่งสงสาร ใครจะมาตรฐานดีผ่านคุณสมบัติของเขาได้ง่ายๆ นะ

“ฉันเป็นเพียงแค่คนพูดตรง ไม่ชอบการเสแสร้งแกล้งทำและพูดในสิ่งที่เห็นกับตา เธอจะมากล่าวหาฉันแบบนี้ไม่ถูก หรือว่าเป็นคนสมัยใหม่ที่รับไม่ได้เวลามีคนมาพูดตรงๆ ด้วย ทั้งที่มันเป็นความจริง” ดาเนียลร่ายยาว

“บางทีเราก็ต้องรักษาน้ำใจคนอื่นบ้างนะคะ” ตรีชวาย้อนเสียงอ่อย

“การรักษาน้ำใจเป็นเรื่องที่ดี และสิ่งที่ฉันทำก็ถือเป็นการรักษาน้ำใจอรอินทรามากพอแล้ว”

“แต่คุณท่านจะผิดหวังนะคะ”

“เรื่องนี้พ่อกับแม่คงเข้าใจ พวกท่านไม่เข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันหรอก เพราะรู้ว่าฉันมีคำตอบที่ดีในเรื่องนี้ และเธอเองก็เหมือนกัน สิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือคอยกันพวกผู้หญิงเหล่านี้อย่าให้เข้ามาใกล้ฉัน ไม่เช่นนั้นฉันจะถือว่าเธอบกพร่องในหน้าที่”

ตายละหวา ตรีชวาแอบถอนหายใจเบาๆ หน้าที่นี้ไม่อยากทำเลยสักนิด ช่างน่าหนักใจเหลือเกิน นี่จะต้องทำอย่างไรดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel