ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
“ผมต้องการพาอีวานไปอยู่ด้วยกันที่รัสเซีย คุณดูแลแกมานานพอแล้ว ต่อไปนี้จะเป็นหน้าที่ของผมและครอบครัวเอง”
“หมายความว่าอย่างไร” ดวงตาคู่หวานวาววับเป็นประกายด้วยความโกรธ มือบางกำแน่นเข้าหากัน
“หมายความว่าผมจะมารับอีวานไปเลี้ยงเองไง” นิโคลัสย้ำสิ่งที่ตนเองต้องการอีกครั้ง
“ไม่มีทาง คุณไม่มีสิทธิ์” พุดแก้วพูดเสียงดังฟังชัด
“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ เขาเป็นลูกชายของน้องชายผม ลุงย่อมมีสิทธิ์ในตัวหลาน” ชายหนุ่มเถียง
“อย่ามาอ้างสิทธิ์ ถ้าคุณจะพูดเรื่องนี้ทำไมไม่พูดตั้งแต่พี่มิคาเอลเครื่องบินตกล่ะ ตอนนั้นคุณมัวทำอะไรอยู่ จู่ๆ จะมาบอกว่าจะพาหลานฉันไป ไม่มีทาง” พุดแก้วยืนกรานคำเดิมหนักแน่นเช่นกัน
“ถ้าผมรู้แต่แรกผมมาตั้งนานแล้ว แต่นี่ผมเพิ่งรู้ และการที่ผมจะพาทายาทของน้องชายตัวเองกลับเข้าสู่ครอบครัว มันผิดตรงไหนไม่ทราบ”
“คุณมัวทำอะไรอยู่ทำไมถึงเพิ่งรู้ล่ะ เรื่องของน้องแท้ๆ คุณกลับไม่สนใจ แถมมาบอกว่าเพิ่งรู้ห่วยแตกมาก” เธอต่อว่าเขาแบบไม่เกรงใจ
“คุณควรพูดจากับผมให้มันสุภาพ ไม่ใช่มาด่ากันฉอดๆ แบบนี้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า และอย่ามากล่าวหาว่าผมไม่สนใจน้องชาย ผมสนใจเขามากกว่าที่คุณคิด” นิโคลัสตำหนิอย่างไม่เกรงใจ
“มารยาทที่ดีก็ควรจะใช้กับคนที่ดี” พุดแก้วจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
“ถ้าคุณไม่ยอม เราคงต้องฟ้องร้องขึ้นศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้ตัดสินว่าใครเหมาะสมที่จะเลี้ยงดูอีวานให้ดี” เขาขู่
“คุณไม่มีทางชนะหรอก” หญิงสาวพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“รู้ได้อย่างไรว่าคุณจะชนะ ผมว่าเราน่าจะตกลงกันดีๆ ได้นะ เพราะถ้าเรื่องนี้ถึงศาลคุณจะไม่ได้อะไรเลย” นิโคลัสพูดอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า
“ตกลงอะไรของคุณ” พุดแก้วไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูด
“ผมจะให้เงินคุณก้อนหนึ่งเพื่อเป็นค่าตอบแทนที่คุณดูแลอีวานมาตลอด เพราะต่อจากนี้ไปผมจะเป็นคนดูแลอีวานเอง ถ้าคุณตกลงผมก็พร้อมที่จะเซ็นเช็คให้ตอนนี้เลย หรือถ้าอยากได้เงินสดผมก็พร้อมที่จะจ่ายให้” เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาของนิโคลัสอยู่แล้ว ขอแค่พุดแก้วพูดมาคำเดียวว่าเท่าไหร่ เขาก็พร้อมทันที
“เก็บเงินของคุณไว้ซื้อโลงศพตัวเองเถอะ หรือไม่ก็เอาไว้ยัดปากตอนตายจะดีกว่า” พุดแก้วสวนกลับอย่างไม่รั้งรอ
“มันจะมากไปแล้วนะ” นิโคลัสทั้งโกรธทั้งโมโหกับการโต้ตอบที่ดุเดือดของอีกฝ่าย
“ตอนแรกฉันคิดว่าคุณตั้งใจจะมาเยี่ยมหลานเฉยๆ ซึ่งฉันไม่คิดจะขัดขวางเลยแม้แต่น้อย แต่นี่คุณตั้งใจจะมาพรากแกไปจากฉัน ดังนั้นอย่าหวังเลยว่าคุณจะได้พบแกอีก” พุดแก้วประกาศกร้าว
“นี่คุณจะทำอะไร”
“ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องให้หลานของฉันมาพบมาเจอกับคนแบบคุณ”
“ผมว่าคุณควรคิดเรื่องข้อเสนอที่น่าสนใจของผมมากกว่านะ ชีวิตที่แสนสุขสบายไม่ต้องมีภาระรับผิดชอบ คุณควรจะเลือกมันมากกว่ามาเถียงผมฉอดๆ แบบนี้” นิโคลัสตะล่อมหวังให้เธอเปลี่ยนใจ
“ฉันไม่สน ไม่แม้แต่จะคิดด้วย” หญิงสาวสวนทันควันเหมือนกัน
“คุณน่าจะเห็นแก่อนาคตของอีวาน ถ้าหลานอยู่กับผมต้องได้รับความสุขสบายกว่าอยู่กับคุณแน่” นิโคลัสพยายามให้เหตุผล
“อยู่กับฉันก็สบายดี ฉันสามารถเลี้ยงดูอีวานได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินของคุณแม้แต่บาทเดียว”
“คุณเป็นแค่ครูสอนศิลปะการป้องกันตัวของโรงเรียนเอกชนเล็กๆ แล้วยังมีงานในไร่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะดูแลเด็กคนหนึ่งได้ดีพร้อม อีกอย่างถ้าคุณแต่งงานล่ะ หลานผมจะอยู่อย่างไร”
“แล้วถ้าหลานไปอยู่กับคุณมันจะดีหรือไง ฉันเคยได้ยินพี่มิคาเอลพูดว่าคุณมันเป็นพวกบ้างาน บ้าอำนาจ บ้ากาม ฉันไม่อยากให้อีวานต้องไปอยู่กับคนสารพัดบ้าแบบคุณ และคุณคงไม่มีเวลามาดูแลหลานแน่นอน ส่วนเรื่องแต่งงานคุณไม่ต้องห่วงฉันไม่แต่งงานกับใครง่ายๆ และคนที่ฉันจะแต่งด้วยต้องยอมรับอีวานได้”
“หมายความว่าคุณไม่ตกลง” นิโคลัสชักเริ่มรู้สึกว่าพุดแก้วพูดยากกว่าที่คิดมาก
“ใช่” หญิงสาวเชิดหน้าตอบเสียงดังฟังชัดอย่างไม่ลังเล
“ห้าสิบล้านแลกกับอีวาน” เขายื่นราคาครั้งแรก
“อีวานเป็นคนไม่ใช่สิ่งของ” พุดแก้วตอบกลับตาวาว
“หกสิบล้าน”
“ไม่”
“เจ็ดสิบล้าน”
“ไม่”
“แปดสิบล้าน”
“จะกี่ล้านฉันก็ไม่สน เป็นร้อยล้านฉันก็ไม่แคร์ เก็บเงินของคุณไว้เถอะ เวลาตายก็เอาเงินนี้ฝังไปกับคุณด้วย เงินไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้หรอกรู้ไว้ซะด้วย” พุดแก้วย้อนเสียงแข็ง
“เงินซื้อได้ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง” นิโคลัสย้ำอีกครั้ง
“ออกไปได้แล้ว” หญิงสาวไล่พยายามเก็บอารมณ์โกรธให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องเจอกันในศาล และถ้าคุณแพ้ละก็ ผมจะไม่มีวันให้คุณได้เจออีวานอีกเลย คอยดู” เขาขู่
“คนอย่างคุณมันบ้าเงินบ้าอำนาจจนเคยตัว ถ้าคุณฟ้องฉันก็พร้อมจะสู้ แล้วคอยดูว่าศาลจะตัดสินให้อีวานอยู่กับใคร ระหว่างน้าที่เลี้ยงมาทั้งชีวิตกับลุงที่บ้าอำนาจอย่างคุณ” พุดแก้วชักจะหมดความอดทนกับเขาแล้ว
“ผมให้โอกาสคุณแล้วนะ จำไว้ว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้หลานมาอยู่กับผม และคุณจะไม่ได้อะไรเลย” นิโคลัสประกาศศึกอย่างเป็นทางการ
“ออกไปได้แล้ว” พุดแก้วชี้ไปที่ประตูด้วยสีหน้าจริงจัง
“คอยดูแล้วกันว่า สิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง”
“ออกไปได้แล้ว” หญิงสาวไล่เขาเป็นครั้งที่สอง เพราะถ้าอยู่ต่อนานกว่านี้ ไม่แน่ว่าพุดแก้วอาจได้ทำร้ายร่างกายคนแน่ๆ
