10. ขอความเห็นเลื่อนเมียคนโปรด

เมื่อสองพี่น้องนั้นออกไปแล้วชีคซายิด ก็หันมาพูดกับท่านผู้หญิงราเนีย

“ขอบใจนะราเนีย ที่เธอมีน้ำใจกับพวกเมียต่างชาติของฉัน ที่ผ่านมาก็มีแต่เธอกับซัลมา เท่านั้นที่เข้าใจ เป็นหลักให้กับบ้านได้ ตอนนี้ก็ไม่มีซัลมาอยู่แล้ว ก็เหลือเธอเพียงคนเดียวที่ฉันไว้ใจเธอมากกว่าฟาริยะห์ กับ ซูรอยห์ สองพี่น้องนั่นถึงจะอายุมากกันแล้ว แต่ก็ทำตัวเหมือนเด็กสาว หึงหวงไม่เข้าท่า ไม่ค่อยมีเหตุผลเอาเสียเลย ถ้ามีโอกาสเธอก็ช่วยอบรมซูรอยห์ ให้รู้จักหน้าที่ของการเป็นเมียที่ดีของฉันด้วย”

ชีคซายิด หันมาบอกภริยาผู้มีอาวุโสกว่า

คาลิฟา เป็นบุคคลที่สามที่นั่งฟังด้วยความอึดอัดใจแทนพี่ชาย เขาได้เห็นความน้อยเนื้อต่ำใจ ความไม่เสมอภาคของการให้ความอบอุ่นแก่บรรดาภรรยาของพี่ชายแล้ว มันทำให้เขาคิดได้ว่า เขาไม่ควรที่จะดำเนินรอยตามพี่ชาย ด้วยการมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน เพราะเขาเห็นแต่ความยุ่งยากใจมากกว่าความสุขใจนั่นเอง

“ซูรอยห์ คงอารมณ์ไม่ดีน่ะค่ะท่านชีค ท่านอย่าได้ถือสาเธอเลย”

ท่านผู้หญิงราเนีย กล่าวอย่างเห็นใจซูรอยห์ เนื่องจากเกือบสามปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ท่านชีค มีคุณนวลปรางค์ มาเป็นอนุภรรยาคนสุดท้าย ท่านชีค ก็ไม่ได้สนใจให้ความอบอุ่นแก่ภรรยาทั้งสี่คนอีกเลย

จากที่เคยนอนค้างหมุนเวียนกับภรรยาทั้งสี่ อย่างน้อยคนละสองคืนต่อเดือน ก็เปลี่ยนเป็นสองเดือนครั้ง จนกระทั่งตอนหลัง ท่านชีค ก็ไปค้างกับคุณนวลปรางค์ทุกสัปดาห์ พอกลับมาที่คฤหาสน์ก็จะไปนอนคนเดียวที่ห้อง ไม่ได้แวะเวียนไปนอนค้างตามชั้นต่าง ๆ ของท่านผู้หญิงทั้งสี่คน ตามที่เคยเป็นมา จนเป็นเหตุให้ท่านผู้หญิงฟาริยะห์กับท่านผู้หญิงซูรอยด์ ไม่พอใจอนุภรรยาของท่านชีค โดยเฉพาะอนุภรรยาที่ชื่อนวลปรางค์

ในขณะที่ท่านผู้หญิงราเนีย กับ ท่านผู้หญิงซัลมา นั้น ต่างก็เข้าใจความรู้สึกของสามีดีว่า ท่านชีค แต่งงานก็เพราะหน้าที่ไม่ใช่ด้วยความรัก ท่านผู้หญิงทั้งสองพี่น้องจึงทำใจได้ที่ท่านชีค รักใคร่เสน่หาคุณนวลปรางค์ จนทุ่มเทเวลาให้มากกว่าคนอื่น ๆ

แต่ถึงอย่างไรท่านชีค ก็ไม่เคยลืมหน้าที่สามีที่เลี้ยงดูภรรยาให้สุขสบาย ภรรยาทั้งสี่คนต่างก็ได้รับความสะดวกสบายหรูหรา มีบริวารรับใช้มากมาย อยากจะได้เครื่องเพชรเครื่องประดับราคาแพงเพียงใด ก็สั่งได้ตามใจชอบ อยากจะไปช็อปปิ้งที่ไหนในโลกก็มีเครื่องบินส่วนตัวพาไป

