บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

จากวันนั้นเป็นต้นมา บิดาก็วางมือจากทุกสิ่งแล้วเดินทางกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบตามที่ตั้งใจไว้ หลายปีทีเดียวที่สองพ่อลูกเทียวไปเทียวมาหากันและใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องมือสื่อสารถามสารทุกข์สุขดิบของกันและกันตลอดมา

คนที่พ่อต้องการให้ไปรับคงจะมีความสำคัญกับบ้านปุณยนันท์อย่างมากเป็นแน่ ใครที่สำคัญของบ้านปุณยนันท์กันหนอ คำสั่งของพ่อยังระบุชัดเจนว่าต้องทำให้เป็นหงส์ฟ้าที่พร้อมจะอยู่ร่วมในสังคมได้ภายในเวลาสามเดือน

ยิ่งคิดก็ยิ่งเดาไปเรื่อยว่าบุคคลพิเศษที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดมาพบในวันนี้คงจะ พิเศษ จริงๆ เขาชักอยากจะเห็นหน้าแล้วว่าผู้หญิงที่พ่อสั่งให้รีบขับรถมารับในวันนี้ หน้าตาเป็นอย่างไรและที่สำคัญไปกว่านั้นทำไมต้องให้หาทางทำให้กลายเป็นหงส์ฟ้าด้วย

มาคียะเลี้ยวรถเข้าไปบริเวณไร่ต้นรัก ชายหนุ่มชะลอความเร็วเพื่อดูเส้นทางช้าๆ ไร่ต้นรักหาไม่ยากเท่าไร ตลอดทางก็มีป้ายบอกเป็นระยะๆ จนขับมาถึง

ไร่ต้นรักสวยงามกว่าที่คิดเอาไว้ พื้นที่โดยรอบบริเวณถูกจัดให้สวยงาม น่าลงไปเดินชมความงามตามธรรมชาติ นอกจากปลูกผักแล้วที่นี่ยังมีผลิตผลทางการเกษตรอีกมากมาย

“ขอโทษนะครับ ที่นี่ไร่ต้นรักใช่ไหมครับ” มาคียะลดกระจกรถลงมาแล้วตะโกนถามชาวบ้านที่กำลังดูแลแปลงผักอยู่

“ใช่ คุณมาหาใครไปที่ออฟฟิศ โน่น” ชายคนหนึ่งชี้มือบอกทางให้ชายหนุ่มได้รู้

“ครับ ขอบคุณครับ”

ในออฟฟิศ ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว มาคียะออกมามองรอบๆ ว่ามีใครอยู่แถวนั้นบ้าง ที่ใกล้ที่สุดเห็นกลุ่มคนงานกำลังรวมตัวกันทำอะไรซักอย่าง ท่าทางของพวกเขาเหมือนว่ากำลังถกเถียงอะไรกันอยู่

มาคียะตัดสินใจเดินเดินฝ่าไอแดดร้อนไปหาอย่างรวดเร็ว ไปหาคนเหล่านั้น

“สวัสดีครับ ที่นี่ไร่ต้นรักใช่ไหมครับ”

“ใช่ ที่นี่ไร่ต้นรัก คุณมาหาใคร” ชายสูงวัยมองมาคียะอย่างพิจารณา

“เอ่อผมมาพบคุณอรุณี ไม่ทราบว่าคุณอรุณีอยู่ไหมครับ” มาคียะถามอย่างนอบน้อม

ทุกคนมองหน้ากันราวกับปรึกษาหารือว่าจะเอาอย่างไร ในที่สุดคนที่อาวุโสสูงสุดก็ตัดสินใจพูดขึ้นมา

“คุณไปรอที่ออฟฟิศก่อน อีกสักพักคุณแอนนี่คงมา คุณค่อยบอกคุณแอนนี่แล้วกัน”

คนงานก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตน ไม่มีใครสนใจว่าชายหนุ่มจะยืนอยู่ที่เดิมหรือว่าเดินไปตามคำแนะนำของพวกเขา

มาคียะยืนนิ่ง ชายหนุ่มรู้สึกว่าการมาขอพบคุณอรุณีช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน จึงตัดสินใจเดินฝ่าความร้อนกลับไปรอที่ออฟฟิศ

ที่ออฟฟิศยังไม่มีใครมา ตอนนี้เที่ยงครึ่งแล้วเขายังไม่ได้กินอะไรกาแฟแก้วนั้นแก้วเดียว และไม่รู้ว่าจะมีคนมาตอนกี่โมง ในที่สุดมาคึยะจึงตัดสินใจขับรถกลับออกไป เพื่อหาอะไรรองท้องให้อิ่มแล้วค่อยกลับมาอีกครั้งในตอนบ่าย

ชายหนุ่มกลับมาที่ออฟฟิศของไร่ต้นรักอีกครั้งในตอนบ่ายสอง ในออฟฟิศก็ยังไม่มีใครอยู่เหมือนเดิม จึงตัดสินใจนั่งรออยู่ที่ด้านหน้า เผื่อมีใครผ่านมาแถวนี้เขาจะได้ถามว่าพบคุณอรุณีได้ที่ไหน

คนงานกำลังเดินกลับมาทางออฟฟิศสองสามคน ในมือของทุกคนถือตระกร้าใบขนาดย่อม คนงานที่สะดุดตาที่สุดเป็นผู้หญิง หน้าตายังเห็นไม่ชัดเพราะอยู่ในระยะไกล

แต่ที่ชัดมากที่สุดก็คงจะเป็นสีผมของเธอ ผมสีแดง นอกจากผมสีแดงแล้วยังนุ่งกางเกงขาสั้นเหนือหัวเข่าเพื่อโชว์ขาเรียวอีกต่างหาก ดีที่ใส่รองเท้าบู๊ตทรงสูงทำให้ไม่น่าเกลียดนัก

ยิ่งเดินเข้ามาใกล้เท่าไรก็ยิ่งเห็นเธอชัดขึ้นเรื่อยๆ เขาคิดเล่นๆ ว่าในไร่ปลูกผักแบบนี้ยังมีแฟชั่นแนวประหลาดๆ ให้ดูอีกหรือ หน้าตาของคนงานสาวคนนี้สวยน่ารักไม่ใช่ย่อย แต่จะพูดออกเป็นภาษาอะไรนั่นอีกเรื่องหนึ่ง และมาคียะค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้าหล่อนไม่ใช่คนบ้านเดียวกันแน่นอน

มาคียะถึงกับอึ้ง เมื่อคนงานเหล่านั้นเดินผ่านหน้าไปเหมือนมองไม่เห็นเขา ทุกคนเข้าไปนั่งประจำโต๊ะทำงานแล้วก้มหน้าก้มตาอย่างขะมักเขม้น ไม่มีใครสนใจว่ามีคนยืนอยู่หน้าออฟฟิศ ที่นี่ไม่สนใจแขกหรือไง

โดยเฉพาะแม่สาวหัวแดงนั้นด้วย หล่อนทำท่าราวกับว่าเป็นหัวหน้าของคนอื่น มาคียะมั่นใจว่ามีคนเห็นเขา แม่สาวผมแดงคนนั้นล่ะ แต่ทำไมจึงไม่คิดมีใครจะออกมาถามไถ่ว่าต้องการอะไรหรือมาหาใคร

“หวัดดีครับ ผมมีเรื่องจะมาติดต่อที่ไร่ต้นรักครับ” มาคียะตัดสินใจเปิดประตูออฟฟิศเข้าไปอีกครั้ง และพยายามจะสบสายตาให้กับใครซักคนก็ได้ แต่ไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่น้อย

“มีเรื่องอะไรจ้ะ หรือว่าจะมาติดต่อเรื่องผักปลอดสาร” หญิงวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมาคนแรก

มาคียะรีบยิ้มให้หญิงที่ทักทายแล้วเดินเข้าไปหาใกล้ๆ ก่อนจะบอกจุดประสงค์การมาของตนให้อีกฝ่ายรู้

“ผมมาขอพบคุณอรุณีครับ”

อีกแล้ว... พอบอกว่าจะมาพบคุณอรุณี หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ตอบอะไรก้มหน้าทำงานต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มาคียะประหลาดใจกับท่าทีของคนงานที่ไร่ต้นรักแห่งนี้เหลือเกิน

“เอ่อ ไม่ทราบว่า ผมจะพบคุณอรุณีได้อย่างไรครับ พอดีผมมีเรื่องสำคัญต้องขอพบเพื่อเรียนให้ทราบ” เขาบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสุภาพแม้ในใจจะเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีของคนงานที่นี่

“ใครๆ ก็มีเรื่องสำคัญอยากจะพบคุณอรุณีทุกคนล่ะจ้ะ ถ้าจะมาเรื่องขอลดราคาผักหรือเพิ่มราคาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ต้องไปหาคุณอรุณีหรอก หาฉันนี่ก็ได้ ฉันตอบแทนคุณท่านได้ว่าไม่ลดราคาและไม่เพิ่มราคาจ้ะ” หญิงคนเดิมตอบด้วยน้ำเสียงที่แสนจะเบื่อหน่าย