สิ่งที่นิโคลัสต้องการไม่ง่ายเลย วูฟล์รู้สึกเช่นนั้น ยิ่งได้พบกับอีวานด้วยแล้ว เขายิ่งมั่นใจว่าเจ้านายจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวแทนของน้องชายสุดที่รักคืนมา
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมรับข้อเสนอของฉัน แถมยังไล่ฉันอีก” นิโคลัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเหลือเกิน สีหน้าและท่าทางเอาจริงของพุดแก้วยังอยู่ในความทรงจำของเขา
“เธอคงรักหลานมากน่ะครับ” วูฟล์มองอย่างเข้าใจ แค่เห็นสิ่งที่สองน้าหลานแสดงความรักต่อกันแล้ว บอดี้การ์ดหนุ่มก็เข้าใจหัวอกคนเป็นน้าที่รับบทบาทแม่
“รักก็ต้องยอมให้หลานมากับฉันสิ อยู่กับฉันอีวานจะมีทุกอย่างที่ต้องการ” ยิ่งพูดนิโคลัสก็ยิ่งโมโห
“สองคนนั้นอยู่ด้วยกันมานานนะครับท่าน ก็ต้องผูกพันกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อีวานมาอยู่กับฉัน” นิโคลัสเอ่ยอย่างแน่วแน่
“ผมว่าสิ่งแรกที่ท่านควรจะทำมากที่สุดคือ ตีสนิททำความคุ้นเคยกับเด็กครับ” วูฟล์แนะนำ
“เรื่องนั้นฉันรู้ แค่เห็นหน้าและได้คุยกันฉันก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก อีวานหน้าเหมือนมิคาเอลมาก มากเสียจนรู้สึกว่าได้น้องชายตัวเองกลับมา” ปลายเสียงของนิโคลัสเครือเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงคนที่จากไป
“คุณอีวานเป็นเด็กที่น่ารักมากจริงๆ ครับ แค่ได้พูดคุยด้วยไม่กี่คำผมก็รักแกเสียแล้ว แต่ท่าทางจะติดคุณพุดแก้วมาก” วูฟล์ยอมรับเลยว่าตกหลุมรักเด็กชายอีกคน
“ถ้าอย่างนั้นต้องรีบทำคะแนน นายช่วยติดต่อทนายให้ฉันด้วย ลองปรึกษาดูซิว่าเรามีทางจะชนะคดีไหม ถ้าไม่เราต้องมีแผนสำรอง” ในหัวของนิโคลัสเต็มไปด้วยแผนการมากมายเพื่อที่จะได้ตัวอีวานมาอยู่ด้วย
“ครับ” วูฟล์รับคำและดูออกว่างานนี้เจ้านายเอาจริงแน่ คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นพุดแก้ว ชีวิตที่สงบของเธอคงจะเปลี่ยนไปนับจากนี้
สร้อยฟ้าและเดฟนั่งฟังสิ่งที่พุดแก้วเล่าแล้วรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจนัก เดฟมีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน ขณะที่สร้อยฟ้าก็รู้สึกไม่ต่างจากเพื่อนรัก
“น่าเกลียดมาก พี่เดฟให้สองคนนั้นออกไปจากรีสอร์ตของเราเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม” สร้อยฟ้าหันมาพูดกับสามีเสียงเครียด
“ทำอย่างนั้นไม่ได้ที่รัก จะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก” เดฟเตือนสติภรรยา
“แต่เขาจะมาหาเรื่องเพื่อนฉันนะคะ” สร้อยฟ้าอ้างเหตุผล
“ไม่เป็นไรหรอก สร้อย” พุดแก้วเอ่ยขึ้นด้วยความเกรงใจ
“แกจะยอมให้เขามาหาเรื่องเหรอ เจตนาเขาจะมาแย่งอีวานไปจากแกนะ” สร้อยฟ้าเอ่ย
“ฉันมั่นใจว่าเขาทำอะไรไม่ได้หรอก ต่อให้สู้กันในศาลเขาก็ไม่ชนะ” พุดแก้วพูดด้วยความมั่นใจ
“แกแน่ใจนะ” สร้อยฟ้าย้ำอีกครา
“พี่ว่าแก้วพูดถูกนะ อีวานอยู่กับเราตั้งแต่แรกเกิด อีกอย่างแก้วมีอาชีพที่จะเลี้ยงหลานได้สบาย พี่ว่าศาลต้องให้อีวานอยู่กับเรา” เดฟวิเคราะห์อย่างละเอียด สร้อยฟ้าฟังคำพูดของสามีแล้วคิดตาม อีกทั้งเชื่อมั่นในการตัดสินใจของเพื่อนจึงเงียบไปในที่สุด
ของเล่นเด็กนานาชนิด เสื้อผ้าราคาแพงมากมาย และรวมถึงอุปกรณ์การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กจำนวนมากถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าพุดแก้ว
“อะไรคะ” หญิงสาวถามอย่างสุภาพ พยายามรักษาอารมณ์ไว้ให้มากที่สุด
“ทั้งหมดนี้ของคุณอีวานครับ เจ้านายของผมต้องการให้หลานมีทุกอย่างที่เพียบพร้อม” วูฟล์ตอบด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“จะเล่นหมดเหรอคะมากมายขนาดนี้” พุดแก้วมองข้าวของพวกนี้ว่าเกินไปสำหรับหลานชายตัวน้อยเพียงคนเดียว
“เจ้านายของผมต้องการให้คุณอีวานมีพร้อมทุกอย่างครับ ท่านเกรงว่าคุณจะหาให้คุณอีวานได้ไม่มากพอเหมือนที่ท่านหาให้” วูฟล์พูดตามตรง พุดแก้วกำมือแน่นเมื่อรู้ความคิดของนิโคลัส
“เอากลับไปให้หมดค่ะ ฉันไม่ต้องการของพวกนี้ ของเล่นที่บ้านเราพอมีและมันก็เพียงพอต่อความต้องการของอีวาน ฉันไม่อยากให้เด็กมีของเล่นที่มากเกินไปเพราะมันจะฝึกนิสัยเบื่อง่ายไม่เห็นคุณค่าของที่มีอยู่” พุดแก้วเอ่ยเสียงเรียบ
“แต่เจ้านายของผมตั้งใจจะให้คุณอีวานนะครับ” วูฟล์เริ่มกังวลเมื่อหญิงสาวปฏิเสธไม่ยอมรับของเพราะถ้านิโคลัสรู้คงไม่ดีแน่
“ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ปกครองของอีวาน ฉันไม่รับของพวกนี้ค่ะ และถ้าเจ้านายของคุณอยากจะซื้อใจหลานชายละก็ เขาต้องใช้ใจซื้อ เจ้านายคุณอาจจะคุ้นเคยกับการประเคนสิ่งของเพื่อแลกกับความพอใจของคนอื่นๆ ที่เขาต้องการผลประโยชน์ แต่ไม่ใช่จากอีวานและฉัน”
“คุณพูดยาวมาก ผมจำไม่หมด” บอกตรงๆ ว่าวูฟล์ก็เริ่มจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เจ้านายของคุณอ่านภาษาอังกฤษได้ใช่ไหม แล้วอ่านภาษาไทยออกบ้างหรือเปล่า” พุดแก้วถามต่อ
“ท่านฟังพูดอ่านเขียนได้สี่ภาษาครับ และหนึ่งในนั้นคือภาษาไทย”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอฝากจดหมายไปให้หน่อยนะคะ” พุดแก้วตัดสินใจเขียนจดหมายหาคนต้นเรื่องทันที
“คุณจะไม่รับของพวกนี้จริงๆ หรือครับ ทำไมไม่ถามคุณอีวานก่อน” วูฟล์ถามอีกครั้งให้แน่ใจ
“อีวานเป็นหลานฉัน ฉันรู้จักนิสัยของหลานดี เขาอาจจะตื่นเต้นที่เห็นของเล่นมากมายก็จริง แต่เขาจะฟังที่ฉันพูดค่ะ” พุดแก้วพูดอย่างมั่นใจ
“คุณกำลังจะให้เจ้านายของผมผิดหวัง และนั่นจะเป็นการทำให้ท่านโกรธ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับคุณเลยนะครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มเตือน
“บางทีเจ้านายของคุณคงจะเจอแต่คนที่ยอมให้เขามากเกินไป งานนี้คงต้องรู้จักคำว่าผิดหวังบ้างแล้วค่ะ”
