บท
ตั้งค่า

5

“พ่อคะ แม่คะ อย่าทิ้งพายไป” ‘เฮือก’ พัทชาสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาไหลเป็นสาย ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้

“คุณ คุณ” อชิระพยายามเรียกเธอ ให้ตื่นจากฝันร้าย แต่ก็ไม่เป็นผล เขาจึงสวมกอดเธอไว้พร้อมกับลูบแผ่นหลังเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลม

“ไม่เป็นไรแล้วนะคุณ คุณลุงคุณป้า ท่านไปสบายแล้ว ถ้าคุณอยากร้อง ร้องออกมาได้เลย ผมจะอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนคุณเอง”

“ฮือๆ “พัทชาไม่ตอบอะไร เธอเอาแต่ร้องไห้ ซุกเข้าหาอกแกร่งอย่างต้องการการปลอบโยน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เธอร้องไห้แล้วหลับไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคุณป้าปลุกเธอมาทานข้าว

“เป็นไงบ้างลูก ดีขึ้นบ้างไหม”

พัทชาไม่ตอบ เธอเพียงพยักหน้าเบาๆ เท่านั้น อาการทางกายดีขึ้นมากแล้ว แต่จิตใจเธอมันปวดร้าวไปหมด เธอไม่เห็นหนทางที่มันจะดีขึ้นมาเลย

ชบามองหนูน้อยตรงน่าอย่างสงสาร เธอเห็นพัทชามาตั้งแต่เล็กๆ ความน่ารักสดใสนั้นทำให้เธอเอ็นดูหนูน้อยนัก โตมาเป็นสาวก็สวยสะพรั่ง เธอก็หวังที่จะญาติดองกับเพื่อนสนิท แต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเกิดมาเสียก่อน เพื่อนสนิทเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ หนูพัทชาก็ท้องแต่ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เธอนึกเห็นใจนัก คนดีๆ น่ารัก สดใสๆ แบบหนูพัทชา ต้องมาพบมาเจอเรื่องราวเลวร้าย พร้อมกันทีเดียวแบบนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ตัวคนเดียวแบบนี้จะรับเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ยังไงกัน

เธอไม่เคยนึกรังเกียจเลยที่พัทชาท้อง ซ้ำเธอยังเอ็นดูมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ถ้าได้แต่งงานกับตาเชนท์ ดีเสียอีกได้ทั้งลูกสะใภ้ ได้ทั้งหลาน ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็เถอะ เธอเชื่อว่าเธอจะรักและเอ็นดูหลายอย่างแน่นอน เธอเลยอยากจะให้เจ้าลูกชายตัวดีแต่งงานกับพัทชา จะได้ช่วยดูบริษัทให้หญิงสาวด้วยพึ่งจะจบสถาปัตมาหมาดๆ ยังไม่ได้ที่จะต่อบริหารอย่างที่ตั้งใจว่าจะต่อหลังจากได้ทำงานสถาปนิกในบริษัทของพ่อสักพักหนึ่งก่อน ค่อยเรียนบริหารเพื่อจะเข้าไปบริหารแทน แล้วแบบนี้หนูพัทชาของเธอจะทำอย่างไร

ทุกอย่างมันเทประดั่งมาไม่ให้ได้ตั้งตัวเลย แต่เจ้าตัวนั้นก็พูดยากเสียเหลือเกิน เธอรู้อยู่หรอกว่าไม่เป็นการดี หากจะบังคับให้คนที่ไม่ได้รักกันแต่งงานกัน เพราะความรักมันบังคับกันไม่ได้ แต่จะให้เธอทำอย่างไรในเมื่อเธออยากจะช่วยเหลือหญิงสาวที่น่าสงสารนี้ และเธอก็อยากได้แม่หนูคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้มาตั้งนานแล้ว คงต้องคุยกับเจ้าลูกชายตัวดีให้รู้เรื่องเสียแล้ว หากบอกกันดีๆ ไม่ได้ ก็คงต้องมีบังคับกันบ้าง

“แม่มาแล้ว งั้นผมไปก่อนนะครับ” เขาบอกหลังจากนั่งดูแม่ปลอบเธออยู่สักพักหนึ่งแล้ว วันนี้มีนัดแข่งด้วยสิ นี่ก็เสียเวลามากแล้วด้วย

