ตอนที่3 ขอร้อง
พราวไหมเดินทางเข้ามาในคลินิคเวชกรรมในตัวอำเภอช่วงบ่าย เธอเข้ามาหาหมอณคุณญาติห่างๆ ของเธอที่เป็นเจ้าของคลินิคนี้เพื่อขอร้องให้เขาช่วยในเรื่องที่กำลังร้อนใจ
“จะให้พี่ทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ” หมอหนุ่มนั่งขยับแว่นครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อพราวไหมขอให้เขาลงใบรับรองแพทย์ว่าเธอป่วยในอาทิตย์หน้า แถมเมื่อถึงวันนั้นเขาก็ต้องโทรไปที่รีสอร์ทเพื่อลางานให้กับพราวไหมด้วย
“ขอร้องนะคะ เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ไหมมาขอร้องพี่หมอแบบนี้ ช่วยน้องหน่อยน้า” พราวไหมนั่งฟุบบนเก้าอี้ล้อเลื่อนก่อนจะใช้เท้าสาวเลื่อนตัวไปอยู่ข้างๆ หมอหนุ่มและทำหน้าตาน่าสงสารพร้อมพูดเสียงอู้อี้ออดอ้อนให้เขานั้นเห็นใจ
“ถามจริงๆ เถอะไหม ทำแบบนี้ทำไมอยากลางานทำไมไม่ขออ้อมดีๆ แค่สามวันพี่ว่ายังไงอ้อมก็ให้ลาอยู่แล้ว”
“ขอไม่บอกเหตุผลได้ไหมคะ แต่ถ้าไหมไม่ได้ลาในวันนั้นไหมต้องจิตตกไปเป็นเดือนแน่เลยค่ะ”
“หื้ม”
“นะคะ นะค้า..”
คนที่ไม่เคยทำผิดจรรยาบรรณของหมอนั่งเงียบคิดแล้วคิดอีก เหลือบสายตาไปมองน้องสาวตนทีไรก็เห็นว่าเธอทำหน้าทำตาเป็นคนอมทุกข์แล้วแบบนี้เขาจะไม่ใจอ่อนได้อย่างไร
“ก็ได้ๆ พี่ช่วยแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แต่คราวหน้าเรื่องแบบนี้พี่ไม่ช่วยแล้วนะ”
“ขอบคุณนะคะ พี่หมอคุณใจดีกับน้องคนนี้เสมอเลย ขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อได้สิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วพราวไหมก็เลือกที่จะลุกจากเก้าอี้เดินออกไปจากห้องทำงานของหมอหนุ่ม
ณคุณนั่งส่ายหัวมองตามหลังคนตัวเล็กที่กำลังเปิดประตูเดินกลับออกไป ไม่ได้รำคาญพราวไหมแต่อย่างใด แต่รำคาญตัวเองมากกว่าที่เห็นคนอื่นทำสีหน้าอมทุกข์ทีไรเป็นอันอดสงสารไม่ได้ทุกที
พราวไหม นิธิวรพัฒน์ หญิงสาววัย23ย่าง24ปี เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผมดำขลับยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าหวาน คิ้วเรียวได้รูปดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อย มีเสน่ห์มากเวลาที่เธอได้มีรอยยิ้ม สูงเพียง155 หนัก45
เธอเป็นคนที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชีวิตตอนนี้ได้แต่คิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องขยันทำงานเพื่อสร้างตัวให้ได้ เพราะจากที่มีฐานะปานกลางอยู่ดีๆ ธุรกิจที่พ่อของเธอสร้างไว้ก็ล้มละลายลงหลังจากที่เธอเรียนจบ
ก่อนหน้านี้พราวไหมเป็นลูกสาวของคเชนเจ้าของธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของจังหวัดสระบุรี เธอเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กและถูกวาสนาแม่เลี้ยงนั้นเลี้ยงดูคู่กับวิรินดาลูกติดของวาสนามาโดยตลอด
แม้นจะไม่ค่อยได้รับความรักจากวาสนามากนักแต่ก็ยังดีที่แม่เลี้ยงของเธอยังคอยดูแลเมื่อยามเธอเจ็บป่วย หรือดูแลเรื่องธุระไปรับไปส่งเธอไปโรงเรียนตลอดมา
จนกระทั่งมาถึงวันที่เธอได้เรียนจบมัธยมปลาย พ่อของเธอก็มาเสียด้วยโรคร้าย ธุรกิจทุกอย่างตกไปอยู่ในมือของวาสนา หลังจากนั้นเธอก็ถูกส่งให้มาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครโดยมีวาสนาเป็นคนดูแลมรดกที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้และคอยส่งเสียค่าใช้จ่ายในการเรียน
ช่วงที่เธอเข้าฝึกงานในตอนใกล้เรียนจบ เธอได้เข้าไปฝึกงานที่โรงแรงในเครือของธีรวรางค์ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยความราบรื่น และเธอก็ได้มีโอกาสคบหากับประธานบริหารโรงแรมอย่างเตมินทร์
คราแรกไม่มั่นใจว่าเขาจะมาจริงจังอะไรกับเด็กฝึกงานอย่างเธอ จึงไม่เล่นด้วย แต่เมื่อถูกฝ่ายชายตามตื๊อหนักเข้า พราวไหมก็เริ่มใจอ่อนและยอมคบหาดูใจกับเตมินทร์
แต่แล้วเธอก็ได้มารู้ว่าเขาทำดีกับเธอเพียงเพื่อการแก้แค้นเท่านั้น ความรักที่ไม่เป็นดั่งหวังจึงทำให้เธอไม่เป็นอันทำงาน แต่ก็ได้เซ็นให้การฝึกงานผ่านไปได้ด้วยดี
เพราะเตมินทร์รู้ความจริงว่าเข้าใจเธอผิดไป แม้นเขาจะขอโทษเธออยู่หลายครั้งหลายครา แต่เธอก็มาสามารถกลับไปให้อภัยเขาได้อยู่ดี
และแล้วก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกำซัด ในขณะที่เธอกำลังจะเรียนจบ ธุรกิจที่พ่อของเธอสร้างมากับแม่สองคนก็ล้มละลายลง บ้านช่องถูกยึดจนเธอไม่มีบ้านจะอยู่ และวาสนาก็หอบเงินที่เหลือหนีไปและตัดหางปล่อยวัดเธอให้ใช้ชีวิตตามชะตากรรม โดยที่ทุกวันนี้เธอก็ไม่รู้อีกเลยว่าวาสนาและวิรินดาไปอยู่กันที่ไหน
ตอนนั้นเธอรู้สึกเคว้งคว้างหมดอาลัยตายอยาก จนได้อรอุมาเจ้าของรีสอร์ทที่เป็นเพื่อนเก่าของพ่อเธอมารับเธอไปอยู่ด้วย และให้การให้งานทำ จนเธอได้มาเป็นผู้จัดการรีสอร์ททำงานร่วมกับอลิสาลูกสาวของอรอุมาจวบจนถึงทุกวันนี้
