บท
ตั้งค่า

4

เขาได้ยินเธอแทนตัวเองว่าหอม แต่อยากรู้ชื่อจริง มองแล้วอมยิ้ม รู้สึกมีความสุขที่ได้คุยกับเธอ หัวใจพองโตคับอกที่เธอยิ้มกับเขาและยอมคุยด้วย

“ว่านหอมค่ะ เรียกหอมก็ได้ พี่ชื่ออะไรคะ”

“พี่ชื่อกริชครับ ขายผักอะไรบ้างครับ”

เธอมองสาวน้อยที่ใส่ผ้าถุง สวมเสื้อคอกระเช้าสีชมพูหวาน มีเสื้อแขนยาวสีเข้มสวมทับอีกชั้นหนึ่ง เขาเหลือบมองความขาวผ่องของเธอเพราะเสื้อคอกระเช้าทำให้ด้านหน้าเว้าลงมาพอสมควรก็หน้าแดง

กริชกระแอมเบาๆ เสมองไปทางอื่น อยากจะเขกหัวตัวเองแรงๆ ไม่กล้ามองคู่สนทนาอีก กลัวเธอจะหาว่าเขาลามก

แต่สายตาเจ้ากรรมดันหันไปก็จ๊ะเอ๋กับความขาวๆ เหนืออกของเธอที่สวมเสื้อคอกระเช้านี่สิ

“ขายผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาวและก็ผักคะน้าค่ะ ส่วนพวกผักริมรั้วตำลึงหรือยอดไม้ต่างๆ ชาวบ้านที่นี่เขาก็ไปเก็บกินกันค่ะ ไม่ต้องซื้อต้องขายกันหรอกค่ะ แต่บางคนก็ขายนะคะ เอาพวกผักกูดมาขายเพราะมีพวกทำงานประจำเขาแวะมาซื้อผักปลอดสารพิษกันค่ะ”

“ตอนเด็กๆ พี่ชอบตามป้าไปเก็บผักกูดมาต้มกะทิ”

เขาชวนคุยไม่ยอมไปไหน

“ผักกูดต้มกะทิอร่อยเชียวค่ะ”

เธอยิ้มหวานให้เขา กริชยิ้มตอบ มีความสุขที่ได้สนทนากับสาวน้อยตรงหน้า

“พี่ยืนนานๆ เมื่อยไหมคะ”

เธอมองที่นั่งข้างกายเป็นแคร่ไม้ไผ่เล็กๆ ด้านหน้าเธอวางผักเอาไว้สี่ชนิด ก็ยังพอให้เขานั่งได้

“ไม่เป็นไรครับ”

เขาบอกอย่างเกรงใจ เขาเป็นผู้ชาย การที่จะไปนั่งเบียดกับผู้หญิงมันก็ดูไม่งาม เธอจะเสียหายเปล่าๆ

“พี่พักอยู่ที่ไหนคะ กับป้าสายหยุดเหรอ”

“ใช่ครับ แต่เดี๋ยวจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของคุณย่าน่ะครับ”

ที่ดินตรงนั้นเป็นของย่าเขา ปู่แต่งงานกับย่าก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เพราะปู่เป็นคนอีกจังหวัดหนึ่ง

“บ้านของณย่าพี่เหรอคะ”

เธอถามอย่างสนใจ

“ย่าประไพน่ะครับ พี่จะมาอยู่ที่นั่น”

“บ้านหลังนั้นร้างไม่ใช่เหรอจ๊ะ”

เธอถามอย่างแปลกใจ คือแปลกใจที่เขากล้าอยู่ มีคนลือกันว่าบ้านหลังนั้นมีผีสิงด้วย

“ใช่ครับ ร้างมาหลายปีแล้ว แต่พี่ไปทำความสะอาดมาแล้วครับ กะว่าพรุ่งนี้จะไปถางหญ้าเสียให้หมด ที่ดินหลังบ้านก็รกร้าง แต่กว้างขวาง ว่าจะทำเกษตรน่ะครับ”

“พี่กล้าอยู่เหรอคะ”

“ทำไมครับ”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ/ พี่ซื้อผักบุ้งเหรอคะ”

เธอหันไปสนทนากับลูกค้า กริชเลยไม่อยากรบกวนเมื่อเห็นว่าป้ากำลังเดินหาเขาอยู่ จึงเดินไปหาท่าน อีกอย่างก็คิดว่าเขาต้องได้เจอเธออีกแน่ๆ เพราะเธออยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับเขา

ว่านหอมขายผักบุ้งให้ลูกค้า เงยหน้าขึ้นมาอีกทีกริชก็หายไปแล้ว เธอมองหาแต่ไม่เจอจึงขายผักต่อจนหมด

ว่านหอมเดินกลับบ้านก็คิดถึงชายหนุ่มแปลกหน้าขึ้นมา เธอเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว จู่ๆ ก็รู้สึกดีๆ กับผู้ชายคนนั้น อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

รุ่งขึ้นกริชมาถางหญ้าข้างบ้านจนโล่งเตียน ส่วนที่ดินอีกสิบไร่ด้านหลังเขาคิดว่าจะค่อยๆ ถางเพื่อจะปลูกพืชหลายๆ อย่าง นอกจากเอาไว้กินแล้ว ก็ยังขายได้ด้วย อาจไม่ได้ขายในหมู่บ้านเพราะเป็นตลาดเล็ก คิดว่าไปขายในตัวจังหวัดน่าจะดี เขาลองเดินสำรวจเท่าที่สำรวจได้ มีต้นไม้ใหญ่ๆ หลายต้น หลายต้นเป็นผลไม้มองเห็นจากโคนที่เขาไปยืนดูอยู่ อีกทั้งหลังบ้านยังมีคลองเล็กๆ ไหลผ่านอีกด้วย ถือว่าเหมาะแก่การเพาะปลูกทำการเกษตรมากๆ

“ที่นอนหมอนมุ้ง พอนอนได้ไหมกริช”

ป้าสายหยุดเอ่ยถามหลานชายขณะมาช่วยจัดบ้านให้เรียบร้อย บ้านโล่งไม่มีอะไรเลย แต่บ้านยังดีอยู่ พื้นไม้โครงหลังคาใช้งานได้ดี หลังคาเป็นกระเบื้องดินแบบโบราณ ซึ่งกระเบื้องแบบนี้ทำให้บ้านไม่ร้อน ไม่เหมือนกระเบื้องในปัจจุบันแม้จะเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงก็ร้อน ตอนกลางวันต้องลงไปอยู่ใต้ถุนหรือติดแอร์บนบ้าน มีบางจุดต้องซ่อมซึ่งเขาคิดว่าจะจัดการให้เรียบร้อย

“นอนได้ครับป้า ขอบคุณมากๆ นะครับ คุณลุงกับคุณป้าย้ายมาอยู่กับผมไหมครับ”

“ใจก็อยากย้ายมาอยู่ด้วยหรอกนะลูก แต่ลุงกับป้าก็ต้องทิ้งบ้านตัวเอง เป็นห่วงบ้านอีก นอนที่อื่นไม่เหมือนนอนบ้านตัวเอง อีกอย่างกริชอยู่คนเดียวก็ดีนะ เผื่อมีลูกเมียจะได้พามาอยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวแยกเป็นสัดส่วน ลุงกับป้ามาอยู่ด้วยอาจจะอึดอัดเสียเปล่าๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel