บทนำ เล่ห์ร้ายอุบายพิศวาส (2)
คำถามนี้ทำให้คิ้วสีน้ำตาลเข้มของช่างภาพหนุ่มยกขึ้นสูง ก่อนหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“อันนี้ต้องดูครับ ว่ามีใครสนใจอยากร่วมงานกับผมบ้าง เพราะผมโฟกัสที่เรื่องงานอย่างเดียว ผมอยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด ทั้งกับตัวผมเอง และตัวนางแบบก็เท่านั้น”
“ลามก!”
ผู้มีทัศนคติไม่ดีรวมทั้งโดนบังคับให้มาฟังการแถลงข่าวไม่วายบริภาษแล้วย่นจมูกใส่ผู้ให้สัมภาษณ์อย่างทนไม่ไหว ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วฝ่าวงล้อมนักข่าวออกจากห้องบอลรูมใหญ่โดยไม่ฟังเสียงให้สัมภาษณ์หวาน ๆ ของบรรดานางแบบสาวที่วิ่งโร่เข้าใส่จนแทบจะเปลื้องผ้าเป็นแบบให้ช่างภาพลามกคนนี้ถ่ายภาพ
พอลงมาจากห้องบอลรูมจัดแถลงข่าวสู่ความเงียบสงบชั้นล่างแล้ว ‘นิทรา บุษบก’ จึงหรี่ตาลงขณะมองเปลวแดดร้อนระอุในช่วงบ่ายสองนอกตัวอาคาร จากนั้นจึงถอนหายใจอีกเฮือกกับสิ่งที่เธอต้องมาเผชิญหน้าในวันนี้
เพราะ ‘นายอารัญ อรัญวงศ์’ ช่างภาพซังกะบ้วยนั่นเชียว ถึงทำให้เธอโดนคุณป้าเพชรธาราบังคับให้แปลงโฉมเดินทางมาดูงานเปิดตัวของนิตยสาร ‘เลิฟอิมเมจ’ ที่ลักขโมยไอเดียภาพถ่ายไปจากป้าของเธอ ซ้ำยังฉกนางแบบชื่อดังที่ป้าของเธอปั้นมาเองกับมือไปเปิดตัวบนปกนิตยสารของตัวเองได้อย่างหน้าด้าน ๆ แต่สิ่งนั้นไม่ทำให้นิทราหงุดหงิดเท่ากับการฝ่าเปลวแดดแผดเผาที่เหมือนจะทำให้เธอละลายติดถนนนั่นหรอก
“เฮ้อ ป้าเพชรนะป้าเพชร เจ็บแค้นเคืองโกรธอะไรทางนู้น ก็ไม่น่าใจร้ายใช้ให้หลานสาวคนสวยมาตกระกำลำบากแบบนี้เล๊ย”
นิทราเท้าสะเอวบางบ่นกระปอดกระแปดแล้วเป่าลมออกจากปาก จากนั้นจึงหยิบน้ำดื่มในย่ามกระสอบปักดอกไม้ซึ่งแขวนลูกกระพรวนแมวออกมาดื่มดับกระหาย พวงแก้มสีน้ำผึ้งอ่อนมีกระจุดน้อย ๆ นั้นเริ่มซับเลือดขึ้นมาเมื่อเธอออกมาสัมผัสอุณหภูมินอกตัวอาคารซึ่งปราศจากแอร์เย็นฉ่ำเหมือนเมื่อครู่
จากนั้นเธอจึงมายืนเท้าสะเอวโบกรถแท็กซี่กลับคอนโด ทว่ารถแท็กซี่คันแล้วคันเล่าที่ติดป้ายว่าว่างกลับปฏิเสธรับเธอขึ้นรถซะนี่
“ชิ แค่แต่งตัวสวยนิดเดียวทำเป็นไม่รับ ไม่ง้อก็ได้” งึมงำอย่างหงุดหงิดเสร็จนิทราจึงกลับเข้ามาในตัวอาคารอีกครั้ง และคราวนี้เธอต้องเจอหน้ากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดิมที่ไม่เป็นมิตรกับเธอตั้งแต่เหยียบเข้ามาในตัวอาคาร ซ้ำในตอนนี้ยังมีเพื่อนร่วมงานแต่งกายใบแบบเดียวกันที่ส่งสายตาไม่พอใจมาให้เธออีก
“มองอะไรยะ?” หญิงสาวเท้าสะเอวแว้ดเสียงทำหน้าดุใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคน แต่ชายหนุ่มผู้นั้นกลับหัวเราะ ราวเห็นเป็นเรื่องตลกขบขันที่ได้แกล้งเธอ
“ยังไม่กลับโรงพยาบาลอีกเหรอครับคุณหนู?”
“พวกนายนั่นล่ะที่ต้องกลับ” นิทราทำปากขมุบขมิบแล้วนั่งยอง ๆ เอามือเท้าคางอยู่หน้าประตูใหญ่ดื้อ ๆ เพื่อรับกระไอแอร์เย็น ๆ จากตัวอาคาร และนั่นก็ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องตรงดิ่งมาหาเธออีก
“นั่งตรงนี้ไม่ได้นะครับคุณผู้หญิง”
“ทำไมนั่งไม่ได้คะ?” เพราะลูกหงุดหงิดบวกเข้ากับอากาศที่ร้อนจัดจึงทำให้หญิงสาวถามออกไปเช่นนั้น ทั้ง ๆ ที่ตัวตนของเธอจริง ๆ ไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องโต้เถียงเลยสักนิด
“ก็... ไม่เหมาะสม”
“ทำไมถึงไม่เหมาะสมคะ ฉันถูกเชิญตัวให้มางานเปิดแถลงข่าวนิตยสารเลิฟอิมเมจนะ” หญิงสาวบอกเสียงห้วน ติดจะหงุดหงิดด้วยซ้ำที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามราวีเธอตั้งแต่ก่อนเข้างาน จนกระทั่งกลับออกจากงานแบบนี้
“ก็ไม่เหมาะสมครับ”
“ไม่เหมาะสมยังไงคะ?”
“เพราะคุณผู้หญิง เออ แต่งกายไม่สุภาพครับ”
นิทราก้มมองเสื้อผ้าของตัวเอง ก็แค่ใส่เสื้อผ้าฝ้ายพื้นเมืองสีขาวไม่มีแขน กับกระโปรงปักลายยาวคลุมเข่า กับสะพายกระเป๋าปักลายดอกไม้มีลูกกระพรวนแมวออกแนวเด็กศิลป์ ไม่มีโป๊ ไม่มีโชว์ขาอ่อน
“ไม่สุภาพยังไงคะ?” นิทราหาวิธีต้อนจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนด้วยคำตอบ “งั้นฉันจะฟ้องผู้จัดการของที่นี่ ว่าพวกคุณทั้งสองไม่ให้ความสำคัญกับลูกค้าของโรงแรม”
โดนขู่ไปอย่างนั้นทั้งสองผู้รักษาความปลอดภัยจึงยอมปล่อยให้เธอนั่งจ๋องอยู่อย่างนั้น พอขยับตัวลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมปัดฝุ่นออกจากก้นนิทราจึงได้ยินเสียงจอแจตามมา กองทัพเหยี่ยวข่าวบันเทิงกำลังรุมทึ้งนายอารัญกันยกใหญ่ เหมือนกับว่าการให้สัมภาษณ์เมื่อครู่ยังไม่จุใจ นิทราจึงปรายตาไปยังชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่สง่าทุกอิริยาบถ ซ้ำยังมีความหล่อที่สะดุดตา ไม่สิ… ต้องบอกว่า ‘สวย’ สะดุดตาถึงจะถูก
ดวงตาสวยหลังกรอบแว่นแฟชั่นสีชาหรี่ลง พร้อม ๆ กับคำพูดอันน่าหมั่นไส้ของเขาที่ยังแว่วเข้ามาในหู
‘ทุกครั้งที่ผมได้กดชัตเตอร์ ผมรู้สึกว่าผมได้ ‘จูบ’พวกเธอครับ’
นิทรายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเรื่อง ‘สนุก’ ก็แวบเข้ามาในหัวโดยไม่ต้องเสียเวลาไตร่ตรอง