“อยู่นี่แหละไม่ต้องไปไหน อยู่ดูน้องจนกว่าจะออกจากโรงพยาบาล ถ้าต้องค้างคืนเดี๋ยวแม่ให้ที่บ้านเอาเสื้อผ้ามาให้”

“โธ่ คุณแม่ครับ ก็ให้เธออยู่ไปสิครับ แค่เป็นลมไปเดี๋ยวก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ไม่เห็นต้องเฝ้าอะไรเลย เธอก็โตแล้วด้วย ทำไมจะอยู่คนเดียวไม่ได้ ผมก็มีงานมีการต้องทำ ไม่ได้ว่างมาเฝ้าใครนะครับ” เขาว่าอย่างไม่นึกถึงจิตใจคนฟังเลย คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อเขากล่าวว่าเหมือนเธอเป็นภาระ ก่อนที่น้ำตาจะรื้นขึ้นมาอีกครั้ง อารมณ์คนท้องทำให้เธออ่อนแอเหลือเกิน

“เฝ้าก็คือเฝ้าไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้น นี่ก็จะสายแล้ว ยังไม่กินอะไรใช่ไหม แม่ให้เวลาไปหาอะไรกิน 30 นาที เดี๋ยวแม่จะอยู่เฝ้าน้องรอที่นี่”

“รีบไปสิ นี่เหลือ 28 นาทีแล้วนะ” เธอเร่งเมื่อเห็นลูกชายตัวดียังนั่งมองพัทชานิ่ง ไม่ออกไปไหน

-ปึง-อชิระไม่ตอบอะไร เขาเดินหุนหันออกจากห้องไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง แสดงความไม่พอใจอย่างมาก

“อย่าไปใส่ใจพี่เขาเลยหนูพาย เดี๋ยวป้าว่าอีกสักพักคุณหมอก็คงจะเข้ามาตรวจ”

“คุณป้าคะ เรื่องศพคุณพ่อกับคุณแม่พายขอบคุณนะคะที่ช่วยเป็นธุระให้ แล้วพายก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรคุณป้าเลย”

“ไม่เป็นไรๆ คนกันเอง ป้ากับแม่หนูก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ช่วยเหลือกันก็ตั้งมากมาย เรื่องแค่นี้เอง”

หลังจากออกไปไม่นานนักอชิระก็กลับเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึงแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน หลังจากถูกผู้เป็นแม่บังคับให้มาเฝ้าหญิงสาว

“พี่เขามาแล้ว งั้นป้าไปนะ มีอะไรก็โทรหาป้านะหนูพาย ป้าขอไปดูเรื่องงานศพพ่อกับแม่หนูต่อก่อน”

“ค่ะคุณป้า พายต้องขอโทษที่รบกวนนะคะ พายขอบคุณคุณป้ามากจริงๆ ฮึก ถ้าไม่ได้คุณป้าพายก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเลยค่ะ มันเคว้งไปหมด ฮือ”

“ไม่เอาไม่ร้องลูก เรื่องแค่นี้เอง เราก็ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียที่ไหน”

“ตาเชนท์แม่ฝากดูน้องด้วย ดูแลให้ดี”

เมื่อฝากฝังเจ้าลูกชายตัวดีเสร็จศัพท์ นางก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หนุ่มสาวอยู่ในห้องกันสองคน บรรยากาศภายในห้องเริ่มจะอึดอัดขึ้นมาในทันใด มีเพียงเสียงสะอื้นให้เบาๆ ของหญิงสาวบนเตียงเท่านั้น

“นี่ จะร้องไห้อีกนานไหม ฉันหนวกหู”

“ฮึก” เมื่อได้ยินเขาว่า หญิงสาวก็พยายามที่จะหยุดร้องตามที่เขาบอก แต่มันหยุดไม่ได้เสียที จนกลายมาเป็นว่าเธอร้องไห้หนักขึ้นกว่าตอนแรกเสียอีก

“ฮึก ฮืออออ”

“นี่เธอ!”

“ถ้าอยากร้องมากก็ร้องไป ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย แล้วอย่าคิดที่จะโทรไปฟ้องแม่ฉันล่ะ ไม่งั้นเจอดีแน่” เขาว่าอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันมาเหลียวแล หญิงสาวที่ร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่บนเตียงเลยแม้แต่น้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel