บทที่ ๓ :: เรื่องร้ายเข้ามารุมเร้า 2
“ผู้หญิงอะไรใจดำชะมัดเลย!” พูดจบพีรดนย์ก็เดินจากมาทันที ส่วนคนที่กำลังเตรียมเสื้อผ้าของตัวเอง ไปเผื่อแผ่ให้ผู้หญิงเคราะห์ร้ายที่นอนอยู่ในห้องพี่ชาย ก็ต่อว่าเขากลับด้วยเหมือนกัน
“ผู้ชายอะไรปากเสียชะมัดเลย!” ธาริษาหอบเสื้อผ้าขึ้นแนบอก ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มตรงไปที่ห้องของธีร์ธยาน์ โชคดีที่ตอนนี้เจ้าของห้องกลับมาเรียบร้อยแล้ว สองหนุ่มสาวจึงไม่มีโอกาสได้ต่อปากต่อคำกันอีก หากแต่ก็ยังไม่วายแอบทำหน้ากวนอารมณ์ใส่กันอยู่ดี
ธีร์ธยาน์กับพีรดนย์เดินออกมายืนรออยู่หน้าห้อง เพราะธาริษากำลังจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไอลดาอยู่ เวลาผ่านไปราวๆสิบนาที เธอถึงเดินหน้ามุ่ยออกมา และขอตัวกลับไปพักผ่อนต่อที่ห้อง ซึ่งคนเป็นพี่ชายก็ไม่ลืมเอ่ยขอบคุณน้องสาว ขณะที่ชายหนุ่มอีกคนทำหน้านิ่ง เหมือนไม่เห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าเธอก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเดินกระทืบเท้ากลับไปที่ห้องของตัวเอง
“วันนี้ฉันจะไปนอนกับแกนะ ไม่อยากเปิดห้องใหม่ว่ะ” เจ้าของรีสอร์ทเอ่ยขึ้น เมื่อน้องสาวเดินจากไปแล้ว
“อืม ได้สิ ว่าแต่นายจะไม่ให้ใครมานอนเป็นเพื่อนคุณคนนั้นหน่อยเหรอ”
“คงไม่ต้องหรอก เธอเพลียจนหลับไปแล้ว กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็คงตอนสายๆของวันพรุ่งนี้โน้นแหละ” ชายหนุ่มชี้แจงให้เพื่อนฟัง
“โชคดีนะที่ฉันกับแกรีบไปช่วยกันเอาของลงจากเรือตอนฝนตก ไม่อย่างนั้นเธอคงแย่ไปแล้ว” สองหนุ่มมองหน้ากันด้วยความโล่งอก ก่อนที่ฝ่ายหนึ่งจะเริ่มชวนเปลี่ยนเรื่อง
“นี่ไอ้ทิว น้องสาวแกไม่เคยยิ้ม ไม่เคยหัวเราะเหมือนคนอื่นบ้างเลยนะ เจอหน้ากันทีไรเป็นอันต้องกัดฉันก่อนทุกทีเลย” พีรดนย์บ่นอุบ
“เออน่า ฉันว่าแกทำใจให้ชินเถอะ เพราะจากนี้ไปแกก็ต้องเข้ามาทำงานที่รีสอร์ทแล้วนี่นา” ธีร์ธยาน์ยกมือขึ้นตบไหล่อีกฝ่ายแรงๆ
“เฮ้อ! มาทำงานกับแกมันก็สบายดีอยู่หรอกเพื่อน แต่ฉันกลัวว่าสักวันจะอดไม่ไหวน่ะสิ”
“แกหมายความว่าไงวะไอ้ดนย์”
“ก็หมายความว่าสักวันน้องนายคงทำฉันสติแตกจนวิ่งหายลงไปในทะเลไง ฮ่าๆๆ” พีรดนย์เฉลยให้หนุ่มหล่อข้างกายหายข้องใจ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น ซึ่งรางวัลที่ได้รับก็คือหมัดหนักๆ ฮุกเข้าที่หน้าท้องจนตัวงอ
“ไอ้หมอนี่ก็หวงน้องสาวเหมือนกันนี่หว่า แขวะนิดแขวะหน่อยไม่ได้เลยแฮะ” พูดจบพีรดนย์ก็รีบเดินตามเพื่อนรักไป และดูเหมือนสองหนุ่มจะไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า คนที่แอบฟังบทสนทนาครั้งนี้อยู่ไม่ไกลนั้น กำลังรู้สึกไม่พอใจแค่ไหน
‘สักวันฉันจะทำให้ผีทะเลอย่างนายกลับไปนอนอยู่ใต้ทะเลให้ได้เลย คอยดูสิ!’ ธาริษาต่อว่าในใจอย่างขุ่นเคืองระคนน้อยใจ ก่อนจะปิดประตูห้อง แล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มทันที
แสงแดดยามเช้าทอประกายสว่างจ้า ผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ร่างบอบบางที่ยังคงหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัว ความปวดร้าวบริเวณแผ่นหลังและหน้าท้อง ทำให้เธอชะงักนิ่ง เมื่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่สมองจนครบถ้วน ดวงตาของไอลดาก็เบิกกว้างขึ้นทันที ก่อนจะพยายามสอดส่ายสายตาไปทั่ว เพื่อพิจารณาว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน
สิ่งเดียวที่ไอลดารับรู้ก็คือห้องๆนี้ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ห้องพักที่ทางรีสอร์ทไอรักจัดเอาไว้ให้เธอแน่ๆ หญิงสาวก้มหน้าลงสำรวจตัวเองบ้าง และแล้วก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง เมื่อพบว่ามีชุดนอนสีฟ้าอ่อนยาวคลุมเข่าสวมติดกายอยู่ ที่สำคัญมันอยู่ในสภาพดีพร้อม ไม่ได้ขาดรุ่งริ่งอย่างที่เธอจำได้เมื่อคืนนี้
เสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้นอย่างมีมารยาท ก่อนที่ร่างท้วมของหญิงวัยหกสิบต้นๆ จะก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ไอลดาพยายามพยุงตัวเอง ขึ้นนั่งพิงหัวเตียงนอนอย่างช้าๆ พร้อมกับยื่นมือไปรับแก้วน้ำดื่มจากแม่บ้าน มาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
“ขอบคุณนะคะคุณป้า” หญิงสาวเอ่ย ขณะยื่นแก้วใบใสส่งคืนให้อีกฝ่าย
“ยินดีค่ะ ถ้ายังไงป้าจะเตรียมน้ำอุ่นให้คุณอาบเลยนะคะ” แม่บ้านท่าทางใจดีเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อจัดการเตรียมน้ำอุ่นให้หญิงสาว จากนั้นนางก็ตรงเข้ามาช่วยประคองร่างบาง ให้ลุกขึ้นจากเตียง แล้วพาไปส่งจนถึงหน้าห้องน้ำ
“ถ้าคุณอาบน้ำไม่ไหวบอกป้าได้นะคะ เดี๋ยวป้าช่วยค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้า ไอซ์อาบเองไหวค่ะ ขอบคุณคุณป้ามากนะคะที่ช่วยจัดการให้” ไอลดายกมือไหว้หญิงสูงวัยอย่างนอบน้อม
“ตายจริง ไม่ต้องไหว้ป้าหรอกค่ะ ป้าเป็นแม่บ้านของรีสอร์ท หน้าที่ดูแลแขกเป็นของป้าอยู่แล้วล่ะค่ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ไอซ์รู้นะคะว่าปกติแล้ว แม่บ้านไม่ได้บริการทุกอย่างถึงขนาดนี้สักหน่อย...ยังไงก็ขอบคุณคุณป้าจริงๆนะคะ” เมื่อเห็นสาวสวยตรงหน้ายืนยันเช่นเดิม ผู้สูงวัยจึงน้อมรับคำขอบคุณนั้นแต่โดยดี อีกทั้งยังรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด เพราะปัจจุบันคงหาคนที่จะมีมารยาท และไม่ถือตัวแบบนี้ได้ยากขึ้นทุกทีแล้ว
ไอลดาปิดประตูห้องน้ำลงอย่างช้าๆ ก่อนจะเดินตรงไปหากระจกบานใหญ่ สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือหญิงสาววัยใสที่มีใบหน้าซีดเซียว ขอบตาแดงช้ำ ผมเผ้าก็ดูยุ่งเหยิง และมีเม็ดทรายติดอยู่เต็มไปหมด เมื่อลองหันหลังให้กระจก พร้อมหันหน้ากลับมามองก็พบรอยช้ำเป็นวงกว้าง ด้วยเหตุนี้เองเธอถึงรู้สึกปวดหนึบไปทั่วแผ่นหลัง
ไอลดาถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม น้ำตาพาลจะไหลขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเองเมื่อคืนนี้ รู้สึกอับอายและเจ็บปวดเหลือเกิน ที่ต้องพบเจอแต่เรื่องเลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไหนจะเรื่องคนรัก ไหนจะเรื่องครอบครัว แล้วก็ยังมีเรื่องที่เกือบจะถูกผู้ชายอีกห้าคนรุมข่มขืนอีก
หญิงสาวสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิดสับสน จัดการล้างหน้าแปรงฟันจนสะอาด หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าลงไปนอนแช่น้ำอุ่น ในอ่างด้วยความผ่อนคลาย เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของผู้ชายเข้า เธอก็คิดไปเรื่อยเปื่อยว่าห้องๆนี้ อาจจะเป็นห้องของผู้ชายหนึ่งในสองคนที่ช่วยเธอเอาไว้ และไม่ว่าห้องที่ใช้พักผ่อนมาตลอดทั้งคืนจะเป็นของใคร ไอลดาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า จะต้องขอบคุณเขาทันทีที่มีโอกาสแน่นอน
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาแปดโมงตรง ไอลดาก็เดินตามแม่บ้านท่าทางใจดีคนเดิมที่ชื่อ ‘ป้าใหญ่’ ลงมาที่ห้องอาหารทันที หญิงสาวเห็นธาริษา ธีร์ธยาน์ และหนุ่มหล่อสะดุดตาอีกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนแล้ว จึงรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องเสียรอเวลารอนานมากไปกว่านี้
“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ” ไอลดาเอ่ยขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากส่งยิ้มให้เท่านั้น จะมีก็เพียงแค่พีรดนย์คนเดียวที่ประหลาดกว่าใครเพื่อน เพราะตอนนี้เขากำลังจ้องหน้าไอลดาชนิดที่เรียกว่าตาไม่กระพริบเลยทีเดียว
“อะแฮ่ม! ไอซ์หิวแล้วใช่มั้ย เดี๋ยวฝันตักข้าวให้เองนะ” ธาริษากระแอมเบาๆ เพื่อให้เพื่อนจอมกระล่อนของพี่ชาย เลิกมองเพื่อนใหม่แสนสวยของเธอเสียที
“คุณไอซ์ทานเยอะๆนะครับ ผัดผักรวมมิตรนี่อร่อยนะ ผมชอบมากเลย” ธีร์ธยาน์เห็นน้องสาวกับเพื่อนสนิท เริ่มตั้งท่าจะโวยใส่กัน จึงรีบห้ามทัพด้วยการชวนไอลดาคุยไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งหญิงสาวเองก็เออออตามไปด้วย เพราะพอมองออกอยู่เหมือนกัน ว่าธาริษากับหนุ่มหล่อนัยน์ตาแพรวพราวคนนี้คงไม่ถูกกันนัก
หลังจากอาหารมื้อเช้าผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว ไอลดาจึงได้รู้ว่าหนุ่มหน้าใหม่คนนี้ชื่อพีรดนย์ เป็นเพื่อนสนิทของธีร์ธยาน์ และเป็นคนๆเดียวกับผู้ชายที่เธอเห็น เขากำลังช่วยธีร์ธยาน์ขนของลงจากเรือยนต์ ในวันแรกที่มาถึงรีสอร์ทไอรัก
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องเมื่อคืนนี้ แล้วไอซ์ก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย” สีหน้าหญิงสาวดูหม่นลงถนัดตา พีรดนย์จึงรีบแทรกขึ้นทันที
“อย่าคิดมากกับเรื่องที่มันผ่านไปแล้วเลยครับคุณไอซ์ อีกอย่างมันไม่ใช่ความผิดของคุณนะครับ”
“สีหน้าไอซ์ดูเหนื่อยๆนะ ฝันว่ารีบขึ้นไปนอนพักข้างบนต่อเถอะ เดี๋ยวไข้จะขึ้นอีกนะ” ธาริษาตัดบท เพราะอยากแกล้งพีรดนย์ให้หงุดหงิดเล่น ทว่าไอลดากลับพยักหน้าเห็นด้วย เพียงแต่ยืนยันว่าจะกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง แทนที่จะกลับไปยังห้องข้างบนตามเดิม
“ไอซ์อยากกลับไปที่ห้องของไอซ์ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์เสียสละห้องของคุณให้” หญิงสาวหันกลับมาบอกเจ้าของห้อง ที่เอาแต่นั่งยิ้มนิ่ง ไม่พูดไม่จาเหมือนคนอื่นๆ
ธีร์ธยาน์ไม่เห็นด้วยนักที่จะปล่อยให้ไอลดากลับไปพักอยู่ตามลำพัง ทั้งที่ร่างกายยังอ่อนแออยู่ หากแต่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้เอ่ยค้าน น้องสาวตัวดีก็เป็นฝ่ายแทรกขึ้นก่อนตามเคย
“ฝันไม่ให้ไอซ์อยู่คนเดียวหรอก รีบไปเก็บของเถอะ เดี๋ยวฝันจะพาไปไอซ์ไปอยู่ที่บ้านของเรา” ไอลดาหันไปสบตากับธาริษาแทบจะทันที และคำว่า ‘บ้านของเรา’ ก็ทำให้เธอคิดไปไกลว่าธีร์ธยาน์กับธาริษานั้น คงแต่งงานอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาไปแล้ว ทั้งที่ความจริงนั้นสองหนุ่มสาว เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ไม่ได้เป็นคู่รักอย่างที่เธอเข้าใจไปเอง
“เอ่อ...มันคงไม่ดีหรอกค่ะ ไอซ์ไม่อยากรบกวนความเป็นความตัวของคุณสองคนนะคะ” หญิงสาวแย้ง
“แหม รบกวนอะไรกันไอซ์ ขนาดผีทะเล เอ้ย! ขนาดพี่ดนย์เขายังไม่เห็นเคยคิดแบบนั้นเลย” ธาริษายังคงแว้งกัดพีรดนย์อย่างสม่ำเสมอ ไม่สนใจสายตาห้ามปรามของพี่ชายเลยแม้แต่น้อย
“นี่ฝันหาว่าพี่ไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นเหรอ!” พีรดนย์ขึ้นเสียง
“อ้าว คิดเองก็เป็นด้วยแฮะ” สาวน้อยหน้าตาน่ารักยังไม่ยอมเลิกรา จนกระทั่งธีร์ธยาน์ต้องเป็นฝ่ายตัดบทขึ้นเสียเอง
“เอาล่ะๆ เป็นอันว่าคุณไอซ์ไปอยู่ที่บ้านผมเถอะนะครับ ที่นั่นกว้างขวางพอ คุณเองก็จะได้มีเพื่อนคุยด้วยไงครับ... อีกอย่างผมก็จะได้ไม่ต้องห่วงด้วยเวลาให้ช่างมาทำงานที่รีสอร์ท” เหตุผลของธีร์ธยาน์ทำให้หญิงสาวฉุกคิด และแล้วก็ตอบตกลงทันทีที่นึกได้ว่า ตัวเธอคือแขกเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในรีสอร์ทไอรัก
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องขอรบกวนพวกคุณแล้วนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็ส่งยิ้มให้ทั้งสามคน ก่อนจะขอตัวกลับไปจัดการเก็บข้าวของที่ห้องพัก โดยมีธาริษาขอตามติดไปช่วยด้วย
ธีร์ธยาน์ขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าและแววตาเศร้าสร้อย ของคนที่เพิ่งเดินจากไปพร้อมกับน้องสาว ไอลดาดูเหมือนคนอมทุกข์ที่ซ่อนบางอย่าง ไว้ภายใต้รอยยิ้มสวยหวาน ซึ่งชายหนุ่มก็อ่านเธอออกมาตั้งแต่แรกแล้ว ถึงได้ยอมให้พักอยู่ที่รีสอร์ทไอรักต่อไป ต่างจากแขกคนอื่นที่ไม่ว่าจะขอร้องแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมใจอ่อน
นอกจากจะรู้สึกเห็นใจไอลดาแล้ว ธีร์ธยาน์ก็รู้สึกถูกชะตากับเธอมากอีกด้วย...
....................................................................................................................................................