แต่ท่านชีค อาจจะลืมไปก็ได้ว่าบางครั้งบรรดาภรรยาทั้งสี่ ก็ต้องการความใส่ใจความอบอุ่นจากท่านชีคบ้าง ไม่ใช่ให้เพียงวัตถุสิ่งของปรนเปรออย่างเดียว

“สองคนนั่นออกไปก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องจะปรึกษาเธอกับคาลิฟา อยู่พอดี”

ชีคซายิด บอกกับสองคนที่เหลืออยู่ในห้อง

“เรื่องอะไรหรือคะ”

ท่านผู้หญิงราเนีย ถามด้วยความสนใจ

“คือ..ฉันกำลังคิดว่าอยากจะจัดงานแต่งงานกับนวลปรางค์ให้เขามาเป็นภรรยาคนที่สี่”

คำพูดของชีคซายิด สร้างความตกใจให้กับท่านผู้หญิงราเนีย อย่างมาก จนถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ท่านผู้หญิงราเนียไม่ทราบความคิดของท่านชีค มาก่อนว่าจะเลื่อนฐานะของคุณนวลปรางค์ ที่เป็นเพียงอนุภรรยานั้น ให้มาเทียบเท่าฐานะเดียวกับตัวเอง แม้ท่านผู้หญิงราเนีย จะให้ความเมตตาเอ็นดูคุณนวลปรางค์ ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากจะให้คุณนวลปรางค์ ขึ้นมาเป็นหนึ่งในสี่ของภรรยาแต่งท่านชีคแต่อย่างใด

“มันก็แค่ความคิดเท่านั้น ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้จึงได้มาปรึกษาเธอก่อน”

ชีคซายิด พูดขึ้น เมื่อเห็นว่าท่านผู้หญิงราเนีย มีสีหน้าเหมือนถูกผีหลอกเช่นนั้น ส่วนคาลิฟา ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเคยได้ยินท่านชีค ปรึกษาเรื่องนี้มาก่อนแล้ว

“ถึงจะเป็นเพียงความคิด แต่ฉันก็ไม่เห็นด้วย ขอให้ท่านชีค เลิกคิดเรื่องนี้ไปเสียเถิดนะคะ”

ท่านผู้หญิงราเนีย พอได้สติก็รีบบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรออกมา แต่ท่านชีค ก็พอจะเดาออกว่าลึก ๆ ในใจแล้ว ภรรยาคนนี้ของท่านคงไม่ยอมให้ท่านชีค ทำตามความคิดอย่างแน่นอน

ท่านชีค จะต้องเกลี้ยกล่อมให้ท่านผู้หญิงราเนีย ยอมรับด้วยวิธีที่นุ่มนวลเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจให้ได้

“ซัลมา ก็เสียชีวิตไปได้เกือบปีแล้ว ฉันเห็นว่าเวลานี้ภรรยาแต่งสี่คนก็ว่างลงไปหนึ่งตำแหน่ง หากฉันจะทำให้ตำแหน่งภรรยาสี่คนของฉันมีครบจำนวน มันก็จะช่วยให้ชีคอย่างฉันดูภูมิฐานในสายตาของคนภายนอก เธออย่าลืมนะราเนีย ว่านี่ก็เป็นหน้าตาของตระกูลเราเหมือนกัน เธออยากจะให้สามีเธอ ดูด้อยศักดิ์กว่าชีคในรัฐอื่น ๆ หรืออย่างไร”

ชีคซายิด เริ่มยกเหตุผลเพื่อมาเกลี้ยกล่อม

“คาลิฟา...คิดเห็นเป็นเช่นไร..เธอคิดว่าตำแหน่งชีค ควรจะเป็นเช่นที่ท่านชีคบอกหรือไม่”

ท่านผู้หญิง หันมาถามความเห็นของคาลิฟา ที่นั่งฟังอย่างเงียบ ๆ