12 อย่าพูดว่าเกรงใจ
ตลอดระยะเวลาที่ชญานิษฐ์นอนอยู่โรงพยาบาลสามคืนธีธวัชก็มาเยี่ยมหญิงสาวอยู่ทุกวันจนพยาบาลต่างพากันอิจฉาเพราะนอกจากความหล่อ ความรวยแล้วเขายังพ่วงด้วยความเอาใจใส่และความห่วงใยที่มีให้กับชญานิษฐ์อีกด้วย
วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องออกจากโรงพยาบาลเขาก็อาสาเป็นคนมารับเพราะณัฏฐพิมพ์มีนัดคุยงานกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่อยากให้ชญานิษฐ์นำสินค้ามาขายในไลฟ์สด
“พี่ธีไม่เห็นต้องลำบากมารับเลยนะคะ เนเน่รอให้หวานคุยงานเสร็จแล้วค่อยมารับก็ได้”
“แล้วถ้าเกิดเพื่อนของเนเน่คุยงานเสร็จเย็นเลยล่ะ เนเน่ไม่เหงาอยู่ตรงนี้คนเดียวเหรอ”
“ไม่เหงาหรอกค่ะ เนเน่มีโทรศัพท์เป็นเพื่อน”
ระหว่างที่หญิงสาวนอนอยู่โรงพยาบาลก็เอาสินค้ามารีวิวและถ้ามีเวลาว่างก็มักจะตอบคอมเมนต์ของแฟนคลับ ตั้งแต่มีข่าวเรื่องที่เธอเป็นแฟนกับธีธวัชออกไปก็เหมือนตัวเองจะมีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องมารับสิ”
“แต่เนเน่เกรงใจ ที่ผ่านมาพี่ธีก็มาเยี่ยมทุกวันเลย”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เราเป็นแฟนกันนะ”
“แต่พี่ก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ”
“พี่ว่าเนเน่เลิกคิดแบบนี้ได้แล้วนะ เพราะถ้าเนเน่เองไม่เชื่อว่าเป็นแฟนพี่แล้วคนอื่นจะเชื่อได้ยังไงล่ะ ลืมเรื่องแกล้งเป็นแฟนไปก่อนตกลงไหม”
“ตกลงก็ได้ค่ะ ถ้างั้นคุณแฟนก็รีบพาเนเน่กลับคอนโดนะคะ เนเน่อยากกลับจะแย่แล้ว”
“ตกลงครับ”
เขาขับรถออกจากโรงพยาบาลและตรงไปยังคอนโดมิเนียมของชญานิษฐ์ที่อยู่ไม่ไกลมากเท่าไหร่
คอนโดของหญิงสาวเป็นคอนโดระดับกลางที่ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นคนวัยทำงานห้องพักของเธอบนชั้นที่ 22 ภายในมีหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำมีห้องครัวและห้องรับแขกแม้พื้นที่จะไม่กว้างมากแต่ทุกอย่างก็จะได้อย่างลงตัว
“เนเน่พักที่นี่คนเดียวเหรอ พี่นึกว่าเนเน่จะพักที่เดียวกับหวาน”
“หวานพักอยู่กับครอบครัวค่ะ แต่ถ้าวันไหนมีรีวิวสินค้าหรือต้องไลฟ์สดขายของกันดึก หวานก็จะมาค้างที่นี่ ปกติเราจะไลฟ์สดขายของตรงนั้นไงคะ มันอาจจะดูรกไปหน่อยเพราะห้องนี้นี่แคบทุกอย่างก็เลยอัดกันอยู่ตรงนั้น” ชญานิษฐ์ชิไปมุมหนึ่งของห้องที่จัดไว้สำหรับการไลฟ์สดขายสินต้า
“แต่พี่ว่ามันดูน่ารักดีเหมือนกันนะ พี่ยังไม่เคยดูเนเน่ไลฟ์สดขายสินค้าเลย”
“คืนนี้เนแน่กับหวานจะไลฟ์สดขายลิปสติกค่ะ เราเพิ่งรับสินค้ามาถ้าพี่อยากรู้ว่าเราขายของกันยังไงก็ลองเปิดดูนะคะ น่าจะเป็นช่วงเวลาสามทุ่มถึงสามทุ่มครึ่งค่ะ”
“ไลฟ์สดขายสินค้าแบบนี้เราต้องซื้อสินค้ามาก่อนไหม”
“ไม่หรอกค่ะเราดิวกับทางบริษัทที่เขาจำหน่ายได้ยอดเท่าไหร่ฝ่ายนั้นก็จะเป็นคนจัดส่งให้เรา”
“ปกติคนอื่นเขาก็ทำกันแบบนี้เหรอ”
“ส่วนใหญ่เขาก็อาจจะเอาสินค้ามาสต๊อกและแพ็กของส่งของกันเองค่ะแต่หวานกับเนเน่ทำกันสองคนไม่ไหวค่ะ ก็เลยเลือกรับเฉพาะสินค้าที่เขามีบริการแพ็กแล้วส่งให้เราก็แค่ส่งยอดและที่อยู่ให้เขาจากนั้นเขาก็จะจัดการแพ็กสินค้าทั้งหมดส่งให้เราเอง”
“แบบนี้จะไม่กลัวเขาโกงไม่เหรอ”
“เรารับสินค้าเข้ามาบ่อยแล้วก็เลยค่อนข้างจะไว้ใจ แล้วเราก็จะบอกในไลฟ์ว่าบริษัทจะเป็นคนส่งของถ้าหากคนที่ไม่ได้สินค้าเขาก็จะทำกับบริษัทไม่ได้ตามที่เนเน่”
“พี่อาจจะถามเรื่องนี้บ่อยหน่อยนะเพราะพี่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย เนเน่รำคาญหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะพี่อยากรู้อะไรก็ถามมาได้เลยค่ะ”
“ถ้างั้นพี่จะถามอีกเรื่อง”
“ถามอะไรคะ”
“วันเกิดที่จะถึงนี้อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด”
“มีใครเขาถามกันตรงๆล่ะคะ”
“ก็เนเน่บอกพี่เองว่าอยากรู้อะไรก็ให้ถาม”
“จริงๆ ก็มีหลายอย่างที่อยากได้ค่ะ แต่คิดว่าเก็บเงินซื้อเองน่าจะดีกว่า แล้ววันนั้นพี่ก็ต้องไปเนเน่ด้วย แค่นี้ก็รู้สึกเกรงใจมากๆ แล้วค่ะพี่ธีไม่ต้องให้ของขวัญเลย”
“เนเน่ถ่ายเสร็จกี่โมง”
“ถ้าตามกำหนดก็น่าจะสองทุ่มค่ะ”
“พี่ไปรอนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ บางครั้งงานก็เลิกช้ากว่าปกติเอาว่าเป็นถ้าเนเน่ถ่ายเสร็จแล้วจะโทรบอกพี่ดีไหม พี่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรอ” ชญานิษฐ์รู้สึกเกรงใจมากๆ เพราะบางครั้งงานของเธอก็เสร็จไม่ตรงเวลา การจะให้ผู้บริหารไปนั่งรอก็น่าจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
“แล้วถ้าพี่บอกว่าพี่เต็มใจไปนั่งรอล่ะ”
“ก็แล้วแต่พี่ธีเลยค่ะ แต่พี่จะเบื่อไหมเพราะมันจะมีแต่ผู้หญิงนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก บางทีการไปนั่งรอเนเน่มันอาจจะทำให้คนอื่นเห็นเยอะขึ้น แล้วมันก็เป็นประโยชน์กับเราสองคน”
“ถ้างั้นก็ตามใจพี่ธีเลยค่ะ แต่ตอนนี้เนเน่ว่าพี่ธีน่าจะกลับได้แล้วนะคะ”
“ทำไมจะต้องรีบไล่กลับเลยล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เกรงใจพี่นิดหน่อยนี่มันก็เย็นมากแล้ว”
“นั่นสินะมันเย็นมากแล้ว เย็นนี้เนเน่จะกินอะไรล่ะให้พี่ซื้อมาให้มั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะเดี๋ยวลงไปกินเองก็ได้”
“แต่แผลยังไม่หายดีนะ”
“มันไม่เจ็บแล้วค่ะ หมอก็บอกว่าแผลแห้งดีแล้ว แค่อย่าพึ่งลงน้ำหนักมากแค่นั้นเอง”
“ถ้ายังงั้นเราสั่งอาหารขึ้นมากินที่นี่ดีไหมล่ะ”
“ก็ได้ค่ะพี่ธีอยากกินอะไรเดี๋ยวเนเน่สั่งร้านใกล้ๆ แถวนี้ให้เขามีบริการส่งด้วย”
“ปกติแล้วเนเน่ชอบกินอะไรล่ะ”
“ก็อาหารตามสั่งทั่วไปค่ะ”
“อยากลองกินอาหารของโรงแรมไหม เดี๋ยวพี่สั่งให้เขาเอามาส่งที่นี่”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เนเน่เกรงใจ”
“เกรงใจอีกแล้วพี่ว่าเลิกพูดคำนี่เถอะถ้าพี่ได้ยินอีกพี่จะปรับเงินนะ”
“ไม่พูดก็ได้ค่ะ”
“แล้วอยากกินอะไรล่ะ”
“พี่ธีคะ ถ้าเนเน่สั่งอาหารของโรงแรมมากินที่นี่มันคงไม่อร่อยเท่าไหร่ บรรยากาศมันไม่ได้ค่ะ เอาไว้เนเน่หายดีก่อนนะคะ เนเน่จะขอไปใช้บริการร้านอาหารที่โรงแรมของพี่ดีไหม”
“ดีเลยแล้วอย่าลืมทำรีวิวให้พี่ด้วยล่ะ”
“พี่ธีนี้นึกถึงแต่ผลประโยชน์เป็นหลักเลยนะคะ เนเน่ชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่จ้างให้เนเน่เป็นแฟนเพื่ออยากจะกลบข่าวเรื่องอุบัติเหตุหรืออยากจะประชาสัมพันธ์โรงแรมของตัวเองกันแน่”
“เนเน่รู้ทันพี่แบบนี้แล้วก็ไม่สนุกเลยสิ” เขาพูดแล้วหัวเราะมันทำให้หญิงสาวมองแล้วยิ้มตามไปด้วย
“ตกลงกินอะไรคะ เนเน่ว่าจะสั่งกะเพราหมูกรอบไข่ดาวค่ะ พี่ธีเอาด้วยไหม”
“ทำไมต้องทำเสียงกระซิบแบบนั้นเลยล่ะ”
“ลืมไปค่ะ นึกว่าหวานอยู่แถวนี้”
“ถ้าหวานอยู่แถวนี้มันจะเป็นอะไรล่ะ”
“ก็หวานไม่ค่อยให้เนเน่กินหมูกรอบค่ะ กินแล้วมันอ้วน และเนเน่ก็ขี้เกียจออกกำลังกาย แต่ตอนนี้หวานไม่อยู่ขอทำตามใจตัวเองก็แล้วกันพี่ธีกินอะไรดีคะ”
“พี่ขอเป็นคะน้าหมูกรอบก็แล้วกัน”
“พี่ธีเอาไข่เจียวกับต้มจืดเพิ่มเลยดีไหม เนเน่จะได้ยกเลิกไข่ดาวของตัวเอง”
“ได้ครับ”
เมื่อได้รายการอาหารแล้วญานิษฐ์ก็โทรศัพท์ไปสั่ง ไม่นานอาหารก็มาส่งและธีธวัชเป็นคนลงไปเอาที่ชั้นล่าง
เขานั่งทานอาหารกับเธอจนอิ่มก็ขอตัวกลับเพราะอยากให้หญิงสาวได้มีเวลาพัก
