บท
ตั้งค่า

2

คนถามเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะกะพริบตาไปมา

“กริชหลานป้า”

“ครับป้า ผมกลับมาแล้ว”

กริชก้มลงไปกราบที่ตักของป้าสายหยุด ท่านร้องไห้โฮออกมาในทันที ลูบหัวลูบไหล่ลูบหลังและกอดรัดอย่างแสนคิดถึง

“ไม่ได้เจอกันนานเหลือเกิน กริชโตขึ้นมาก เป็นหนุ่มแน่น แข็งแรงกำยำแข็งแรง ป้าแทบจำไม่ได้”

สายหยุดดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“พี่ชาญดูสิจ๊ะว่าใครมา”

สายหยุดหันไปพูดกับสามีที่นั่งอยู่บนรถเข็ญเก่าๆ สภาพของผู้เป็นลุงทำให้กริชสะท้อนใจนัก ท่านป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบจนเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็ญ แต่ก็ยังมานั่งเฝ้าร้านขายของชำเล็กๆ ช่วยเมียขายของ

กริชรู้ดีว่าลุงกับป้าของเขารักกันมาก ทั้งสองเคยอยากมีลูกมากๆ แต่มีไม่ได้ คุณลุงบอกว่าไม่มีลูกก็ไม่เป็นไร แค่ฉันมีเธอก็ดีที่สุดแล้ว ป้าของเขาร้องไห้โฮออกมาเพราะเคยไล่ให้ลุงไปหาเมียใหม่ ถ้าอยากมีลูกด้วยกัน

“กริชเหรอลูก”

ชาญยกมืออันสั่นเทาขึ้น สายตาบ่งบอกถึงความดีใจอย่างที่สุด กริชคุกเข่ากราบที่ตักของท่าน ชาญวางมือบนศีรษะของหลานชายน้ำตาซึม

“ต่อจากนี้ไปผมจะกลับมาช่วยดูแลลุงกับป้านะครับ จะไม่ไปไหนอีก”

ชาญกับสายหยุดยิ้มทั้งน้ำตา บั้นปลายชีวิตก็อยากมีลูกหลานอยู่ใกล้ๆ เพราะแก่ตัวลง จะเดินจะเหินก็ลำบาก เรี่ยวแรงก็ไม่มีเหมือนก่อน

ถ้ามีลูกหลานมาอยู่ใกล้ๆ มันก็อุ่นใจ เบาแรงไปเยอะ ท่านคิดว่าทรัพย์สมบัติพอมี กริชเป็นคนขยันกลับมาอยู่บ้านไม่อดตายแน่นอน แค่อาจจะไม่รวยเหมือนพวกที่ไปทำงานอยู่ในเมืองก็เท่านั้น

“มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำดื่มท่า ทานข้าวทานปลากันก่อนดีกว่า เดี๋ยวป้าจะพาไปดูบ้านของย่าเราที่เขายกให้เรา ไม่มีใครสนใจเลย รกร้างว่างเปล่ามาหลายปี”

สายหยุดรีบจัดหาน้ำท่าและอาหารการกินมาต้อนรับหลานชาย เธอเป็นเพียงพี่สาวของมารดากริช จึงไม่มีสิทธิ์เข้าไปดูแลบ้านช่องของปู่ย่ากริชที่ยกให้หลาน เมื่อทุกคนปฏิเสธ สุดท้ายกริชจึงได้บ้านหลังนั้นไป

“ครับป้า”

กริชรับคำก่อนจะกินน้ำกินท่าและรับประทานอาหารร่วมกับลุงและป้า เขามองป้าป้อนข้าวให้ลุงแล้วอมยิ้ม ไม่ว่าจะกี่ปี ลุงกับป้าของเขาก็ยังรักกันเหมือนเดิม ตอนหนุ่มๆ สาวๆ หวานกันอย่างไร ตอนนี้ก็ยังหวานกันอยู่

เขาพักจนหายเหนื่อยป้าก็พาไปดูบ้านเรือนไทยเก่าแก่ หญ้าขึ้นรกร้าง ตัวบ้านมีส่วนที่ต้องซ่อมแซมหลายจุด

บ้านทรงไทยแบบโบราณเก่าแก่ทั้งน่าเกรงขามทั้งน่าทึ่งและน่าอนุรักษ์ไปในความรู้สึกเดียวกัน

“พออยู่ได้ไหมลูก มีบ้านมีช่องดีกว่าเช่าเขาอยู่ ดินที่นี่อุดมสมบูรณ์ อากาศก็ดีไม่วุ่นวาย รู้จักทำมาหากินก็ไม่อดตายหรอกลูก”

“อยู่ได้ครับป้า”

“ดีแล้วล่ะ บ้านช่องน่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้มันจะยิ่งทรุดโทร แต่ถ้ามีคนอยู่มันจะไม่เก่าไม่ผุพัง ขาดเหลืออะไรก็บอกป้านะ ที่ดินของปู่ย่าเราน่ะเป็นสิบไร่เชียวนะหลังบ้าน ลูกๆ หลานๆ หนีเข้าเมืองกรุงกันหมดไม่มีใครเอา จริงๆ ก่อนกริชจะกลับมา คนอื่นก็มาดูแล้วล่ะ มาเจอทางเข้าหมู่บ้านและความรกร้างก็หนีกลับกันหมด เขาว่าซื้อบ้านจัดสรรสวยๆ อยู่ในเมืองดีกว่า แล้วบางคนเขาอยู่อะไรนะ โดๆ นะ”

“คอนโดครับป้า”

“นั่นแหละ อยู่เมืองกรุงข้าวของทุกอย่างต้องซื้อ จะหากินแบบบ้านเราไม่มีหรอก ผักหญ้าก็มีแต่สารพิษ ที่นี่พืชผักสวนครัวปลูกไว้ก็หากินเอาได้ ริมรั้วก็มีผักให้เด็ดจิ้มน้ำพริกสดๆ สบายจะตายไป”

ป้าสายหยุดพูดไม่หยุด ดีใจที่หลานจะกลับมาอยู่ใกล้ๆ

“จริงครับป้า”

นานๆ กริชจะตอบผู้เป็นป้าสักคำสองคำเพราะเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด

“เราอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงรับรองไม่เป็นหนี้ ตายไปไม่ได้เอาอะไรไปสักอย่างนึง มีชีวิตอยู่ก็ขอให้สบายมีความสุขกายสุขใจ อยู่ที่อากาศดีๆ กินอาหารดีๆ ปลอดสารพิษป้าว่าดีที่สุดแล้ว เมืองกรุงมีแต่คนหลอกลวง สิ่งไม่ดีเต็มไปหมด มัวเมาผู้คนให้ลุ่มหลง คนก็ไม่จริงใจต่อกัน ใส่หน้ากากเข้าหากัน”

“ครับป้า”

กริชรับคำแล้วยิ้ม เขาเข้าใจในคำพูดของป้าเขาดี พวกท่านมักคิดแบบนี้ แต่ใช่ว่าเมืองกรุงจะไม่ดีไปเสียหมด ทุกอย่างมีดีและไม่ดี แม้แต่ในชนบทแบบนี้ก็เถอะ อากาศดี ที่ดินดี ปลอดสารพิษ อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ใช่มันดีจริง แต่ความเจริญเข้าไม่ถึง การติดต่อสื่อสารการคมนาคมหรือแม้แต่ยารักษาโรค หมอพยาบาลเอย สู้เมืองกรุงไม่ได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel