บท
ตั้งค่า

บทนำ (ต่อ)

พูดจบก็เดินออกไปจากบริเวณนั้น ที่เขาวางใจเป็นเพราะพอเหลือบไปที่จานข้าวก็พร่องไปเกือบครึ่ง นางคงกินข้าวที่เขาให้ผสมยาไปแล้วคงหนีไปไหนไม่รอด

เสียดายที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มมุมปากของหญิงสาวตรงหน้า ไม่งั้นเขาอาจไม่วางใจขนาดนี้ก็เป็นได้

ชายร่างกำยำสองคนเดินเข้ามาค่อย ๆพยุงร่างบางลงจากรถม้า ไป๋ซูเมิ่งก้มหน้าลงให้ผมร่วงปรกหน้าพลางเหลือบสายตามองรอบ ๆผ่านเส้นผม

…รอบด้านเป็นป่าจริง ตอนนี้ขบวนกำลังเดินทางไปตามทาง น่าจะเป็นเพราะใกล้ค่ำแล้ว ฟ้ามืดเเต่ก็พอมีเเสงสว่างอาจเป็นยามโหย่ว1 นอกจากสองคนที่กำลังพยุงนางก็ยังมีชายร่างกำยำอีกหลายคนกระจายรอบรถม้าทุกคนมีดาบเหน็บที่เอว

หากนางต้องปะทะจริงโอกาสชนะน้อยมากเพราะยามนี้เเรงของนางก็ยังกลับมาไม่ครบ และร่างนี้ดูเหมือนจะไม่เคยใช้แรงเยอะมาก่อน รูปร่างผอมบางเกินไป หากเป็นชาติก่อนจำนวนคนแค่นี้นางเอาชนะได้ง่ายมาก คงทำได้แค่ทุ่มสุดฝีเท้าหนีแล้วล่ะ

ตัดสินใจได้ดังนั้นจึงยินยอมให้ชายทั้งสองพยุงเดินไปที่พุ่มไม้ไม่ไกล พอถึงนางก็มองหน้าชายทางขวาพลางส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนพยักเพยิดหน้าไปทางพุ่มไม้อีกอันที่ไกลว่านี้ ก่อนก้มหน้าทำเป็นเขินอาย

“พานางไปพุ่มไม้อันนู้นเถอะ”

หลังได้รับสายตาอ้อนวอนนั้นใจก็อ่อนยวบ รีบบอกชายอีกคนที่พยุงแขนอีกข้าง

“จะดีรึ?”

“เออ เถอะน่านางหนีไปไหนไม่ได้หรอก”

สิ้นสุดคำพูดเขาก็ก้าวเท้านำไปยังพุ่มไม้อีกอันที่อยู่ไกลกว่า โดยข้างๆมีต้นไม้ใหญ่ ใบของต้นไม้นี้ขนาดไม่ใหญ่กว่าฝ่ามือแต่แย่งกันผุดออกจากกิ่งจนแม้เดินเข้าไปใต้ต้นไม้ก็ยังเห็นเพียงตัวใบเขียวขจี ราวกับว่าเป็นต้นไม้ไร้กิ่งก้าน

“เเม่นางปลดทุกข์เสร็จแล้วส่งสัญญาณให้พวกข้ารู้นะ เดียวพวกข้าไปรอตรงนู้น”

ชายคนทางขวาชี้มือไปทางพุ่มไม้ก่อนหน้าพลางดึงมือชายอีกคนเร่งเดินออกไป เขาเงยหน้าไปสบเข้ากับดวงตาใสกระจ่างคู่นั้นพลันหน้าอันหยาบกร้านขึ้นสีเเดงระเรื่อ แม้ดวงหน้าจะเปื้อนไปด้วยคราบดินแต่ดวงตาคู่นั้นหวานเยิ้มล่อลวงใจยิ่งนัก พวกเขาแม้จะเป็นโจรแต่งานที่รับก็เป็นคุ้มกันส่งของหรืองานที่ต้องใช้กำลังชายชาตรีเท่านั้น ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดรับจ้างฆ่าคน อย่างไงเขาก็ยังเป็นบุรุษที่ขาดสตรีไม่ได้และหลงรักในเงินทอง พอสบกับลูกไม้ของหญิงงามก็ใจอ่อนเป็นธรรมดา

ไป๋ซูเมิ่งพยักหน้าเบา ๆ เอนร่างพิงต้นไม้ใหญ่อย่างคนไร้เรี่ยวแรง นางรอให้ชายทั้งสองเดินห่างออกไปไกล กวาดสายตาไปบริเวณรอบ ๆคิดหาหนทางหนี รอบด้านมีต้นไม้ขึ้นบางเบา พอมองลึกเข้าไปใบแถบป่าจึงมีต้นไม้หนาเเน่นขึ้น ทว่าหากนางวิ่งหลบเข้าไปในป่าคาดว่าอย่างไรก็ต้องถูกหาพบเป็นแน่

คิ้วเรียวขมวดมุ่นไม่กี่อึดใจริมฝีปากบางก็หยักยกเจ้าเล่ห์…

“นี่ก็ผ่านไปหลายเค่อ1แล้วนะ เจ้าว่านางปลดทุกข์นานไปรึไม่?”

พวกเขาทั้งสองยืนหันหน้าออกจากทางที่พาเเม่นางมาปลดทุกข์ ยืนรอสัญญาณมานานจนอดประหลาดใจมิได้

“นั่นสิ ข้าว่าไปดูสักหน่อยเถอะ ไม่ใช่ว่านางจะถูกสัตว์ป่าคาบไปกินแล้วนะ”

พุดจบชายกำยำทั้งสองก็ก้าวเท่าเร่งรีบมุ่งไปทางที่ปล่อยหญิงสาวไว้ก่อนหน้า

พลันสีหน้าตื่นตระหนกก็ปรากฏบนใบหน้าทั้งสอง

…หายไปแล้ว!! หลังพุ่มไม้ว่างเปล่าไร้ซึ่งหญิงงามแววตาหวานเยิ้มคนเมื่อครู่

พอมองไปรอบ ๆไร้ซึ่งรอยเท้าสัตว์ป่า ไร้รอยเลือด มีเพียงรอยยุบบางเบาบนพื้นดิน เป็นรอยเท้าแบบคนกึ่งเดินกึ่งลากเท้ามุ่งหน้าไปทางป่ารกทึบเบื้องหน้า

พรึบ ๆ

พงไม้ในป่าขยับดึงความสนใจของชายทั้งสอง

“เจ้าไปบอกหัวหน้า เดี๋ยวข้าไปตามนางเอง!”

พูดจบก็พุ่งตัวไปทิศกำเนิดเสียงก่อนหน้าทันที แววตาเย็นชาฉายวาบหึ! นางคิดว่าจะหนีพ้นเงื้อมมือพวกเขารึ ฝันไปเถอะ..

กลุ่มชายฉกรรจ์เกือบสิบคนที่เฝ้าอยู่รอบรถม้าได้รับข่าวจากชายคนที่วิ่งมาบอกก็กระจายกำลังออกค้นหาทันที ค้นหานานกว่าครึ่งชั่วยามก็ไร้ซึ่งร่องรอย พวกเขาค้นหาทั่วสารทิศ ทั้งบริเวณลึกเข้าไปตามแนวป่า ย้อนไปตามทางที่มา และเส้นทางเบื้องหน้าก็ยังไร้วี่แววใดใด ยามนี้ฟ้ามืดแล้วนางเป็นเพียงสาวน้อยยังไม่ถึงวัยปักปิ่นไม่น่าจะวิ่งหนีรอดพ้นสายตาพวกเขาไปได้ เป็นไปได้ว่าอาจมีผู้อื่นช่วยไว้ คิดได้ดังนั้นผู้เป็นหัวหน้าจึงสั่งให้คนล่วงหน้าไปแจ้งข่าวแก่นายท่านและที่เหลือตัดสินใจย้อนกลับไปทางเดิม ทำให้บริเวณที่เคยโกลาหลกลับมาเงียบสงบอีกครา…

ตุ๊บ!

ร่างอันบอบบางกระโดดลงจากต้นไม้สูงเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อยก่อนกลับมายืนอย่างมั่นคง ไป๋ซูเมิ่งกวาดสายตามองโดยรอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันไปแล้ว ริมฝีปากบางพลันแย้มยิ้มดวงตาเปล่งประกาย สองมือปัดเศษใบไม้ทั่วตัว ร่างระหงก้าวเท้าออกเดินไปยังเส้นทางมุ่งสู่เมืองซีเปียนซึ่งเป็นเมืองที่กองโจรที่ลักพาตัวนางมาก่อนหน้ากำลังมุ่งหน้าไป ที่เลือกทางนี้เพราะคนในกองโจรส่วนใหญ่ไปอีกทางนั่นเอง แม้ไปทางนี้จะดูเหมือนเดินเข้าหาอันตรายแต่นางก็คิดว่าอาจปลอดภัยกว่าการไปเจอพวกโจรที่เคยเห็นหน้านางมาแล้ว

ต้นไม้ที่ปีนขึ้นไปหลบนั้นไม่ใช่ต้นไหนไกลเลยคือต้นที่อยู่ข้างๆพุ่มไม้ที่นางลวงว่าจะปลดทุกข์นั่นเอง เคราะห์ดีที่ต้นไม้ต้นนี้มีใบขึ้นหนาเเน่นเป็นพิเศษ นางจึงลอบปีนขึ้นไปหลบบนนั้นตอนช่วงที่ทุกคนไม่ได้หันมามองนางและก็อาศัยช่วงเวลาตอนชายสองคนที่พยุงนางมาส่งเริ่มรู้สึกตัวหันกลับมา นางก็โยนก้อนหินขนาดไม่ใหญ่มากไปทางป่าที่มีต้นไม้ขึ้นรกทึบเพื่อชักจูงความคิดว่านางต้องหนีเข้าป่าไป คงไม่มีใครคาดว่าแม่นางน้อยในห้องหอจะสามารถปีนขึ้นต้นไม้ได้ ทำให้ไป๋ซูเมิ่งรอดมาได้อย่างหวุดหวิดด้วยทักษะการปืนป่ายที่ได้ติดตัวมากจากชาติก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel