10 ใครกันที่ใจร้าย
“มารับฉันที่บ้าน คุณภัทร เดี๋ยวนี้เลยนะ” แคเธอรินพูดจบก็ตัดสายทิ้ง แล้วค่อยกึ่งประคองกึ่งลากเพื่อนมานอนตรงโซฟารับแขก หาผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดหน้าให้
“ภัทร ภัทร ฟื้นสิ” แคเธอรินเขย่าร่างบางเบาๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าสิริภัทรจะฟื้น เสียงกริ่งทำให้เธอรีบวิ่งที่ประตู คนของเธอมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวให้คนขับรถประคองร่างที่หมดสติของสิริภัทรไปยังที่จอดรถด้านล่าง ส่วนเธอก็โทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
แคเธอรินรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ สิริภัทรเป็นอะไร ทำไมถึงหมดสติอยู่หน้าห้องได้ หญิงสาวคิดวกไปวนมา ก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าอะไรที่ทำให้เพื่อนของเธอตกใจถึงขนาดเป็นลม นายแพทย์ที่รับการรักษาสิริภัทรเดินออกมาจากห้อง แคเธอรินรีบวิ่งเข้าไปถามอาการของเพื่อน
“คุณหมอค่ะ ภัทร...เอ่อ เพื่อนหนูเขาเป็นยังไงบ้าง”
“เชิญคุณที่ห้องดีกว่าครับ หมอมีเรื่องจะปรึกษา ไม่ทราบว่าผู้ปกครองหรือว่าญาติของคนไข้มาด้วยหรือเปล่า” นายแพทย์ถามพลางมองหาบุคคลที่จะเป็นผู้ปกครองหรือว่าญาติของสิริภัทร
“คุณแม่ของภัทรไปดูงานที่ต่างจังหวัดค่ะ แต่ถ้าคุณหมอมีอะไรก็บอกหนูก่อนได้นะคะ เราเป็นเพื่อนสนิทกัน” แคเธอรินให้ความมั่นใจนายแพทย์ก่อนที่จะนั่งลงตรงเก้าอี้ในห้อง นายแพทย์วัยกลางคนมองหน้าสาวน้อยตรงหน้าอย่างลำบากใจ ก่อนพูดช้า ๆ ว่า
“คนไข้เหมือนถูกทำร้ายร่างกายมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำเป็นแห่ง ๆ หมอไม่แน่ใจว่า...”
“เป็นไปไม่ได้นะคะคุณหมอ เพราะว่าคุณแม่ของภัทรรักภัทรมากแม้แต่จะตียังไม่เคยเลยค่ะ อีกอย่างภัทรก็คงไม่ซุ่มซ่ามถึงขนาดว่าจะหกล้มได้ด้วยคะ” แคเธอรินรีบยืนยัน แต่นายแพทย์กลับส่ายศีรษะ พูดต่อเบา ๆ
“หมอไม่ได้หมายความว่าคนไข้ถูกทำร้ายร่างกายจากผู้ปกครองนะครับ เพราะว่าจากการตรวจโดยละเอียดแล้ว เหมือนว่าคนไข้จะถูกข่มขืน”
“ว่าไงนะคะคุณหมอ” แคเธอรินลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ แล้วก็ต้องหมดแรงแล้วกลับลงนั่งตามเดิม สิริภัทรถูกข่มขืน ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง แคเธอรินคิดวนไปมา มันจะเป็นไปได้อย่างไร แล้วใครหละที่ทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้กับเพื่อนของเธอ
“หมอค่อนข้างแน่ใจ ถ้าคนไข้ฟื้นแล้ว คงต้องถามว่า เธอต้องการแจ้งความหรือไม่ คุณเป็นเพื่อนไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลยเหรอครับ”
“ไม่ค่ะ ปกติแล้วเราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่เพื่อนหนูไม่ใช่คนเหลวไหล แล้วก็ไม่มีใครที่กล้าทำแบบนี้กับเธอแน่ แล้วเราควรทำยังไงดีค่ะ”
แคเธอรินคิดอะไรไม่ออกแล้วในตอนนี้ ทำไม ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับคนดีๆอย่างสิริภัทรด้วย
“ทางเราคงรักษาได้แต่บาดแผลภายนอกเท่านั้น ส่วนทางด้านของจิตใจ ต้องให้คนรอบตัวของคนไข้ช่วยกันดูแล อย่าถามหรือพูดอะไรที่ทำให้คนไข้ไม่สบายใจนะครับ หมอคิดว่าคงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อสภาพจิตใจคนไข้ถึงกลับมาเป็นปรกติได้และหวังว่าเพื่อนคุณคงไม่เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา
“อะไรนะคะ” แคเธอรินช็อคซ้ำสอง ท้องอย่างนั้นเหรอ ถ้าเกิดภัทรท้องขึ้นมา เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตของเพื่อนเธอนั้นจะต้องพบกับอะไรบ้าง
“มีความเป็นไปได้สูงมากนะครับ ที่คนไข้จะตั้งครรภ์ เพราะว่าร่างกายอยู่ในช่วงไข่ตกพอดี เราได้แต่ภาวนาว่าเธอคงจะไม่ตั้งครรภ์ในสภาพที่ยังไม่พร้อมแบบนี้” นายแพทย์พูดอย่างปลอบใจ
“โถ่...ภัทร” แคเธอรินร้องไห้อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และกะพริบตาถี่ ๆ ติดกันหลายครั้งเพื่อไล่ภาพมัว เธอนั้นหลับนานเกินไปเพราะฤทธิ์ของยาสลบและยาระงับประสาทอ่อน ๆ
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” สิริภัทรคิดในใจขณะที่กวาดสายตามองรอบห้องสี่เหลี่ยมที่ทาผนังด้วยสีขาว ดวงตาคู่สวยหยุดที่ร่างบางที่ฟุบหลับอยู่ข้างเธอ
“แคท’” สิริภัทรพยายามเรียกเพื่อนของตัวเองที่ฟุบหลับอยู่
“ภัทร เป็นไงบ้าง?”
