บทที่ 4 ไม่คาดคิด
“หนูดี มายังไงเหรอ?” ผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านก็ชวนวรวลัญช์คุยเป็นมารยาทล่ะมั้ง
หญิงสาวก็เปลี่ยนทิศทางการยืนเป็นหลังชิดติดกำแพงลิฟต์ด้านหนึ่งแทน ทุกคนยืนกันคนละมุม ปริญและเบิร์ดกอดคอกันมองมาทางเธอ เขาสองคนแสดงอาการอยากคุยกับเธอเป็นอย่างมาก
ส่วนบูรพาก็เอามือล้วงกระเป๋าเอาหลังพิงผนังลิฟต์อีกฝั่งซึ่งก็คือตรงข้ามกันกับเธอนั่นแหละ เขายังคงมองเธอ มองด้วยสายตาเฉย ๆ แต่มันก็เฉยเสียจนเธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ชอบเธอมาก ๆ และถ้าเธอไม่ตอบคำถามเพื่อนเขาผู้ชายคนนี้ก็คงไม่ชอบเธอมากขึ้นไปอีก
“พี่มาส่งค่ะ”
“พี่ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
วรวลัญช์ยิ้มกว้างแทนคำตอบ แม้คนชื่อปริญจะถองศอกใส่สีข้างและต่อว่าคนชื่อเบิร์ดว่าทำไมถามคำถามที่เสียมารยาทกับเธอแบบนั้น
หญิงสาวก็ไม่ได้ไม่ทันคนถึงขนาดไม่รู้ว่าพวกเขากำลังดูเชิงกัน เธอยิ้มน้อย ๆ และปรายตามองไปยังประตูลิฟต์แทน
“พี่ผู้หญิงค่ะ ดีไม่มีแฟน” สองคนนั้นหัวเราะชอบใจกันใหญ่ วรวลัญช์ไม่ได้สนใจว่าคนที่อยากรู้คำตอบจะรู้สึกหรือมองเธอแบบไหน แต่หญิงสาวกลับเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ สายตาของเขาติดจะรำคาญเธอด้วยซ้ำ วรวลัญช์จ้องมองเขากลับไปและเธอก็หันไปสนใจโทรศัพท์มือถือในมือตัวเอง
หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถามอะไรอีก ก่อนที่ประตูลิฟต์จะถูกเปิดออก วรวลัญช์ไม่ต้องการเป็นดาวเด่นเธอเลือกที่จะให้พวกผู้ชายออกไปก่อนและเธอจะออกคนสุดท้าย
“สามหนุ่มสามมุม มามะเชิญค่ะ เชิญนะ ขอโทษด้วยนะคะ พอดีกู๊ดทำไวน์แตกไปขวดตัวเลอะเลยเปลี่ยนชุดก่อน คุณบลูน่ะไม่เอานะไม่ทำหน้างอนแบบนี้นะคะไม่หล่อเลย”
เสียงแหลมแหบแบบนี้ก็คงเป็นคนดูแลลูกค้าในคืนนี้ที่ชื่อว่า ‘พี่กู๊ด’ วรวลัญช์เห็นเขาทักทายลูกค้าด้วยท่าทีสนิทสนมก็เบาใจ เธอกังวลใจอยู่ว่าผู้ชายที่ชื่อบูรพาจะบอกคนดูแลว่าไม่ชอบเธอและจะส่งเธอกลับพร้อมกับค่ารถหรือเปล่า
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยืนนิ่งปล่อยให้พี่กู๊ดโอบกอด และเมื่อพี่กู๊ดหันมาเจอเธอก็วี้ดว้ายพร้อมกับเดินมาสวมกอดเสียจนเธอตัวลอย
หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยท่าทีอ้อมน้อยราวกับเจอญาติผู้ใหญ่ เราเคยเจอกันนานมากแล้ว ทำงานสายนี้ทำไมไม่เจอพี่กู๊ดเพราะวรวลัญช์ทำแค่งานเอนไม่ใช่ไซต์ไลน์
แต่กับพี่ตองไม่ใช่ พี่สาวเธอทำทั้งสองอย่างและอาจจะพร้อมกันด้วยคือเอนเสร็จแล้วไปต่อ
“ว๊ายยยยย หนูดี! ไม่เจอกันนานมากสวยมากดีมากลูก เวลคัมนะจ๊ะลูกสาวแม่ เวลคัมมม” หญิงสาวยิ้มเล็กน้อยและใช้มือดันร่างสูงใหญ่ของเจ๊กู๊ดให้ออกห่างอย่างรักษามารยาทนิดหนึ่งเพราะตอนนี้ทุกคนในห้องหันมามองเราเป็นตาเดียวแล้ว
“ดีใจที่ได้เจอเหมือนกันค่ะ พี่ตองฝากความคิดถึงมานะคะ” คนโดนฝากความคิดถึงเบะปากใส่และใช้หลังมือลูบแก้มเธอแทน
“ขอให้มันป่วยบ่อย ๆ หนูดีจะได้มาทำงานแทนดีไหมคะ” วรวลัญช์ยิ้มและส่ายหน้าน้อย ๆ โดยไม่คิดต่อให้เสียเวลาเลยสักนิด
“ไว้คุยกันดีกว่า หนูดีไปแต่งตัวเถอะลูก” วรวลัญช์ค้อมหัวและมองตามนิ้วมือที่ประดับแหวนเพชรเกือบทุกนิ้วชี้ไปทางปีกซ้ายของเพนต์เฮาส์สุดหรูนี้
หญิงสาวค้อมหัวให้กับผู้ชายที่เดินทางขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน พร้อมกับแยกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
กู๊ดรู้ว่าหญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองเป็นงานอยู่มากทีเดียว เจ้าเด็กคนนี้ไม่แสดงท่าทีอะไรนอกเสียจากเหนียมคำพูดไว้ ใจคงอยากจะเลิกงานนี้ คิดดูแล้วก็เสียดายกับเงินก้อนโตถ้ามีโอกาสได้ดูและกัน
เด็กสวย ๆ มีเยอะแต่เด็กที่อยู่เป็นและเจียมตัวหาได้ยากมาก กู๊ดสนิทกับใบตองและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ไม่ใช่ว่ากู๊ดเชื่อในคำพูดของใบตองทั้งหมด แต่เมื่อครู่ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าลูกค้าก็แสดงท่าทีสนอกสนใจในตัวหญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่วรวลัญช์ก็ฉลาดพอที่จะไม่พูดอะไรต่อหน้าลูกค้า
ไม่ใช่เล่นตัวแต่ไม่เล่นด้วยเลยมากกว่า นั่นก็เท่ากับว่าวรวลัญช์แค่มาทำงานนี้ให้จบแทนพี่สาวไม่ต้องการจะสานต่ออะไรใด ๆ
“พี่กู๊ด น้องเพิ่งมาทำงานเหรอ?” คนเป็นชายแต่ใจหญิงคว่ำปากสะบัดพัดขนนกในมือไปมา
“น้องเขารับเป็นงาน ๆ นี่ก็ไปเชือดคอพี่สาวเขามาถึงจะให้ออกงานได้ คุณเบิร์ดไม่ต่อนะคะ หนูดี N Onlyyyy” เบิร์ดจิ๊ปากทำหน้าเสียดายและมองไปทางที่วรวลัญช์เดินหายไปด้วยสายตาละห้อย
“มีน้องเยอะแยะ เดี๋ยวพี่คัดให้ตัวเด็ด ๆ เลยนะ” คนเป็นเจ๊ปลอบใจลูกค้า VVIP แต่ก็ผายมือเชิญบูรพามานั่งกลางห้องเสียก่อน
“พี่ก็เอาแต่ดี ๆ ให้ไอ้บลูหมด”
“น้องเบิร์ดก็ขี้น้อยใจไปได้ พี่ก็รักพวกเราเท่ากันทุกคนนะคะ น้องเบิร์ดคือ VVIP สำหรับพี่ค่ะ”
แต่ไวน์แดงแก้วแรกก็ถูกเสิร์ฟให้บูรพาก่อน! แม้ปากคนดูแลจะบอกว่าเบิร์ดคือ VVIP แต่ VVIP กว่าเห็นทีจะคนนี้เจ้าพ่อระยอง!
“พี่กู๊ด…คนนั้นชื่ออะไรนะ ผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่ขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน” คนดูแลยิ้มกว้างเมื่อโดนบูรพาเรียกด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มชวนฝันแบบนี้
“น้องบลูหมายถึงหนูดีใช่ไหมคะ หนูดีเป็นเด็กน่ารักค่ะ” มุมปากของบูรพาโค้งขึ้น ดวงตาคมเข้มจ้องมองแก้วไวน์ในมือตัวเองและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
“อะไร! พี่กู๊ด! ไหนบอกว่าน้องเขาไม่รับงานซั่มไง!” กู๊ดไม่ได้สนใจในคำพูดของเบิร์ด แต่หันทั้งตัวไปหาบูรพาพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มที่เห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออกด้วยสายตาคาดคั้น
บูรพามองกลับไปพร้อมกับหัวเราะในลำคอก่อนจะเหลือบสายตาไปมองเพื่อน และยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีไม่ประสงค์ดีร้ายใด ๆ
