บท
ตั้งค่า

๖.๑ วันวานยังหวานอยู่

วันวานยังหวานอยู่

ณ ระเบียงหลังห้องเรียนในยามพักกลางวัน

วันนี้รัชภูมิและวิฑูรย์ไม่ลงไปพักทั้งคู่ ดังนั้นทั้งสองคนจึงออกไปยืนที่ระเบียงด้านนอก เพื่อให้ลมเย็นๆ ที่พัดมาจากต้นไม้ใหญ่ปะทะใบหน้าให้สดชื่น

“ก้อง...นายชอบปริมเหรอวะ” วิฑูรย์ถามขึ้นตรงๆ เป็นครั้งแรก

“บ้าน่า เราคิดกับปริมแค่เพื่อน” รัชภูมิปฏิเสธในสิ่งที่วิฑูรย์ตั้งข้อสงสัย

“แต่เราเห็นนายชอบตอแยปริม”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แหย่เล่นสนุกๆ”

“เราว่าปริมก็น่ารักดีนะ” วิฑูรย์เปรยๆ

“อยากจีบไหม เดี๋ยวเราช่วย” รัชภูมิพูดเหมือนเชียร์หากแต่ในใจกลับรู้สึกหวงแหนอย่างบอกไม่ถูก

สองหนุ่มพูดสัพยอกกันไปมาโดยที่ไม่รู้ว่าการสนทนาทั้งหมดเข้าหูของผู้ที่ถูกกล่าวถึงโดยบังเอิญเมื่อปริมากลับเข้าห้องมาเพื่อหยิบหนังสือที่ลืมไว้ในลิ้นชักโต๊ะ เสียงที่แว่วๆ มาและพาดเพิ่งถึงเธอทำให้สาวน้อยยืนฟังนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกเจ็บปวดแปลกๆ เกิดขึ้นเมื่อได้ยินกับหูตัวเองว่ารัชภูมิไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธออย่างที่เธอชอบคิดเอาเองอยู่บ่อยๆ

ปริมาถอนหายใจเบาๆ อย่างโหวงเหวงแล้วเดินเลี่ยงออกจากห้องนั้นไปเงียบๆ

บรรยากาศในเดือนกุมภาพันธ์เริ่มคึกคัก เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่เป็นเทศกาลแห่งความรัก ไม่เว้นแม้แต่ในโรงเรียนมัธยมก็เช่นกัน นอกจากนี้เดือนนี้ยังเป็นเดือนเกือบสุดท้ายของการเป็นเด็กนักเรียนมัธยมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกอีกด้วย เด็กนักเรียนหลายๆ คนส่งเฟรนด์ชิพให้กับเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนกันเขียนความรู้สึกที่มีให้แก่กันเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก อีกทั้งยังต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยทำให้นักเรียนชั้นนี้ดูวุ่นวายมากกว่านักเรียนชั้นอื่นๆ

ปริมานั่งอยู่ใต้ร่มหูกวางกับฐิติพรและเพื่อนคนอื่นๆ อีกสองคนในคาบว่าง รัชภูมิเดินผ่านมาในตอนนั้นและต้องเลี้ยวแวะมายังกลุ่มของเพื่อนสาวเนื่องจากเสียงเรียกของใครบางคนในกลุ่มนั้นดังแว่วขึ้น

“เขียนให้กุ้งหน่อย” กุ้งเพื่อนกลุ่มเดียวกับปริมาพูดพร้อมกับส่งสมุดเล่มหนึ่งที่มีลวดลายน่ารักตามแบบวัยรุ่นให้กับรัชภูมิ

“ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก้องเอามาคืนนะ” รัชภูมิรับไว้มาถือในมือ “แล้วของเธอล่ะตัวเล็ก” เขาหันไปถามปริมาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

หญิงสาวไม่ตอบแต่ก็เปิดกระเป๋าแล้วหยิบเฟรนด์ชิพเล่มน่ารักกะทัดรัดที่เพื่อนๆ ร่วมห้องทุกคนเขียนให้เธอจนครบแล้วออกมาส่งให้รัชภูมิ

“รีบเอาคืนไหม” เขาถามต่อ

“ไม่” เธอตอบสั้นๆ ก่อนจะขอตัวแยกจากเพื่อนๆ เดินเลี่ยงไปห้องสมุด

รัชภูมิรู้สึกแปลกไม่น้อยที่ช่วงหลังๆ ปริมาดูเงียบๆ และห่างเหินกับเขาจนแทบจะไม่ได้คุยกันเลยก็ว่าได้ หนุ่มน้อยรู้สึกกระวนกระวายและอยู่ไม่เป็นสุข แต่ละวันเขาพยายามหาเรื่องตอแยเธอเหมือนเช่นเคย แต่ดูเหมือนปริมาจะไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าใกล้เลย เธอไม่เคยออกห่างจากกลุ่มเพื่อน แม้กระทั่งในเวลาเลิกเรียนก็รีบเก็บของและเดินออกจากห้องเป็นคนแรกๆ โดยที่รัชภูมิไม่สามารถทำอะไรได้

อีกสองวันต่อมาก่อนเลิกเรียนเฟรนด์ชิพของเธอก็ถูกส่งคืนจากรัชภูมิ เขาส่งคืนให้เธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ปริมาเมินหน้าหนีไม่มองหน้าเขาเช่นกัน

“โกรธอะไรก้องหรือปริม” รัชภูมิถามทันทีที่มีโอกาส เขาไม่อยากให้เรื่องมันค้างคาใจแบบนี้ เด็กหนุ่มแน่ใจมากว่าปริมาโกรธเขา แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าเธอโกรธเรื่องอะไร

“ทำไมนายคิดอย่างนั้น” ปริมาตอบเรียบๆ ตามแบบฉบับของเธอ แต่เขาไม่ชอบท่าทางเย็นชาราวกับกำลังทำสงครามเย็นใส่กันแบบนี้เลย

“แล้วทำไมไม่พูดกับก้องเลย ไม่สิต้องพูดว่าแทบจะไม่มองหน้าด้วยซ้ำ”

“ปริมรู้ว่าคนอย่างปริมไม่คู่ควรจะมองหน้าคนอย่างนายหรอก”

“ปริม!”

“หมดธุระของนายแล้วใช่ไหม งั้นปริมขอตัว” เธอบอกก่อนจะหมุนตัวเดินไป

“ถ้ารังเกียจกันมาก ก็ฉีกเฟรนด์ชิพที่ก้องเขียนให้ทิ้งซะนะ” เขาพูดตามหลังมา

ปริมาหยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินต่อ โดยไม่ได้หันหลังกลับมามองเขา

ค่ำนั้น...

ปริมากินข้าว อาบน้ำและเข้าห้องนอนแต่หัวค่ำ เด็กสาวหยิบตำราเรียนมาทบทวนและนั่งอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยต่อ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนใกล้เวลาเที่ยงคืนเธอจึงเก็บหนังสือและเตรียมตัวเข้านอน แต่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหยิบเฟรนด์ชิพของตัวเองออกจากกระเป๋ามาเปิดอ่านก่อนนอนเหมือนเช่นทุกคืน

ปริมาเปิดพลิกไปยังหน้าท้ายๆ ซึ่งเป็นหน้าที่เธอยังไม่ได้อ่าน ตัวอักษรสีน้ำเงินเข้มที่ปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษดูยาวมากกว่าของเพื่อนๆ ทุกคนที่เขียนให้ ลายมือนั้นดึงดูดความสนใจจากเธอไม่น้อยก่อนที่สาวน้อยจะก็ก้มลงอ่านมันอย่างตั้งใจ

…ปริม…ก่อนที่ก้องจะเขียนลงในสมุดเล่มนี้ ก้องพยายามจะเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเราซึ่งทำให้ก้องกลุ้มใจมาโดยตลอดในช่วงหลังๆ ก้องไม่รู้ว่าปริมโกรธก้องเรื่องอะไร แต่ก้องก็อยากจะบอกว่า ขอโทษที่ทำให้ปริมต้องเสียใจ

ตลอดเวลาที่รู้จักและสนิทกับปริม อยากบอกอีกครั้งว่า ดีใจมากรู้ไหม ปริมเป็นคนดี น่ารัก อ่อนหวาน และคอยให้กำลังใจก้องมาตลอด ก้องอาจจะปากเสียกับปริมไปบ้าง แต่ทั้งหมดนั่นก็เพราะไม่รู้จะหาอะไรไปคุยกับปริมดี แปลกนะทั้งๆ ที่ก้องเป็นคนมั่นใจในตัวเองกับทุกเรื่องแต่กับปริมก้องเป็นอะไรก็ไม่รู้ ปริมทำให้ก้องเสียความมั่นใจในตัวเองทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆ ปริม

สุดท้าย อยากขอบคุณคนบนฟ้าที่ทำให้เราได้เจอกัน ดีใจที่ได้รู้จักปริม ปริมทำให้ก้องเข้าใจและรู้จักคำบางคำได้ดีมากยิ่งขึ้น ขอบคุณทุกสิ่งที่มอบให้…

โชคดีครับ…ก้อง

ปล. ก้องจะไม่พูดคำว่า ลาก่อน เพราะจะไม่มีวันปล่อยให้ปริมห่างหายไปจากชีวิต…

“นี่มันเฟรนด์ชิพหรือจดหมายกันแน่”

ปริมาบ่นพึมพำกับตัวเองหลังอ่านจบพร้อมกับยิ้มแก้มแทบปริอย่างอัตโนมัติและอดไม่ได้ที่จะค้อนลมค้อนแล้งอยู่คนเดียว จากนั้นเฟรนด์ชิพเล่มนั้นก็ถูกเก็บลงในลิ้นชักโต๊ะ แล้วสาวน้อยก็เดินไปที่เตียงนอน สวดมนต์ไหว้พระก่อนจะล้มตัวลงนอนและหลับตาลงในเวลาเกือบเที่ยงคืนครึ่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel