บทที่ 1 นางแบบจำเป็น (1)

กระนั้น ‘นิทรา บุษบก’ เจ้าของผลงานชิ้นโบแดงสร้างข่าวฉาวดังกระฉ่อนจนกลบข่าวการเปิดตัวนิตยสารเลิฟอิมเมจซะหมดคงเอาแต่คลื่นไส้อาเจียนอยู่ในห้องน้ำ ซ้ำยังเอาน้ำยาบ้วนปากมากลั้วปากกลั้วคอซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนมั่นใจว่าช่องปากของตัวเองปราศจากกลิ่นแล้วนั่นล่ะจึงหันมาปรามคนแซว

“หยุดแซวได้แล้ว แหวะ” ปรามเสร็จนิทราจึงหันไปโก่งตัวอาเจียนอีกครั้ง

“อะไร แค่จูบเดียวถึงกับท้องเลยเหรอวะ” กุสุมาไม่วายแหย่เล่นอีก แต่คนถูกล้อก็เอาแต่โก่งตัวคลื่นไส้

“เฮ้ย ไหวรึเปล่ายัยบุษบก?” กุสุมาซึ่งมีอุปนิสัยไปทางผู้ชายตะโกนถามเพื่อนสาว ที่มักจะเรียกชื่อนามสกุลมากกว่าชื่อจริงอย่างห่วงใย พร้อมดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้สีขาวซึ่งเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ ในคอนโดหรู ตรงดิ่งเข้าไปเท้าสะเอวมองสภาพนิทราซึ่งยังอยู่ในห้องน้ำ

“แหม แค่จุมพิตเดียวถึงกับไปไม่เป็นเลยเหรอวะ?”

“แกเลิกพูดถึงเกย์นั่นซะทีได้ไหม ฉันนึกถึงแล้วอยากจะอ้วก” นิทราหันมาแว้ดเสียงใส่คนเย้าแหย่นิดหนึ่งก่อนเดินอ่อนระโหยโรยแรงกลับออกจากห้องน้ำ แล้วจ้องเพื่อนรักตาเขียวโดยคาดแว่นสายตาไว้บนศีรษะทำหน้าที่ต่างที่คาดผม

แต่สีหน้าจริงจังของนิทราในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมชุดนอนแขนตุ๊กตายาวถึงข้อมือดูรุ่มร่ามเหมือนคนบ้านั้นกลับเรียกเสียงหัวเราะของกุสุมาจนท้องคัดท้องแข็ง มาหงายหลังตึงลงบนที่นอนแสนนุ่มราวกับที่นอนของเจ้าหญิง

“ฮาจี้ว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

คนถูกหัวเราะเท้าสะเอวขมวดคิ้วหนาและดำเป็นปื้นที่ไม่ได้โกนให้เป็นระเบียบเข้าหากัน “ขำอะไรมิทราบ?”

“ก็ขำแกไง ไม่น่าเชื่อเลยนะข่าวสาวนิรนามบุกเดี่ยวไปจุมพิตช่างภาพหนุ่มจะดังกระฉ่อนจนกลบกระแสข่าวดารานางแบบซุปเปอร์สตาร์ทั้งสามจนเงียบกริบ ยัยบุษบกเอ๋ย แกเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ เลยว่ะ” กุสุมาคงระเบิดเสียงหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหล แล้วคว้าหนังสือพิมพ์บันเทิงที่มีภาพนิทราขึ้นมาดูอีกครั้ง

“แกดูหนังสือพิมพ์ฉบับนี้สิ ยิ่งหนักเลย พาดหัวข่าวว่าหญิงสาวนิรนามสติไม่ดี โอ๊ย หมดกันนายอารัญ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

“ยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก ผู้หญิงในข่าวที่แกพูดถึงเป็นฉันนะยะ” นิทราชักหงุดหงิดเสียงหัวเราะ เพราะความหมั่นไส้บวกกับความคึกคะนองโดยแท้ ถึงทำให้เธอนึกสนุกเข้าไปจูบผู้ชายคนนั้นเข้า

ไม่สิ... ไม่ใช่ผู้ชาย หนุ่มรูปงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้างดงามดั่งเจ้าชายในเทพนิยายตะวันตกนั่น แต่เป็นเกย์ต่างหาก! และเธอก็ไม่ทันฉุกคิดด้วยว่าผลจากการกระทำนี้ จะทำให้เกิดเป็นข่าวใหญ่โตสั่นสะเทือนวงการได้ซะขนาดนี้

เมื่อคืนข่าวบันเทิงหลายช่องเอาภาพถ่ายของเธอกับนายอารัญมาเผยแพร่ในช่วงซุบซิบคนดัง มีบางช่องที่ตั้งทีมงานออกตามหาหญิงสาวปริศนาในภาพว่าเป็นใคร มีการนำภาพดาราสาวหลายคนมาเปรียบเทียบ ซ้ำบางรายการยังมีการล่ารางวัลจากภาพถ่าย

นี่เองที่ทำให้นิทราไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ และผลจากการพักผ่อนไม่เพียงพอนี้เองจึงทำให้เธอเวียนหัวคลื่นไส้ เพราะปกติเธอต้องการเวลาหลับพักผ่อนมากกว่าคนปกติทั่วไปสองถึงสามชั่วโมง ยิ่งตอนเช้า ๆ แบบนี้ยัยกุสุมาเพื่อนรักตัวแสบหยิบข่าวหน้าหนังสือพิมพ์มาแหย่เธอเล่นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเครียดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมากนัก

“ก็จริงนี่นา ฉันจำได้แกเพิ่งมาบ่นให้ฟังหยกๆ ว่าไม่อยากไปงานเปิดตัวของนายอารัญ แล้วนึกยังไงถึงบุกเดี่ยวไปสร้างวีรกรรมให้นายอารัญซะงามหน้าจนตกเป็นข่าวใหญ่แบบนี้ขึ้นมาวะ?”

“แค่หมั่นไส้นิดหน่อยเท่านั้น” หญิงสาวไหวไหล่พลางหรี่ตามองหน้าเพื่อนรักซึ่งสนิทสนมตั้งแต่เด็ก และยังเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด “ขืนแกยังไม่หุบปากจะโดนไปด้วยอีกคน” นิทราหันมาแยกเขี้ยวใส่ด้วยหน้าตาจริงจังกว่าเก่า

แต่คำห้ามปรามนั้นกลับไม่ได้ผล ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ คนเส้นตื้นอย่างกุสุมากลับหัวเราะคิกคักไม่หยุด จนนิทราต้องโดดขึ้นเตียงคร่อมร่างกุสุมาพร้อมยื่นมือไปบีบคอ แต่คนปล้ำกันมาตลอดอย่างกุสุมาซึ่งรู้กำลังกันและรู้จุดอ่อนของนิทราเป็นอย่างดีจึงลงมือจั๊กจี้เอวบางของนิทราทันที จนผู้ถูกคร่อมร่างหัวเราะท้องคัดท้องแข็งชักดิ้นชักงอกลิ้งตกลงจากเตียงนอนไม่เป็นท่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า หมดสภาพ ‘อาจิไซ *’เลยว่ะยัยบุษบก”

กุสุมาเอามือกุมท้องหัวเราะ เมื่อนิทรากลิ้งไปแผ่หลาด้วยท่าจิ้งจกตกเพดานข้างเตียง ทันควันนิทราจึงดีดตัวลุกขึ้นรีบคว้าตุ๊กตากระต่ายสีฟ้าซึ่งประดิษฐ์จากเศษผ้ามาฟาดใส่คนหัวเราะเยาะเป็นการแก้แค้นกลับ

“หยุดเลยนะ ฉันชื่อนิทรา ไม่ใช่อาจิไซ”

แม้นิทราจะทำหน้าจริงจัง แต่สีหน้านั้นก็ทำให้คนถูกดุอย่างกุสุมาหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีกว่าเดิม ซ้ำยังยื่นมือไปฉุดให้นิทราลุกขึ้นมานั่งพิงขอบเตียงนอนดี ๆ

“เอ่อ จริงว่ะ” กุสุมาเลื่อนตัวมานั่งบนพื้นพรมพิงหลังกับขอบเตียงเป็นเพื่อน พร้อมสะบัดเส้นผมซึ่งซอยจน