บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ผู้มีพระคุณ

วสุรับคำแล้วขับรถตามก่อนจะชะลอรถและจอดด้านข้างเธอ ร่างเล็กจึงชะงักเท้าให้หยุดเดิน ไม่เข้าใจว่าสองคนนี้ต้องการอะไรจากเธอ ในใจทั้งรีบทั้งกลัว

“ขึ้นรถ ฉันจะไปส่งที่บ้าน” เขาเลื่อนกระจกลงแล้วตะเบ็งเสียงแข่งกับสายฝน

“ไม่ค่ะ พวกคุณไปเถอะฉันจะเดินไปเอง” เธอตะโกนตอบกลับไปพร้อมโบกมือ เธอไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นใครและไว้ใจได้มากแค่ไหน

น่านฟ้ารู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางอวดเก่งของเด็กคนนี้จนทนไม่ไหว เปิดประตูลงจากรถดึงร่มในมือเธอแล้วหุบมันไว้ จากนั้นอุ้มร่างอรชรลอยสูงขึ้นท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนักราวกับพระพิรุณทรงโกรธกริ้วมวลมนุษย์ ร่างที่เปียกอยู่แล้วก็ยิ่งเปียกหนักขึ้นทั้งคู่

“ว้าย! คุณปล่อยฉันนะ” กรรวีดิ้นสุดแรงเกิดในอ้อมแขนแข็งแรงของเขา มือหนารีบเปิดประตูรถแล้วทิ้งร่างเล็กลงบนเบาะหลังอย่างแรง จากนั้นร่างสูงก็ก้าวขึ้นไปนั่งด้านข้างเธอโดยเร็ว วสุมองเจ้านายหนุ่มด้วยความแปลกใจ แต่น่านฟ้าคงเหนื่อยจากการทำงานจึงไม่อยากจะพูดให้มากความ และถ้าปล่อยเด็กคนนี้ให้เดินไปตามถนนมันก็อันตรายเกินไป

“ทำไมไม่กลับเข้าบ้าน” น่านฟ้าเอ่ยถามเมื่อเขาเข้ามานั่งในรถ

“ฉันไม่มีบ้านค่ะ” กรรวีทำหน้างอดึงกระเป๋าสีน้ำตาลใบเล็กเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะตอนนี้เสื้อผ้าเธอเปียกไปหมดถึงในรถจะมืดก็เถอะแต่แสงไฟข้างถนนก็สาดส่องเข้ามาเป็นระยะ เสื้อยืดที่เธอใส่มามันแนบเนื้อจนมองเห็นรูปร่างของเธอชัดเจน น่านฟ้าเห็นดังนั้นจึงถอดเสื้อคลุมที่สวมตอนไปดูไร่อ้อยให้กับเธอ

“เอ้า ใส่ไว้ซะ เธอเป็นเด็กของเสี่ยซ้งใช่มั้ย” น่านฟ้าเอ่ยถามเพื่อเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่วสุบอกนั้นเป็นเรื่องจริง มือเล็กรับเสื้อมาแบบจำยอมเพราะตอนนี้ถ้าไม่มีอะไรมาสวมทับมีหวังสองคนนี้มองเห็นทุกสัดส่วนของเธอเป็นแน่

“เอ่อ…ค่ะ” เธอยอมรับไม่เต็มเสียงนักอย่างน้อยบารมีของเสี่ยซ้งก็น่าจะคุ้มกะลาหัวเธอได้บ้าง หากว่าใครคิดจะทำอะไรไม่ดีกับเธอ

“แต่นั่นไม่ใช่บ้านของฉัน ถ้าคุณจะให้ฉันกลับเข้าไปในบ้านหลังนั้นคุณช่วยไปส่งฉันที่คิวรถตู้ดีกว่าค่ะ” กรรวีรีบบอกเพราะกลัวเขาจะพาเธอกลับไปบ้านเสี่ยซ้งอีก

“ทะเลาะกัน?” ริมฝีปากหนามีรอยยิ้มหยันเล็กน้อย

เธอนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบเขาออกไป

“ค่ะ” จะบอกว่าไม่ใช่ก็กลัวจะมีภัยมาถึงตัว หากสองคนนี้ไม่ใช่คนดีนัก ถึงแสงไฟสลัวจะพอดูออกว่าเขาหน้าตาดี แต่นั่นก็รับประกันไม่ได้ว่าเขาจะเป็นคนดีเหมือนหน้าตา ยิ่งน้ำเสียงดุดันฟังแล้วยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่

“ก็เลยประชดผัว? เฮ้อ เด็กหนอเด็ก” เขาถอนหายใจเสียงดัง แต่ไม่ได้แปลกใจที่เด็กผู้หญิงหน้าตาดีสมัยนี้จะเลือกเป็นเด็กเสี่ย แค่ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆว่าทำไมถึงชอบประชดจนตัวเองต้องมาลำบากขนาดนี้

กรรวีทำท่าจะประท้วงแต่ก็ตัดสินใจเงียบไปก่อน เพราะยังไงเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอธิบายเรื่องทุกอย่างให้สองคนนี้ฟังอยู่แล้ว เพราะเด็กรุ่นเธอถ้าก้าวขาออกมาจากบ้านเสี่ยซ้งในเวลานี้คนก็คงมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ทางที่ดีเธอต้องหาทางออกไปจากจังหวัดนี้ให้เร็วที่สุด

“งั้นหอพักเธออยู่ที่ไหน”

“ไม่มีค่ะ”

“แล้วเธอกำลังจะไปไหน”

“เข้ากรุงเทพฯค่ะ”

“สภาพนี้?” น่านฟ้าถามเสียงสูง ที่วสุพูดคงไม่ผิดว่าเธอคงกำลังเรียกร้องความสนใจหรือไม่ก็โดนเสี่ยซ้งไล่ออกจากบ้าน และบ้านเธอเองคงไม่ได้อยู่ในจังหวัดนี้

“ค่ะ”

วสุขับรถไปแบบเงียบๆโดยไม่ออกความเห็นอะไร

ภายในบ้านเสี่ยซ้ง ป้าแดงยืนทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างเม็ดฝนกำลังเริ่มซาลงบ้างแล้ว

“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะใบหม่อน ขอให้หนูปลอดภัย ป้าเอาใจช่วยหนูนะลูกขอให้พระคุ้มครองหนูนะ” ป้าแดงคิดถึงตอนที่เธอทำงานกับดวงเดือนแม่ของกรรวี เธอเป็นคนที่มีน้ำใจ และคอยช่วยเหลือป้าแดงมาโดยตลอด

“ฉันช่วยลูกเอ็งได้แค่นี้แหละนะเดือน” ป้าแดงพึมพำกับตัวเอง ยืนเหม่อด้วยความเป็นห่วง คิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นแต่ฝนก็ดันมาตกเสียก่อน แต่ถ้าไม่หนีวันนี้ วันข้างหน้าอาจจะไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้

วสุจอดรถตรงคิวรถตู้แล้วเดินลงไปซื้อตั๋วให้เธอ ก่อนจะเดินกลับมาหน้าตาเป็นกังวล

“เอายังไงดีครับคุณน่าน ตอนนี้รถตู้เที่ยวสุดท้ายก็ออกไปแล้วนะครับ” วสุบอกกับน่านฟ้า เพราะคนขายตั๋วบอกว่าวันนี้ฝนตกหนักรถก็เลยออกก่อนเวลาสิบนาที น่านฟ้าทำท่าครุ่นคิด

“งั้นพาไปที่บ้านพักผมก่อน”

“จะดีเหรอครับคุณน่าน” วสุแย้งขึ้นมาเพราะไม่อยากให้น่านฟ้ามีปัญหากับเสี่ยซ้ง

“ไม่เป็นไรหรอกน่า เสี่ยซ้งไม่กล้าทำอะไรผมหรอก” น่านฟ้าพูดออกมาด้วยความมั่นใจ

กรรวีนั่งฟังทั้งสองคุยกันแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่พวกเขาจะรู้จักเสี่ยซ้ง เพราะคนในเมืองนี้รู้จักเสี่ยซ้งกันทั้งนั้น แต่ฟังจากสำเนียงแล้วผู้ชายสองคนนี้คงไม่ใช่คนในพื้นที่อย่างแน่นอน และเขาใหญ่โตมาจากไหนเสี่ยซ้งถึงต้องเกรงเขาด้วย

“แต่ฉันไม่อยากไปค่ะ” กรรวีพูดเสียงสั่นตอนนี้เธอกำลังหนาวมาก ทั้งจากเครื่องปรับอากาศและจากเสื้อผ้าที่เปียกชุ่ม น่านฟ้าหันขวับไปมองใบหน้าเด็กสาวที่มองไม่ชัดนักแต่ก็พอรู้ว่าเธอหนาว เห็นดังนั้นจึงบอกวสุให้ปรับเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เธอ

“อยากจะนอนตายอยู่ข้างถนนรึไง ไม่ได้ยินเหรอว่ารถเที่ยวสุดท้ายมันหมดแล้ว หรือเธอฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง แต่ถึงรถจะยังไม่หมดสภาพของเธอตอนนี้ ก็คงไม่มีใครเขาให้ขึ้นรถหรอก”

น่านฟ้าพูดออกมาด้วยความโมโห ถึงจะเดินตากแดดทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแต่ก็ยังไม่เหนื่อยเท่ากับคุยกับเด็กผู้หญิงคนนี้ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะยื่นมือเข้าไปช่วยเธอทำไม ทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของเสี่ยซ้งเลยสักนิด

เมื่อได้ยินเขาตวาดเธอจึงหุบปาก ยังไงก็ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าแล้ว เธอยังจะต้องกลัวอะไรอีก เพราะจะอยู่หรือไปความเสี่ยงก็ไม่ต่างกันอยู่แล้ว

“แล้วเราจะกินอะไรกันดีครับคุณน่าน” น่านฟ้าโทรบอกแม่บ้านไม่ต้องทำกับข้าวไว้รอเพราะไม่อยากให้ลำบากเพราะเขามาอยู่แค่ไม่กี่วัน จึงแค่ให้ทำความสะอาดบ้านไว้รอตามปกติแล้วให้กลับบ้านไป ไม่คิดว่าระหว่างทางฝนจะตกหนัก จนขากลับขับรถเร็วไม่ได้ จนทำให้กลับมาถึงมืด ขนาดเลือกเส้นทางที่คิดว่าใกล้สุดแต่ยังกลับมาเจอเรื่องไม่คาดคิดอีกช่างเป็นการมาตรวจงานที่ยุ่งยากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel