7

หลังจากพ่อกับแม่ของเธอเสียนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว งานพิธีก็จบไปภายใต้การช่วยเหลือของคุณป้า แต่จิตใจของเธอยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นเลย มันยังเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความรู้สึกมันเหมือนพึ่งเกิดเหตุการณ์นั้นเมื่อวาน เมื่อนึกเป็นอันต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดหยาดน้ำตาที่คลอออกมาเพื่อขับไล่ความอ่อนแอ เพราะเธอยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแล ทั้งลูกน้อยในท้อง และชีวิตพนักงานอีกหลายร้อยชีวิตในบริษัท แต่เธอจะทำมันได้อย่างไร ในเมื่อเธอก็พึ่งจะเรียนจบ ประสบการณ์ทำงานก็แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

“ฮึก คุณพ่อ คุณแม่คะ พายจะทำยังไงดี พายจะทำยังให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ฮือ” เมื่อไม่อาจจะฝืนน้ำตาให้รินไหลออกมาได้ เธอจึงปล่อยให้มันไหลออกมา อย่างไม่คิดจะห้ามมันอีก

“ท่านประธานคะ คุณหญิงชบามาขอพบค่ะ” แต่แล้วเสียงอินเตอร์คอมจากเลขาหน้าห้องก็ดังขึ้น ทำให้เธอต้องรีบปาดน้ำตาที่พึ่งจะไหลเพื่อระบายความอัดอั้นในใจออก

“ให้เข้ามาได้เลยค่ะ พี่ออม”

“สวัสดีค่ะ คุณป้า”

“ไหว้พระเถอะลูก”

“วันนี้ป้าจะมาถวงคำตอบ ที่ถามหนูไปเมื่อครั้งก่อนจ้ะ” ชบากล่าวกับหญิงสาวที่เธอเอ็นดูอย่างยิ้มๆ

“เอ่อ พาย พายคงต้องขอปฏิเสธค่ะ พายรบกวนคุณป้ามามากแล้ว แล้วพายก็ไม่อยากไปเป็นภาระของคุณวินท์ คุณวินท์เป็นหนุ่มโสดก็คู่ควรกับสาวโสดไม่มีพันธะ ไม่ใช่คนลูกติดแบบพาย”

“แล้วบริษัทล่ะลูก”

“...” พัทชา เงียบไปในทันทีเมื่อถึงคำถามนี้เพราะเธอเองก็ยังหาทางออกไม่ได้เหมือนกัน

“ตอนนี้สถานการณ์ในบริษัทก็ใช่ว่าจะดี หุ่นก็ตกลงไปจากเดิมไปหลายจุด ถ้าให้ตาวินท์มาช่วยดูแล ป้าเชื่อว่ามันต้องดีขึ้น แต่จะให้เข้ามาเฉยๆ คณะกรรมการบริษัทคงจะไม่เห็นชอบแน่”

“พายขอบคุณคุณป้ามากๆ เลยนะคะ สำหรับคำแนะนำ พายขอเวลาสักหน่อยได้ไหมคะ” พัทชารู้ว่าหญิงวัยกลางคนตรงหน้าต้องการจะสื่ออะไรกับเธอ เธอรู้ดีว่าหากให้คุณวินท์มาช่วยบริหาร บริษัทที่คุณปู่ คุณย่า รวมถึงพ่อกับแม่เธอลงทุนลงแรงสร้างมาด้วยกัน ที่อยู่ในสภาพที่เริ่มจะย่ำแย่ให้พ้นวิกฤติได้ ดีไม่มีเขาอาจจะทำให้มันเติบโตขึ้นกว่าเมื่อก่อน

เพราะพ่อเธอคอยพูดถึงเรื่องราวของเขาให้ฟังอยู่ตลอด ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็เป็นที่จับตามองเพราะสิ่งที่เขาลงมือทำนั้นมักได้ผลกำไรหรือผลประกอบการดีมาตลอด หุ้นในบริษัทเขา แม้แต่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ล้วนมีแต่คนอยากครอบครอง ทั้งในแวดวงธุรกิจเขาก็ยังเป็นถึงนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่หน้าตาดี แถมยังโสด เป็นที่หมายปองของสาวๆ อีกด้วย แล้วเธอล่ะมีอะไรที่ดีพอจะให้เขามาแต่งงานด้วย เธอไม่ใช้ผู้หญิงตัวคนเดียว เธอกำลังจะมีลูก อีกทั้งยังมีบริษัทที่กำลังจะเข้าสู่วิกฤติอีก เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เธอก็หาทางออกไม่เจอเลย ถึงเขาจะเคยเป็นอดีตคู่หมั้นของเธอก็จริง แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว ไม่มีทางว่าคนอย่างเขาจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอ

“หนูพาย หนูพายลูก”

“ค คะ คุณป้า มีอะไรหรอคะ”

“ป้าเห็นหนูนั่งเหม่อ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ มีอะไรไม่สบายใจบอกป้าได้นะ ถ้าเป็นเรื่องที่จะให้ตาเชนทร์เข้ามาช่วยหนูดูและบริษัท ป้ามีวิธีที่จะทำให้พี่เขามาช่วยบริหารโดยคณะกรรมการบริษัทไม่มีใครที่จะกล้าขัดแย้ง” ชบาเหลือมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วพูดต่อ

“คือการให้หนูกับตาเชนท์แต่งงานกัน ป้ารู้ว่าหนูรู้อยู่แล้ว ตอนนี้ป้าเห็นว่าจะมีแต่วิธีที่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วหนูก็ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วด้วยนะหนูพาย อีกไม่กี่เดือนท้องหนูก็จะต้องโตขึ้น หนูไปๆ มาๆ บริษัทป้าก็ว่ามันจะไม่สะดวกนัก ประสบการณ์ด้านการบริหารหนูก็ยังไม่มี ป้าไม่ได้ดูถูกความสามารถหนูนะลูก เพียงแต่ป้าเป็นห่วงไม่อยากให้หนูต้องทำงานหนัก ทั้งหนูอาจจะเครียดจากการทำงาน แล้วมันอาจจะส่งผลกระทบต่อหลานในท้องของป้าก็ได้”

“หลาน หรอคะ??”

“ก็ใช่นะสิ ถ้าหนูพายแต่งงานกับตาเชนท์ เด็กในท้องก็ต้องเป็นหลานของป้า” ชบาเห็นสีหน้ามึนงงของหญิงสาวตรงหน้าก็ได้แต่ยิ้ม เธอร่ายมาเสียยืดยาว จนทำให้หญิงสาวงุนงงจนไม่เข้าใจในสิ่งที่นางจะสื่อไปเลยหรือนี่

“แต่ว่า..” ถ้าตอนนี้เธอไม่ตั้งท้องและแต่งงานกับลูกชายของคนตรงหน้าแน่นอนว่าเด็กในท้องก็ต้องเป็นหลานของคุณป้าอยู่แล้ว แต่ว่านี่มัน ไม่ใช่ เธอรู้ว่าคุณป้าท่านก็ทราบเรื่องนี้ดี เพียงแต่ว่าทำไมถึงได้

“ป้าไม่เคยนึกรังเกียจหนูเลย ไม่ว่าหนูจะผ่านอะไรมาป้ายอมรับได้ทั้งนั้น เชื่อป้านะเด็กดี แต่งงานกับพี่เขานะ”