EP3ดีแล้วที่เลิกกัน
เรื่องราวของดรีมกับดราฟเริ่มต้นขึ้นตอนดรีมอายุสิบหกปี กำลังเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่โรงเรียนเดียวกันกับดราฟ ซึ่งในตอนนั้นดราฟมีอายุสิบแปดปีกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่หกเป็นรุ่นพี่ของดรีมสองปี
ทั้งสองคนรู้จักกันตอนงานกีฬาสีโรงเรียน เป็นดราฟที่ถูกตาต้องใจดรีมก่อน รักแรกพบทำนองนั้น อีกทั้งทั้งคู่ยังเป็นรักแรกของกันและกัน
แม้ว่าความรักของทั้งคู่ในตอนนั้นจะเป็นเพียงรักในวัยเด็กแต่ก็เป็นรักที่ครอบครัวทั้งฝ่ายยอมรับและรับรู้ ทั้งคู่คบกันอยู่ในกฎเกณฑ์ รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ
จนกระทั่งดรีมเข้าเรียนมหาลัย ขณะนั้นดราฟเรียนอยู่มหาลัยปีที่สามทั้งคู่ถึงได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ความรักของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเหมือนคู่รักทั่วไปแต่อาจแตกต่างจากคู่อื่น ๆ ตรงที่คู่ดรีมกับดราฟแทบไม่ทะเลาะกันเลย
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนกระทั่งย่างเข้าสู่ปีที่เก้า ดรีมอายุยี่สิบห้า ดราฟอายุยี่สิบเจ็ด เราอยู่ในวัยที่ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ วัยที่ทุกคนต่างก็เริ่มทำงานอย่างจริงจัง เริ่มมองหาอนาคต เริ่มมองหาความมั่นคงของชีวิต เริ่มมีมุมมองความคิดแตกต่างจากตอนเป็นเด็ก เริ่มอยากลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่การแต่งงานหรือมีชีวิตครอบครัว
เก้าปีที่คบกันมาสำหรับดรีมมันมากพอให้ดรีมอยากสร้างครอบครัวไปกับดราฟ เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูก ทว่าดราฟกลับไม่คิดอย่างนั้น ดราฟอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองที่ไม่ใช่เป็นสามีหรือพ่อของใคร ดราฟอยากได้อิสระ อยากได้ชีวิตที่เสียไปตลอดเก้าปีคืน
ดราฟบอกไม่มีความสุขกับการมีดรีมในชีวิตอีกแล้ว ดรีมจึงบอกลาและพาตัวเองออกมาจากชีวิตของดราฟตั้งแต่ตอนนั้น
จนกระทั่งวันนี้ที่เราวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง มันไม่ง่ายสำหรับดรีมเลย แต่มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับดราฟเช่นกัน
“ว่าไง ไม่รักกันแล้วเหรอ”
ดรีมหลุดออกจากภวังค์ความคิด จ้องหน้าดราฟด้วยความเกลียดชัง
“ต้องการอะไร”
“ต้องการเธอ” ดรีมหัวเยาะออกมาอย่างหยามหยัน ใครสั่งสอนใครเขาพูดจาแบบนี้กัน
“โคตรตอแหล”
“ดรีม” ดราฟเรียกชื่อดรีมเสียงดังลั่น ไม่คิดไม่ฝันว่าดรีมกล้าพูดจาแบบนี้ใส่ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ
พูดก็พูดเถอะถึงแม้ดรีมจะมีบุคลิกดูเหมือนเป็นผู้หญิงแรง ๆ แต่เธอพูดจาโคตรเพราะและโคตรมีมารยาท ขนาดสบถคำหยาบ ดราฟยังไม่เคยได้ยิน พอเจอดรีมพูดจาแบบนี้ใส่ดราฟเลยรู้สึกอึ้ง
จริง ๆ ดราฟอึ้งตั้งแต่โดนดรีมตบละ รู้สึกว่าตั้งแต่เลิกกันดรีมเปลี่ยนไปเยอะเลย เปลี่ยนเป็นอีกคนที่ดราฟไม่เคยรู้จัก
“พูดจาไม่น่ารักเลยว่ะ”
“มันเรื่องของใคร” ดรีมยอกย้อนกลับ
“พูดดี ๆ” ดราฟเริ่มไม่สบอารมณ์ ไม่เจอกันแค่หกเดือนทำไมดรีมพยศขึ้นวะ ดูดื้อขึ้นจนดราฟอยากกำราบ
“ทำไมต้องพูดดีด้วยไม่ทราบ คิดว่าตัวเองเป็นใครอะ”
“โกรธอะไรขนาดนั้นวะ ตัวเองเป็นคนบอกเลิกเองแท้ ๆ คนโดนบอกเลิกยังไม่โกรธเลยอะ” ดราฟงงไปหมดทั้งที่เขาเป็นคนโดนบอกเลิกแท้ ๆ เขายังไม่รู้สึกโกรธเธอเลยสักนิด แต่ดูเธอดิ ไม่ใช่แค่โกรธแต่ดูทรงเธอน่าจะเกลียดเขาไปแล้วด้วยซ้ำ
โคตรไม่ยุติธรรมเลยว่ะ
“เหอะ” เป็นอีกครั้งที่ดรีมแค่นหัวเราะออกมาอย่างหยามหยัน เขาจะโกรธเธอทำไมอะ เขาดีใจน่ะถูกต้องแล้ว มันควรเป็นแบบนั้น ในเมื่อคนที่ไม่มีอยากมีกันคือเขาไม่ใช่เธอ เธอก็แค่ทำให้ความปรารถนาของเขาสมหวังด้วยการบอกเลิกและพาตัวเองออกมาจากชีวิตของเขา
“ก็ดีแล้วหนิ” ดรีมพูดอย่างไม่แยแส
“ดี” ดราฟทวนอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ดีแล้วที่เลิกกัน” จะได้ไม่ต้องเสียเวลาชีวิตเขาไปมากกว่านั้น
แค่เก้าปีที่เสียไปมันก็มากเกินพอสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เหรอ
“ก็จริง” ดราฟพยักพเยิดรับหน้านิ่งพร้อมปล่อยมือที่พันธนาการดรีมไว้ “กลับบ้านดี ๆ” เขาหันหลังเดินออกไปขณะที่ดรีมยังยืนอยู่ที่เดิม เฝ้ามองแผ่นหลังของเขาเดินออกไปไกลจนลับสายตา
