บทนำ เล่ห์รักนางโจร (5)
เชร่าที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเฆี่ยนตีกัดฟันกรอด ๆ นางพยายามทรงตัวลุกขึ้น และกวาดสายตามองหามารดาของตัวเอง ทว่าเชร่าก็ได้เห็นการต่อสู้อย่างดุเดือด เด็กน้อยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนพวกนี้มีความแค้นและบาดหมางใจด้วยเรื่องอะไร แต่ฝุ่นทรายที่ตลบอบอวลด้วยฝีเท้าของฝูงม้านั้นก็สร้างความหวาดผวาให้กับเชร่าเช่นกัน
นางงามตัวน้อยรู้แค่ว่าพ่อและแม่จะปกป้องนาง คิดได้เช่นนั้นเชร่าจึงทรงตัวลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก แล้วกวาดสายตาไปรอบ ๆ บริเวณผ่านละอองทรายที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ
“ท่านแม่!” นางรีบถลาเข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของนางมีนะทันที
“ท่านแม่ ท่านลืมตามาคุยกับข้าสิ” เชร่าพยายามปลุกมารดาของตัวเองด้วยการเขย่าร่างนั้นไปมา
แต่ร่างนั้นคงแน่นิ่งกับผืนทรายปราศจากการตอบรับใด ๆ ถึงแม้ว่าเชร่าจะร่ำไห้ปานขาดใจแล้วก็ตาม ยิ่งหันไปพบร่างของบิดาซึ่งถูกสังหารและนอนจมกองเลือด ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวประหนึ่งว่าถูกใครสักคนกระชากเอาดวงใจไปบดขยี้จึงเกิดขึ้นกับนางงามตัวน้อย
เชร่าไม่สนใจว่าคนเถื่อนรอบกายทำอะไรบ้าง ความโหดร้ายรอบกายถูกปัดเป่าทิ้งไปเมื่อนางซุกตัวกอดมารดาเอาไว้แน่นและร่ำไห้อยู่เช่นนั้น จนกระทั่งเสียงฝีเท้าม้าย่างเหยาะเข้ามาใกล้นั่นล่ะ เชร่าจึงผงกศีรษะขึ้นมา
ดวงตาของทั้งคู่สบกันนิ่ง และเชร่าก็เห็นแววแห่งความอาทรในดวงตาข้างเดียวของบุรุษผู้นั้น
“เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าชื่อเชร่า เป็นบุตรสาวของเสนาบดีอัฟฟาน”
“ข้ารู้จักพ่อของเจ้า...”
เด็กน้อยฝืนยิ้มชืดให้ หยาดน้ำตายังเปรอะเปื้อนแก้ม “หากท่านลุงเมตตา โปรดส่งข้าไปอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ของข้าเถิด”
รอยยิ้มนี้เองที่ทำให้ชายวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่บนม้าสีนิลตัวโตซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือคาดผืนหนังปิดดวงตาเอาไว้ข้างหนึ่ง และมีความสง่างาม ดูดุดัน น่าเกรงขามหรี่ตามองเด็กน้อยหน้าตามอมแมมอีกทั้งมีแผลเป็นเต็มตัว และเขาก็สะดุดเข้ากับความโดดเด่นของนางงามตัวน้อย
ดวงตาสีฟ้างามราวอัญมณีของนางที่ทอดมองมานั้นสร้างความรู้สึกประหลาดให้กับซูไรมาเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าถูกสะกด และดวงตาคู่นี้ทำให้เขาหวนนึกถึงบุตรสาวตัวน้อยที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ...
“ข้าพิพากษาเจ้าคนถ่อยที่สังหารพ่อกับแม่ของเจ้าด้วยคมดาบแห่งข้าแล้ว”
เชร่าพยักหน้า กระนั้นนางยังสะอึกสะอื้น ก่อนเหลียวหลังไปมองบริเวณที่คนสองกลุ่มปะทะกัน และนางงามตัวน้อยก็พบร่างคนถ่อยมีสภาพมิได้ต่างจากบิดาและมารดาของนางเลย
“มาด้วยกันเถิดนางงามตัวน้อย” จอมโจรอินทรีทะเลทรายเอ่ยปากชวน พลางยื่นมือมาให้ แต่เชร่ากลับเอาแต่นิ่งเฉยไม่ใยดี และกิริยาของเด็กน้อยนี้เองที่ทำให้จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ยกคิ้วขึ้นสูง แล้วมองหน้าผู้ติดตามที่ชักม้าเข้ามาใกล้
“เหตุใดเจ้าถึงเพิกเฉยต่อท่านซูไรมาผู้ยิ่งใหญ่เล่า ดรุณีน้อย?” อาลีผู้ติดตามรับใช้จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่เอ่ยขึ้นเมื่อพบความเฉื่อยชาในตัวของเด็กน้อย
“ข้าขออยู่กับครอบครัวของข้า” เชร่าตอบเสียงเรียบ ไม่มองหน้าชายวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่หลังม้าแม้แต่น้อย
“ไม่มีครอบครัวของเจ้าอีกแล้ว ดูเถิด ทุกคนจากเจ้าไป พวกเขาไปอยู่กับองค์เทวีแห่งแสงสว่างแล้วทั้งสิ้น”
เชร่าเงียบไป แล้วอาการสะอึกสะอื้นจนตัวสั่นเทาก็เกิดขึ้นอีกเมื่อนางตระหนักถึงความจริงอันแสนเจ็บปวด
“มาเถิด ข้าจักสร้างครอบครัวใหม่ให้เจ้า และข้าจักให้ลูกน้องของข้านำร่างพ่อและแม่ของเจ้าไปฝัง ก่อนที่จะถูกสัตว์ฉีกร่างนั้นเป็นชิ้น ๆ”
เชร่าลุกขึ้นยืนเมื่อได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ นางงามตัวน้อยยืนทอดอาลัยมองบุพการีเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดใจหันหลังให้ จากนั้นนางจึงยื่นมือที่เปื้อนคราบเลือดและฝุ่นทรายให้กับผู้มีคุณที่ช่วยแก้แค้นให้กับครอบครัวของนาง
“ข้าคือซูไรมา ยินดีต้อนรับเจ้าสู่ฝูงอินทรีทะเลทราย นางงามตัวน้อย” หัวหน้าฝูงอินทรีทะเลทรายกล่าวคำต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วเอื้อมมือมาฉุดให้นางงามตัวน้อยขึ้นมานั่งบนหลังม้าด้านหน้าเขา ก่อนมีคำสั่งให้ลูกสมุนของเขานำร่างของเสนาบดีอัฟฟาน และภรรยาไปฝัง จากนั้นเขาจึงควบม้าด้วยความเร็วสูงออกสู่ท้องทะเลทรายอีกครั้ง...