“ขอบใจแคทมากนะ ที่อุตส่าห์มานอนเฝ้า ฉันไม่เป็นไรแล้ว” สิริภัทรพยายามฝืนยิ้มเพื่อให้แคเธอรินเห็นว่าเธอไม่เป็นไรจริงๆ
“อย่าโกหกฉันเลย ภัทร” น้ำเสียงของแคเธอรินจริงจังจนสิริภัทรแปลกใจ
“เธอไปทำอะไรมา” แคเธอรินสูดหายใจลึกๆแล้วพูดต่อว่า “ไม่ใช่ซิ ใครทำอะไรเธอ”
“เธอหมายความว่าไง” สิริภัทรไม่ตอบแต่กลับถามแทน พอพบกับสายตาคาดคั้นของเพื่อน หญิงสาวก็ต้องหลบตาแกล้งมองไปทางอื่น
“ฉันคุยกับหมอที่ตรวจเธอแล้วนะ หมอบอกว่า เธออาจจะโดน...ทำมิดีมิร้าย” แคเธอรินสังเกตสีหน้าเพื่อนก็รู้แล้วว่าสิริภัทรนั้นมีความจริงบางอย่างที่ปิดบังเธออยู่
“ว่าไงภัทร เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ มีอะไรเธอก็ควรจะบอกฉันสิ เราจะได้ช่วยกันแก้ไข” หญิงสาวกำมือเพื่อนแน่นเพื่อปลอบใจและให้กำลังใจไปพร้อมๆกัน
“มันสายไปแล้วแคท ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว” สิริภัทรร้องไห้ ดวงตาคู่สวยซึ่งบวมช้ำอยู่แล้วยิ่งบวมมากขึ้นอีก น้ำตาไหลนองเต็มสองข้างแก้ม แคเธอรินกอดเพื่อนอย่างต้องการจะถ่ายทอดความเจ็บปวดนั้นด้วย ถ้าหากว่าเธอสามารถจะทำได้
“ใครเป็นคนทำร้ายเธอ” หญิงสาวยังคงตั้งคำถามต่อ แต่คำตอบที่ได้รับคือ การส่ายหน้าของสิริภัทรเท่านั้น
“ทำไมภัทร เขาสำคัญกับเธอมาก ขนาดว่าต้องปกป้องกันเลยเหรอ” แคเธอรินเริ่มอารมณ์เสีย ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน สำคัญขนาดสิริภัทรพยายามปกป้องเขาเชียวหรือนี่
“แคทอย่ารู้เลยนะ”
“ไม่”
“เขา...เป็นคนสำคัญมาก สำคัญที่สุด....เขา” น้ำเสียงของสิริภัทรแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ
“ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ทำให้เรื่องที่แคเธอรินต้องการจะรู้ต้องยุติลงแค่นั้น หญิงสาวรีบวิ่งไปเปิดประตู แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนที่มาเยือน คือมารดาของคนที่นอนป่วยอยู่
“สวัสดีค่ะ คุณป้า” แคเธอรินยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“ภัทรเป็นไงบ้าง หนูแคท” ลดาวัลย์รับไหว้เพื่อนลูกสาว แล้วรีบถามอาการของลูกสุดที่รักอย่างเป็นห่วง
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ คุณป้า ภัทรเพิ่งตื่นเมื่อสักครู่นี้เอง” แคเธอรินตอบพร้อมกับเดินนำมารดาของเพื่อนเข้ามาข้างเตียง
“แม่ขา” สิริภัทรกอดมารดาแน่น คุณลดาวัลย์ลูบศีรษะลูกสาว
“นี่คงทำงานหนักมากซินะ ถึงได้เป็นลมดีนะที่หนูแคทอยู่ด้วยเลยช่วยเหลือกันได้” คุณลดาวัลย์พูดกับลูกสาวก่อนที่จะหันมาทางแคเธอริน
“พักนี้งานเยอะค่ะคุณป้า พวกเรามัวแต่รีบทำงานส่งเลยไม่ได้นอนกัน” แคเธอรินหาข้ออ้าง
“เมื่อเช้าพี่สุดเขตเขาไปรับคุณป้ากับแม่เขาที่สนามบิน พี่เขาถามถึงหนูด้วยนะลูก เห็นบอกว่าเย็นนี้จะแวะมาทานข้าวเย็นด้วย แม่เลยถามเขาไปว่า ไม่รู้เหรอว่าน้องภัทรเข้าโรงพยาบาล”
“คุณแม่บอกเขาเหรอคะ” สิริภัทรถามเสียงแผ่ว
“จ๊ะ พี่เขายังบอกเลยว่าเย็นนี้จะมาเยี่ยม”
“คงไม่ต้องรบกวนพี่สุดเขตหรอกค่ะแม่ พรุ่งนี้ภัทรก็จะออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว” หญิงสาวหาทางปฏิเสธ เธอไม่ต้องการเห็นหน้าเขาคนใจร้าย ผู้ชายที่ไม่มีหัวใจอย่างสุดเขต
“เอาอย่างนั้นก็ตามใจ ภัทรโทรศัพท์ไปบอกพี่เขาเองแล้วกัน” คุณลดาวัลย์ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ลูกสาว แคเธอรินมองหน้าเพื่อนที่นอนอยู่บนเตียงก็พอเดาได้แล้ว่าหญิงสาวอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แปลกทำไมสิริภัทรถึงไม่ดีใจที่สุดเขตจะมาเยี่ยม แคเธอรินพลางนึก เธอจึงเอ่ยปากกับมารดาของเพื่อน
“คุณน้าค่ะ เดี๋ยวแคทโทรไปบอกให้ก็ได้ค่ะ คุณน้าเพิ่งกลับมาเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนก่อนดีกว่าค่ะ”
“ดีเหมือนกันจ๊ะ” ลดาวัลย์เห็นด้วยกับแคเธอริน
“แม่กลับบ้านก่อนนะลูก แล้วพรุ่งนี้จะมารับแต่เช้า” คุณลดาวัลย์บอกแล้วก้มลงหอมแก้มลูกสาว แคเธอรินแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แม่เธอก็กลับไปแล้ว เธอจะบอกฉันได้หรือยัง ว่าใครที่ทำร้ายเธอ” แคเธอรินหันมาคาดคั้นต่อ
“บอกเธอไปก็เท่านั้น” สิริภัทรย้อน
“ต่อไปเธอไม่บอกฉันก็เริ่มรู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
“เธอรู้” แคเธอรินสูดหายใจลึกก่อนพูดออกมา
“ใช่ ฉันรู้ พี่เขตใช่ไหม???...” สังเกตจากสีหน้าของเพื่อนก็รู้ว่าที่เธอเดานั้นถูก
“เธอ...รู้ได้ยังไง” สิริภัทรถามเสียงสั่นเครือ
“ก็ดูจากที่เธอพูดกับแม่เธอเมื่อกี้ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานนะภัทร เธอคิดอะไรมีเหรอว่าฉันจะไม่รู้”
“ฉันทำผิดไปแล้วแคท ผิดอย่างไม่น่าให้อภัย” สิริภัทรฟุบหน้าลงกับฝ่ามือบอบบางแล้วร้องไห้อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
“เธอไม่ผิดหรอกภัทร เรื่องของความรักไม่มีใครผิดใครถูก”
“แต่เขาไม่ได้รักฉันเลย เขาจ้องจะทำลายฉันอย่างเดียว ทุกอย่างที่เขาทำลงไปเพื่อความสะใจของเขา”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมภัทรถึงยอมมีอะไรกับเขาล่ะ” แคเธอรินไม่เข้าใจที่เพื่อนพูด แต่ก็ไม่รู้จะถามอย่างไรเพื่อจะไม่ทำให้สิริภัทรนั้นสะเทือนใจไปมากกว่านี้
“พี่เขต...เขาข่มขืนฉัน” สิริภัทรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นกว่าจะพูดออกมา
“เธอว่าไงนะ” แคเธอรินถามอย่างตกใจ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายอย่างสุดเขตจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้ และทำได้ลงคอกับสิริภัทร
“ฉันควรทำยังไงดี” สิริภัทรเขย่าแขนเพื่อนอย่างบ้าคลั่ง
“ใจเย็นๆก่อนนะภัทร เราจะช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา เธอพักรักษาตัวให้หายก่อนนะ” แคเธอรินปลอบเพื่อนอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจเธอนั้นร้อนไม่ต่างจากสิริภัทรเลย
“หลับนะภัทร พอเธอตื่นมาจะดีขึ้น” แคเธอรินพูดเบาเมื่อเห็นว่าสิริภัทรนั้นกำลังเคลิ้มหลับไปในที่สุด
“ฉันจะช่วยเธอยังไงดี ภัทร” แคเธอรินพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะเดินออกจากห้องแล้วค่อยๆแง้มประตูปิดลงอย่างเบามือ
