บทที่ 6 ไม่พอใจ
“อื้อ! เช้าแล้วเหรอเนี่ย”
หนูนิดลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจยามเช้า เธอสะบัดไล่อาการขบเมื่อยไปมา ก่อนจะยกมือน้อยของเธอปิดปากหาวเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำจัดการตัวเองอย่างไม่เต็มใจ
หนูนิดชอบที่นี่มาก แต่การตื่นเช้าทุกวันแล้วมาทำอาหารให้
ชายหนุ่มทานเธอก็รู้สึกเพลีย แม้ว่าเธอจะชอบการทำอาหารและมีความสุขที่เห็นเขาทานทุกอย่างที่เธอทำหมดทุกครั้งก็เถอะ
“ขี้เกียจจัง ทำไมพี่เพลิงไม่รุกหนูนิดสักทีเล่า! จะว่าเป็นเกย์ก็ไม่ใช่ ในเมื่อพี่เพลิงมีผู้หญิงไม่ขาดขนาดนั้น เอ๊ะ! หรือว่าเรามีสิ่งที่น่าดึงดูดไม่เพียงพอ”
หนูนิดพูดพร้อมกับก้มมองหน้าอกตัวเองอย่างสับสน ขนาดของหน้าอกของเธอไม่สมควรน้อยสิ นี่มันคือสิ่งที่ดึงดูดผู้ชายให้มองเธอเลยนะ จะบอกว่าพวกผู้ชายมักชอบมองนมเธอก่อนมองหน้าก็ว่าได้
แล้วทำไมเจ้าสิ่งนี้ถึงไม่ได้ผลกับพี่เพลิงผู้ชายที่เธอหมายปองเล่า!
หนูนิดคิดด้วยความสับสนและไม่พอใจ แต่แล้วก็ต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านเหล่านั้นไปแล้วรีบฉีกยิ้มแจกความสดใสให้อากาศในห้องก่อนที่เธอจะเดินลงไปยังห้องครัว ทว่ายังไม่ทันไปถึงห้องครัวก็ต้องหยุดชะงักเพราะเสียงเรียกของชายหนุ่มได้หยุดไว้
“หนูนิด”
“คะพี่เพลิง”
“วันนี้ไม่ต้องทำอาหารเช้านะ”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ หรือว่าหนูนิดทำอาหารไม่ถูกปาก ถ้าพี่เพลิงไม่ชอบบอกหนูนิดได้นะคะ หนูนิดจะได้ปรับปรุงรสชาติ” หนูนิดรีบพูดเมื่อถูกบอกว่าไม่ให้ทำอาหาร เธอกลัวว่าชายหนุ่มจะไม่ชอบอาหารที่เธอทำแล้ว
“เอาละใจเย็น ๆ ก่อน” ผู้กองเพลิงรีบพูด เมื่อเห็นว่าแมวจอมซนตัวนี้วิตกกังวลเกินเหตุ
“ที่บอกไม่ให้ทำอาหารเพราะวันนี้จะพาไปทานข้าวนอกบ้าน จะได้แนะนำให้รู้จักเพื่อนบ้านที่อยู่ข้าง ๆ หากวันไหนพี่ไปทำงานแล้วหนูนิดเกิดเหงาจะได้ไปคุยเล่นกับพี่ป้าน้าอาได้”
“จริงนะคะ”
“จริงสิ รอพี่ก่อน พี่อาบน้ำเดี๋ยวเดียว แล้วจะพาไป” หนูนิดพยักหน้ารับคำแล้วไปนั่งรอที่โซฟาห้องรับแขกอย่างว่าง่าย
ผู้กองเพลิงมองคนที่ชอบพูดว่าตัวเองโตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ อย่างอ่อนใจ ไอ้ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน ไม่เด็กก็อาจจะใช่แต่การเอาแต่ใจหรือไม่พอใจอะไรก็ประท้วงรีบแย้งนี่มองยังไงก็เป็นผู้ใหญ่ไม่รู้จักโตชัด ๆ แล้วจะไม่ให้เขาเอ็นดูได้ยังไง
ผู้กองเพลิงยังมองหนูนิดด้วยรอยยิ้ม ยิ่งคิดถึงเหตุผลที่สาวเจ้าตัดสินใจมาขออยู่กับเขาก็ยิ่งยิ้มขำ ไม่รู้ว่างานนี้ใครวางแผนกันแน่ เพราะไม่ว่าจะมองยังไงคนที่มีแต่ได้กับได้ก็มีเพียงเขา
ยิ่งคิดมุมปากก็ยิ่งฉีกรอยยิ้มกว้าง ผู้กองหนุ่มจึงรีบละสายตาจากหญิงสาวแล้วตรงไปอาบน้ำทันที
30 นาทีต่อมา
“รอนานไหมครับ”
“ไม่นานค่ะ ให้รอทั้งชีวิตยังได้เลย” ประโยคแรกตอบชายหนุ่ม ประโยคหลังหญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แต่มีหรือคนที่ฝึกประสบการณ์พิเศษอย่างผู้กองเพลิงจะไม่ได้ยิน
ทว่าแม้เขาได้ยินก็ไม่คิดที่จะบอกให้หญิงสาวรู้ เพราะการได้มองคนตัวเล็กวางแผนจัดการเขามันสนุกเสียยิ่งกว่าสนุก ซ้ำยังทำให้เขามีความสุขมาก ๆ อีกด้วย
แม้ว่าบางครั้งเธอจะดื้อไปบ้าง แต่เพราะว่าเธอดื้อจึงสามารถเข้ามาเขย่าหัวใจของเขาได้
“ไปกันเถอะครับ หนูนิดคงหิวแล้ว”
“ค่ะ”
ทั้งสองเดินออกจากบ้านเคียงคู่กัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปปิดประตูบ้านและล็อกกลอนไว้อย่างดี
“ว่าแต่พี่เพลิงจะเอารถคันไหนไปเหรอคะ” หนูนิดถามอย่างสงสัยเพราะเธอเห็นเพียงรถยนต์ที่จอดอยู่ แค่ไปทานข้าวในหมู่บ้านเขาคงไม่ใช้รถคันนี้หรอก ดังนั้นเธอจึงได้ถามออกไป
“รถมอเตอร์ไซค์ครับ”
“อะไรนะคะ!” หนูนิดร้องถามด้วยความตกใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่สามารถนั่งรถคันนั้นได้ เพียงแต่ว่าเธอไม่เคยเห็นรถที่ว่าเลยสักครั้งตลอดอาทิตย์ที่เธออาศัยอยู่ที่นี่จึงอดที่จะถามออกไปไม่ได้
“หึหึ ไม่ต้องตกใจ เราจะไปรถลูกรักพี่กัน” ผู้กองเพลิงพูดจบ มือข้างขวาก็กดปุ่มบางอย่างที่รีโมตเล็ก ๆ ก่อนที่พื้นโรงจอดรถจะเปิดขึ้น จากนั้นรถมอเตอร์ไซค์ลูกรักของเขาก็ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมาให้หนูนิดได้เห็น
หญิงสาวอ้าปากมองตาค้าง เพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะสร้างโรงเก็บรถไว้ด้านล่างพื้นที่เธอเหยียบอยู่
“มาครับขึ้นรถ ไม่ต้องอึ้ง” ผู้กองเพลิงพูดพร้อมทั้งดึงมือหนูนิดให้มาซ้อนท้ายรถเขา ใช้มือใหญ่ของตัวเองบังคับให้หญิงสาวกอด
เสร็จเรียบร้อยจึงขับรถออกจากบ้านไป
“นั่งนิ่งจังเลยนะครับ แสดงว่าที่บ้านซ้อนบ่อยเหรอ”
“ค่ะ ชอบซ้อนตอนไปโรงเรียนมันสะดวกและเร็วดี”
“งั้นสินะ”
“ใช่ค่ะ”
ผู้กองเพลิงไม่ชวนหญิงสาวคุยอะไรอีก รีบขับรถพาคนตัวเล็กมุ่งตรงไปยังร้านข้าวที่มีชื่อที่สุดในหมู่บ้านทันที
“ถึงแล้วครับ” ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึงร้านอาหารที่ว่า
“ร้านอาหารตามสั่งเหรอคะ”
“ครับ” หนูนิดพยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงเข้าไปนั่งโต๊ะในร้านแล้วอ่านรายการอาหารอย่างสนใจ
“ของผมเหมือนเดิมนะครับป้าจอย”
“ค่ะผู้กองเพลิงสุดหล่อ วันนี้พาสาวมาด้วยเหรอคะ แล้วจะสั่งอะไรล่ะ” ป้าจอยผู้ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งแห่งนี้ถาม
“เอาเหมือนพี่เพลิงค่ะ” เมื่อไม่เห็นชายหนุ่มตอบรับหรือปฏิเสธ
หนูนิดก็ชิงบอกออกไปทันที หญิงสาวอยากรู้ว่าเหมือนเดิมของชายหนุ่มนั้นคืออะไร เวลาอยู่ที่บ้านเธอจะได้ทำให้เขาทาน แม้ว่าเธอจะเคยบอกว่าตามสืบเรื่องราวของเขามาแล้วก็เถอะ
การสืบเรื่องราวของผู้กองเพลิงคนนี้ไม่ใช่เรื่องอยาก ทว่าสิ่งที่เธอรับรู้จะมีเพียงผิวเผินกับเรื่องเด่น ๆ ของชายหนุ่มเท่านั้น ฉะนั้นหากเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขา หรือชีวิตส่วนตัวเธอก็แทบจะไม่รู้อะไรเลย ยิ่งได้ยินเขาพูดว่าเหมือนเดิมทันทีที่มาถึงร้านอาหารแห่งนี้จึงอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
แต่ว่าหนูนิดรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่จะได้รู้เมนูอาหารที่เขาชื่นชอบอีกได้ไม่นาน ก็ต้องหุบยิ้มเพราะมีหญิงสาวบางคนที่อยู่ในร้านอาหาร
ส่งสายตามาให้ชายหนุ่มอยู่ตลอด
“เป็นอะไร”
“เบื่อค่ะ” หนูนิดตอบด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ทั้งยังหันหน้าหนีเขาจน
ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ หากแต่เมื่อลองสังเกตดูก็ทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าอะไรทำให้หญิงสาวตรงหน้าเป็นแบบนี้ไปได้
“ธรรมดาของคนหล่อครับ” ผู้กองเพลิงพูด พร้อมทั้งมองหนูนิดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“หึ! ใครเขาถามกัน ไม่ต้องพูดเลย ถ้าข้าวมาแล้วรีบทานนะคะจะได้รีบกลับ หนูนิดง่วงนอน!”
ได้ยินคำพูดของหนูนิดผู้กองหนุ่มก็ยิ่งขบขัน แต่ก็ไม่ได้แหย่ให้เธอรู้สึกไม่ดีอีก คนอย่างหนูนิดไม่ควรล้อเล่นด้วยมากเพราะผลที่ตามมาอาจเป็นเขาที่รับไม่ได้
เอาเป็นว่าแกล้งวันละนิดให้จิตแจ่มใสก็พอ รอจนจัดการภารกิจล่าสุดเสร็จค่อยสานความฝันเธอให้เป็นจริงก็ยังไม่สาย
ผู้กองเพลิงซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้ นั่นยิ่งทำให้สาว ๆ ที่จับจ้องเขาอยู่ตลอดเห็นอาการแบบนั้นของเขาอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้หญิงสาวอย่างหนูนิดรู้สึกขุ่นเคือง สุดท้ายชายหนุ่มจึงต้องแก้สถานการณ์พาเธอกลับมาทานข้าวที่บ้านแทน