สาวผมแดงหันหน้ามามองมาคียะแล้วอมยิ้มที่มุมปาก เล็กน้อย เจ้าตัวไม่พูดอะไรทั้งสิ้นปล่อยให้คนมีหน้าที่จัดการไปเอง คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้คงจะเป็นพวกพ่อค้าคนกลางที่เคยเจอมาเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นเอง

มาคียะฟังคำพูดแล้วพอจะเดาเหตุการณ์ออกว่า คงมีใครมาขอลดราคาหรือเพิ่มราคาเกี่ยวกับผักหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของไร่ต้นรักกันบ่อยๆ จนเป็นเรื่องปกติของที่นี่แน่

มิน่าเล่าพอเห็นเขาทุกคนถึงไม่กระตือรือร้นที่จะสนใจหรือสอบถาม เพราะสาเหตุนี่นั้นเอง

“ผมไม่ได้มาเรื่องผักหรือเรื่องอะไรทั้งนั้นครับ แต่ผมจะขอพบคุณอรุณีต่างหาก” เรื่องนี้น่าจะพอให้พวกเขาสนใจได้บ้าง

แต่เปล่าเลย หญิงคนเดิมถอนหายใจออกมาดังๆ อย่างระอาแล้วพูดขึ้นมาว่า

“ถ้าจะมาเรื่องที่คนงานในไร่ติดเงินค่าเหล้าหรือติดเงินค่าบุหรี่ หรือคนงานไปยืมเงินมาล่ะก็ ไม่ต้องหาคุณอรุณีหรอกจ้ะหาฉันก็เหมือนกัน ไหน... คนงานคนไหนจ้ะที่ติดค่าอะไรคุณแล้วเป็นเงินเท่าไร เดี๋ยวฉันจะตามให้เขามาตกลงกับคุณเรื่องชดใช้เงินให้ ชื่ออะไรจ้ะ” หญิงคนเดิมถามหาชื่อ

มาคียะส่ายหน้าอีกครั้ง ทำไมการจะพบคุณอรุณีถึงได้ยากเย็นเช่นนี้ พ่อไม่ได้บอกก่อนนี่นาว่าจะต้องมาผ่านด่านสิบคำถามพวกนี้

“ผมรับคำสั่งจากคุณยุทธให้มาพบคุณอรุณีเรื่องคน ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าจะมาพบเรื่องอะไร แต่ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณน้าพูดมาเมื่อครู่นี้ทั้งหมด ผมไม่ได้มาทำอะไรกับผักหรือคนงานอย่างแน่นอน ผมมาธุระส่วนตัวกับคุณอรุณีเท่านั้น กรุณาให้ผมได้พบท่านด้วย” มาคียะกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังเป็นครั้งแรก

ทุกคนในออฟฟิศนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ไม่มีใครโต้ตอบอะไรทั้งสิ้น

“คุณคือใคร” สาวหัวแดงถาม

ในที่สุดคนที่ยอมคุยด้วย ฟังน้ำเสียงแล้วพอรู้ว่าพูดภาษาไทยไม่ชัด มาคียะยิ้ม เขาคิดไว้ไม่ผิดไม่ใช่คนไทยจริงๆ ด้วย

“ผมชื่อมาคียะ ยุทธไกรหรือเรียกสั้นๆ ว่ามาร์ก” ชายหนุ่มแนะนำตัวเองอีกครั้ง

“คุณหมาก...” สาวหัวแดงเรียกชื่อชายหนุ่มเพี้ยน

ทุกคนในห้องหัวเราะกับสำเนียงประหลาดๆ ของแม่คนงานสาวหัวแดงคนนี้ เขาเองก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เอ้า...ถ้าเป็นหมากแล้วงานสำเร็จก็ยอม

“ครับ จะเรียกหมากหรือมาร์กก็ได้ตามแต่ถนัด ขออย่างเดียวอย่าเรียกหมาแล้วกัน” ชายหนุ่มเล่นสำนวนย้อน

แม่สาวหัวแดงหน้าง้ำเล็กน้อยที่ย้อนต่อหน้า เธอชักไม่ถูกชะตากับเขาเสียแล้ว เรื่องอะไรมาว่าพูดไม่ชัด

“ทีนี้ผมจะพบคุณอรุณีได้หรือยังครับ” เขาเข้าเรื่องเพื่อให้ได้งานโดยเร็ว

“ยัง...ฉันยังไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร มาหาคุณอรุณีด้วยจุดประสงค์อะไร เป็นพวกพ่อค้าที่อ้างโน่นอ้างนี้จริงๆ หรือเปล่า” สาวหัวแดงพยายามพูดให้น้ำเสียงชัดเจนขึ้น ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาชายหนุ่มตรงหน้า

“ตามฉันมา” สาวหัวแดงเดินนำชายหนุ่มออกมานอกออฟฟิศ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel