บทที่ 1.4 เทพบุตรร้อนรัก
“นี่มันอะไรกัน ผมให้เวลาคุณแค่สามวันนะ แล้วไหนล่ะนางแบบที่คุณว่า” ชายเลือดร้อนโวยวายพร้อมโยนเอกสารประวัตินางแบบในสังกัดนิวเจนเนอร์เรชั่นทิ้ง ทำเอาบรรดาเอเย่นทั้งชายหญิงตัวสั่นด้วยเกรงว่าจะตกงานกันเป็นแถวๆ
“ขะ ขอโทษครับคุณพสุธา ทางเราคัดเลือกนางแบบที่ดีที่สุดมาแล้วนะครับ”
“งั้นเหรอ...ที่ส่งมานี่ดีแล้วใช่ไหม๊...ห่วยแตกสิไม่ว่า”
“ไม่นะครับ ดูตัวจริงก่อนก็ได้ครับอาจจะสวยกว่าในรูปถ่าย”
“ปัง!” มือหนาตบโต๊ะทำงานเสียงอย่างไม่พอใจ
“คุณเห็นผมเป็นเด็กเมื่อวานซืนเหรอ...ที่จะดูไม่ออกว่าคนไหนดีไม่ดี”
“ปะ เปล่าครับ...คะ คือ”
“พอแล้วถ้าวันนี้ผมไม่ได้นางแบบมาล่ะก็ ผมจะเลิกจ้างบริษัทเอ็นจีเสียเลย” เอเย่นหันมองหน้ากันด้วยตระหนักดีว่านี่คือคำประกาสิตของคนเป็นลูกค้า
“ใจเย็นสิคะ” เสียงหวานๆดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างเพียวบางเดินเฉิดฉายทอดสายตามายังชายหนุ่ม เขาหันมองหรี่ตาพิจารณาสาวที่มาเยือนก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ
“นี่ไง...ถ้าเป็นคนนี้ยังพอให้อภัยได้”
“แค่ให้อภัยเหรอคะ น่าเสียใจจัง”
“ฮ่าๆ...ให้งานตลอดสามเดือนเลยเป็นยังไงครับ” เอเย่นหันสบตาหญิงสาวที่เข้ามา ความหวาดหวั่นทำให้หยดเหงื่อซึมทั่วใบหน้าทั้งสองคน
“คุณรดา...มาได้ยังไงครับ”
“เพราะฉันรู้ว่าคุณพสุธาคงไม่ถูกใจนางแบบพวกนั้นแน่ๆ...ฉันจะยอมเสียลูกค้ารายใหญ่ไปได้ยังไงจริงไหม๊คะ” ประโยคหลังมธุรดาจงใจหันไปยิ้มหวานปานน้ำผึ้งให้ชายหนุ่มที่นั่งมองเธอไม่ลดละสายตา
“ถูกต้องครับ...คุณ”
“มธุรดาคะ...เรียกรดาก็ได้” พสุธาพยักหน้าพึงพอใจในความสวยงามของหญิงสาว
“ครับคุณรดา...คุณจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้บริษัทของผมหรือเปล่า”
“อ่อ...แน่นอนค่ะ งานดีแบบนี้ รดาไม่ยอมพลาดแน่ๆ”
“ฮ่าๆ...ดีจริงๆงั้นเดี๋ยวผมจะให้เลขาจัดเตรียมเอกสารสัญญา พร้อมสโคปงานทั้งหมด”
“ค่ะ...ถ้าอย่างนั้น รดาต้องขอตัวก่อน ลูกน้องคงตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะส่งสายตากรุ่มกริ่มให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินเยื้องย่างออกไป
“คุณรดาคิดจะทำอะไรครับเนี่ย”
“มีทางไหนดีกว่าหานางแบบที่ถูกใจให้เค้าล่ะ”
“ตะ แต่ คุณก็รู้ชะตากรรมนางแบบพวกนั้น”
“งั้นเหรอ...ก็ดี อยากรู้นักว่าคุณพสุธาจะร้ายอย่างที่เค้าร่ำลือกันหรือเปล่า” สายตามาดมั่นของมธุรดายิ่งทำให้ภุชงค์เอเย่นมือดีถึงกับกลืนน้ำลายไม่อาจคาดเดาความคิดของเจ้านายสาวได้
“เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกคุณพ่อล่ะ...ฉันอยากจะทำให้คุณพสุธากลายเป็นลูกแมวเชื่องๆซะก่อน” น้ำเสียงมั่นใจบวกกันแววตาที่ท้าทายยิ่งทำให้คนเห็นหวาดกลัวเป็นนั กหลังจากวันนั้นลูกค้าหนุ่มก็อดใจที่จะรอไม่ไหวต้องขอนัดเจอเป็นการส่วนตัว ยิ่งทำให้มธุรดายิ้มอย่างมีความหวัง เธอตั้งใจจะทำให้คนเจ้าชู้สิ้นลายอยู่ตรงหน้า
“แย่แล้วลืมสนิทเลยว่านัดยัยแป้งไว้...ถ้าไม่โทรบอกมีหวังงอนแน่ๆ” เมื่อนึกขึ้นได้เธอจึงรีบโทรหาเพื่อนรักทันที
“ฮัลโหล ยัยแป้งหอม วันนี้ฉันคงไปหาเธอไม่ได้แล้วล่ะ”
“ทำไมล่ะ ฉันคิดว่าจะลงมือทำกับข้าวเลี้ยงเลยนะเนี่ย”
“ขอโทษจริงๆเพื่อน ฉันมีนัดด่วนกับลูกค้ารายใหญ่”
“โฮแม่นักธุรกิจ เดี๋ยวนี้มีนัดกับลูกค้า จนลืมเพื่อนฝูง” หญิงสาวแอบเบ้ปากอย่างน้อยใจเพื่อนรัก
“เอาน่า โอกาสหน้าไม่พลาดแน่...แค่นี้ก่อนนะแป้งฉันถึงที่นัดแล้ว” พูดจบเพื่อนสาวก็วางสายทันที เธอคว้ากระเป๋าเครื่องสำอางมาค้นหาแป้งตลับซับความมันบนใบหน้า แต่งเติมสีสันจนพอใจจึงก้าวลงจากรถ มธุรดาพกพาความมั่นใจมาเต็มร้อยเธอหวังจะพิชิตใจลูกค้าคนนี้ให้ได้ เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สบตา
ใจของเธอก็บอกได้ว่า ชายคนนี้คือคนที่เธอหมายปอง ก่อนจะเข้าไปในร้านอาหารหรูหญิงสาวไม่ลืมที่จะเช็คความปลอดภัย เธอหันมากดเครื่องล็อครถอัตโนมัติอีกครั้ง ประตูกระจกถูกเปิดออกโดยพนักงานแต่งตัวเรียบร้อยราวกับผู้ดีสมัยก่อน
“กี่ที่คะ”
“จองไว้แล้วค่ะ คุณพสุธา”
“เชิญทางนี้ค่ะ” หญิงสาวร่างระหงส์เดินตามบริกรหญิงไปมุมหนึ่งของร้านที่เงียบสงบราวกับว่าใครบางคนอยากจะให้เป็นแบบนี้ เบื้องหน้าคนหนุ่มในชุดสูทสีน้ำตาลอ่อนทันสมัยลุกขึ้นยืนรออยู่ เขาเลื่อนเก้าอี้ตัวงามให้หญิงสาวนั่งอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับคุณมธุรดา”
“ค่ะ คุณพสุธา”
“ฮ่าๆ น้ำเสียงคุณนี่ช่างหวานจริงๆ” หญิงสาวที่จัดตัวเองให้นั่งในท่าที่เหมาะสม เท้าข้อศอกบนโต๊ะยื่นหน้าเข้าหาคนหนุ่มเล็กน้อย
“ไม่ใช่แค่เสียงนะคะ”
“งั้นเหรอครับ แบบนี้ผมคงต้องหาโอกาสพิสูจน์แล้วล่ะ”
“คิคิ คุณนี่อารมณ์ขันเหมือนกันนะคะ” เมนูอาหารถูกวางเรียบร้อยตรงหน้าลูกค้าทั้งสอง
“สั่งตามสบายเลยครับ” มธุรดายิ้มให้ก่อนจะสั่งอาหารเล็กน้อยตามพองามของหญิงสาว
“ผมดีใจนะครับที่ได้คุณมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้”
“ด้วยความยินดีค่ะ...รดาเองต่างหากที่ควรจะดีใจที่ได้ร่วมงานกับคนหนุ่มไฟแรงอย่างคุณพสุธา” สายตาสีน้ำผึ้งยังคงเชยชมความงามบนใบหน้าหวานไม่ลดละ หญิงสาวยิ่งแสดงออกถึงความพึงพอใจในตัวเขาเช่นกัน
“คุณรู้วันเริ่มงานแล้วใช่ไหม๊”
“ค่ะ...รดาต้องไปถ่ายภาพนิ่งทำลอยด์เลอร์...ไม่ทราบว่าคุณดินจะไปดูรดาไหม๊คะ” คำถามนี้ช่วยเปิดทางให้คนหนุ่มก้าวเข้ามาใกล้ตัวเธอได้เร็วขึ้น
“แน่นอน ผมจะติดตามดูการทำงานของคุณรดาทุกฝีก้าว...จนกว่าคุณรดาจะไล่เลยดีไหม๊ครับ”
“คิคิ ช่างน่าประทับใจจริงๆ”
“ผมพูดจริงๆนะ...อาหารมาแล้ว เชิญเลยครับ”
“ค่ะ...น่าทานทั้งนั้นเลย”
“ลองทานนี่ดูนะครับ...ผู้หญิงสวยๆน่าจะชอบผัก ทานแล้วไม่อ้วนแน่ผมรับรอง” พสุธาตักอาหารใส่จานให้คนสาวทั้งที่สายตาเขาจับจ้องใบหน้าสวยเปรี้ยวไม่ละวาง ระหว่างทานอาหารสองหนุ่มสาวก็ยังคงสนทนาเชยชมกันต่างๆนานา ยิ่งหญิงสาวได้ฟังคารมหวานทีไร มันช่างทำให้ใจของเธอสั่นไหว ละลายลงทุกที และเธอก็เชื่อสนิทใจแล้วว่าคนตรงหน้าไม่ใช่หนุ่มไฟแรงธรรมดา แต่เป็นเพลย์บอยตัวฉกาจทีเดียว
